ไปรษณีย์ไทยเข้มมาตรการรับมือ“โควิด-19”ระลอกใหม่ ทุกพื้นที่บริการปลอดภัย 100%

0
121

ไปรษณีย์ไทย ย้ำมาตรการความปลอดภัยหลังพบการระบาดโควิด – 19 เพิ่มเติมในพื้นที่สมุทรสาคร โดยเพิ่มความถี่การทำความสะอาดที่ทำการไปรษณีย์ทุก 20 นาที พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสิ่งของฝากส่งผ่านทางไปรษณีย์ขาเข้าที่มาจากพื้นที่เสี่ยง บริการรับ – ส่งสิ่งของและพัสดุในประเทศ ณ ที่อยู่ของลูกค้าผ่านบุรุษไปรษณีย์และรถยนต์ที่ให้บริการรับฝากสิ่งของ ย้ำเจ้าหน้าที่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะระหว่างปฏิบัติงานทุกครั้ง

นายกาหลง ทรัพย์สอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า จากการระบาดของโรคโควิด – 19 ที่กระจายตัวเพิ่มขึ้นในจังหวัดสมุทรสาคร ไปรษณีย์ไทยเล็งเห็นว่า สถานการณ์ดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อการให้บริการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ จึงได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเพิ่มมาตรการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยล่าสุดได้กำชับให้หน่วยงานภายใน เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ ศูนย์คัดแยกพัสดุ และบุคลากรที่ปฏิบัติงานปฏิบัติตนตามมาตรการติดตาม ป้องกัน และเฝ้าระวังอย่างรัดกุมเพื่อสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นอย่างสูงสุด ผ่านแนวทางที่สำคัญดังนี้

ด้านการให้บริการลูกค้า จัดให้มีบริการเจลทำความสะอาดมือสำหรับผู้ใช้บริการทุกที่ทำการไปรษณีย์

ด้านที่ทำการไปรษณีย์ ยกระดับมาตรการด้านชีวอนามัยโดยมีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิทุกที่ทำการฯ เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดทุก 20 นาทีของที่ทำการฯ  รวมถึงร้านไปรษณีย์และเครือข่ายของไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศทุกแห่ง โดยเฉพาะจุดที่ให้บริการลูกค้า อาทิ มือจับประตู จุดกดบัตรคิว เก้าอี้ เคาน์เตอร์ให้บริการ และยังคงดำเนินงานตามมาตรการเว้นระยะห่าง หรือ Social Distancing โดยเฉพาะในจุดนั่งพักและพื้นที่เพื่อรอการให้บริการ

ด้านบุคลากร และเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาล้างมือทุกครั้งหลังมีการสัมผัสกับจดหมาย พัสดุ และการออกไปปฏิบัติงานนอกพื้นที่ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีการระบาด โดยเฉพาะบุรุษไปรษณีย์ ไปรษณีย์ไทยได้แจกหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่อความสะอาด ปลอดภัย อีกทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ ให้มีการสังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย หากมีอาการหนึ่งอาการใดให้รีบพบแพทย์และรายงานอาการโดยไม่มีการปกปิดทันที

ด้านศูนย์ไปรษณีย์ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสิ่งของฝากส่งผ่านทางไปรษณีย์ขาเข้าที่มาจากพื้นที่เสี่ยงและต่างประเทศทุกชิ้น ในศูนย์ไปรษณีย์ 4 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) และศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพ ซึ่งถือเป็นศูนย์ไปรษณีย์หลักในการคัดแยกไปรษณียภัณฑ์ก่อนกระจายส่งพัสดุไปยังประชาชน

บริการฝากส่งสิ่งของนอกสถานที่ (Pick up service) ซึ่งเป็นบริการรับ – ส่งสิ่งของและพัสดุในประเทศแบบไม่จำกัดจำนวนชิ้น ณ ที่อยู่ของลูกค้า ผ่านบุรุษไปรษณีย์ในพื้นที่และรถยนต์ที่ให้บริการรับฝากสิ่งของ ที่มีสัญลักษณ์ Pick Up Service เพื่ออำนวยความสะดวกและสนับสนุนการอยู่บ้านลดการแพร่เชื้อ

“สำหรับในส่วนของพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19เพิ่มเติมในขณะนี้ไปรษณีย์ขอชี้แจงให้ทราบว่า ยังคงมีการให้บริการตามปกติภายใต้การดำเนินงานและมาตรฐานด้านชีวอนามัยที่เป็นไปอย่างรัดกุม เพื่อให้ประสิทธิภาพความพึงพอใจและความปลอดภัยเกิดขึ้นควบคู่กัน ซึ่งในการปฏิบัติงานตั้งแต่วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไปจะมีการปรับเวลาทำการทุก ปณ.เป็นเวลา 09.00-16.00 น. มีการจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเป็น 2 เวรสลับกันทำงานคนละวันหรือสัปดาห์ พร้อมกำหนดมาตรการตรวจคุมเข้มผู้ใช้บริการและมาตรการในการป้องกันโควิด 19 ตามแนวทางที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากสถานการณ์รุนแรงหรือเปลี่ยนแปลงจะกำหนดแนวทางวิธีการใหม่ตามที่จังหวัดสมุทรสาคร หรือรัฐบาลกำหนดอีกครั้งหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้บริการและประชาชนยังคงมั่นใจได้ว่าสิ่งของและพัสดุทุกชิ้นจะถึงปลายทางด้วยความปลอดภัยและในระยะเวลาที่รวดเร็วที่สุด และทุกส่วนงานในการให้บริการของไปรษณีย์มีความปลอดภัย 100 %” นายกาหลง กล่าวสรุป