การรถไฟฯเปิดหวูดเพิ่ม 46 ขบวนรับเปิดประเทศ

0
108

การรถไฟฯ เปิดให้บริการเดินรถเพิ่ม 46 ขบวน รองรับการผ่อนคลายมาตรการของ ศบค. และนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)ได้มีมาตรการผ่อนคลายการเดินทาง และยกเลิกมาตรการห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ทุกจังหวัด ยกเว้นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 7 จังหวัด การรถไฟฯ จึงได้ปรับการเดินขบวนรถให้สอดคล้องกับสภาพการเดินทางและรองรับนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล โดยเพิ่มการให้บริการขบวนรถเชิงพาณิชย์ และขบวนรถเชิงสังคมจำนวน 46 ขบวน ได้แก่ เส้นทางสายเหนือ 10 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 16 ขบวน สายใต้ 6 ขบวน สายตะวันออก 4 ขบวน และสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย 10 ขบวน รวมทั้งปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทางในบางขบวนใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางแก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษาและนักท่องเที่ยว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป โดยมีขบวนรถที่ให้บริการในเส้นทางต่าง ๆ ดังนี้

สายเหนือ

ขบวนรถเชิงพาณิชย์ จำนวน 6 ขบวน

– ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13/14  กรุงเทพ – เชียงใหม่ – กรุงเทพ (เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564)

– ขบวนรถด่วนที่ 107/108  กรุงเทพ – เด่นชัย – กรุงเทพ

– ขบวนรถเร็วที่ 111/112  กรุงเทพ – เด่นชัย – กรุงเทพ

ขบวนรถเชิงสังคม จำนวน 4 ขบวน   

– ขบวนรถธรรมดาที่ 207/208  กรุงเทพ – นครสวรรค์ – กรุงเทพ

– ขบวนรถธรรมดาที่ 209/210  กรุงเทพ – บ้านตาคลี – กรุงเทพ

สายตะวันออกเฉียงเหนือ

ขบวนรถเชิงพาณิชย์ จำนวน 4 ขบวน

– ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 21/22  กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ

– ขบวนรถเร็วที่ 133/134  กรุงเทพ – หนองคาย – กรุงเทพ

ขบวนรถเชิงสังคม จำนวน 12 ขบวน

– ขบวนรถชานเมืองที่ 339/340  กรุงเทพ – ชุมทางแก่งคอย – กรุงเทพ

– ขบวนรถท้องถิ่นที่ 419/420  นครราชสีมา – อุบลราชธานี – ลำชี

– ขบวนรถท้องถิ่นที่ 423/424  ลำชี – สำโรงทาบ – นครราชสีมา

– ขบวนรถท้องถิ่นที่ 425/422  ลำชี – อุบลราชธานี – ลำชี

– ขบวนรถท้องถิ่นที่ 431/432  ชุมทางแก่งคอย – ขอนแก่น – ชุมทางแก่งคอย

– ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439/440 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอย

สายใต้

ขบวนรถเชิงสังคม จำนวน 6 ขบวน

– ขบวนรถท้องถิ่นที่ 455/456  ชุมทางหาดใหญ่ – ยะลา – ชุมทางหาดใหญ่  (ไม่มีเดินช่วงนครศรีธรรมราช – หาดใหญ่ – นครศรีธรรมราช)

– ขบวนรถท้องถิ่นที่ 489/490  สุราษฎร์ธานี – คีรีรัฐนิคม – สุราษฎร์ธานี

– ขบวนรถท้องถิ่นที่ 485/486  กาญจนบุรี – น้ำตก – กาญจนบุรี (ไม่มีเดินช่วงหนองปลาดุก – กาญจนบุรี – หนองปลาดุก)

สายตะวันออก

ขบวนรถเชิงพาณิชย์ จำนวน 1 ขบวน

– ขบวนรถพิเศษที่ 997/998  กรุงเทพ – บ้านพลูตาหลวง – กรุงเทพ  (ให้บริการตั้งแต่วันที่  6 พฤศจิกายน 2564)

ขบวนรถเชิงสังคม จำนวน 1 ขบวน

– ขบวนรถธรรมดาที่ 281/282  กรุงเทพ – กบินทร์บุรี – กรุงเทพ

สายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ จำนวน 10 ขบวน 

– ขบวนรถธรรมดาที่ 4308/4309 มหาชัย – วงเวียนใหญ่ – มหาชัย

– ขบวนรถธรรมดาที่ 4310/4311 มหาชัย – วงเวียนใหญ่ – มหาชัย

– ขบวนรถธรรมดาที่ 4326/4327 มหาชัย – วงเวียนใหญ่ – มหาชัย

– ขบวนรถธรรมดาที่ 4328/4329 มหาชัย – วงเวียนใหญ่ – มหาชัย

– ขบวนรถธรรมดาที่ 4340/4341 มหาชัย – วงเวียนใหญ่ – มหาชัย

นายนิรุฒ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรถไฟฯ ได้ทยอยปรับเพิ่มการเดินรถให้สอดรับกับการผ่อนคลายมาตรการของ ศบค. เพื่อให้มีจำนวนเพียงพอและเหมาะสมต่อการให้บริการแก่ประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันได้เปิดให้บริการทั้งสิ้น 108 ขบวนต่อวัน เป็นขบวนรถเชิงพาณิชย์ 26 ขบวน และขบวนรถเชิงสังคม 82 ขบวน โดยแบ่งตามเส้นทางเป็นสายเหนือ 22 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 24 ขบวน สายใต้ 30 ขบวน สายตะวันออก 16 ขบวน สายมหาชัย 12 ขบวน  และสายแม่กลอง 4 ขบวน 

อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มให้บริการเดินรถในครั้งนี้ การรถไฟฯ คำนึงถึงการให้บริการประชาชน ควบคู่กับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยได้กำหนดจุดคัดกรองวัดไข้ผู้โดยสารก่อนเข้าในพื้นที่สถานี การตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือ การให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมกับให้สแกนแอพพลิเคชันไทยชนะก่อนและหลังใช้บริการ

หากผู้โดยสารไม่สามารถใช้แอพพลิเคชันไทยชนะให้กรอกข้อมูลการเดินทางแทน พร้อมกับต้องกรอกข้อมูลเดินทางข้ามจังหวัด-ข้ามเขตผ่านเว็บไซต์ “หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” https://covid-19.in.th/ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตลอดการเดินทาง สำหรับประชาชนที่ต้องการเดินทาง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย