ไม่รอช้า กรมเจ้าท่าเร่งกู้เรือล่ม ทำน้ำมันรั่วกลางอ่าวไทย

0
88

กรมเจ้าท่า เร่งดำเนินการติดตามการกู้เรือ พร้อมขจัดคราบน้ำมันรั่วไหล เรือบรรทุก ป.อันดามัน 2 อับปางกลางอ่าวไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 22 มกราคม 65 เวลา 19.15 น. ที่ผ่านมา กรมเจ้าท่า ได้รับรายงานเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล (น้ำมันเขียว) ชื่อเรือ “ป.อันดามัน 2” ซึ่งจอดทอดสมอได้อับปางลงบริเวณอ่าวไทย ห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 24 ไมล์ทะเล และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้น พบว่าเรือ ป.อันดามัน 2 มีนายวายุ หมอยาดี เป็นนายเรือ มีลูกเรือจำนวน 5 นาย ซึ่งนายเรือและลูกเรือทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือจากเรือวีนัส 21 อย่างปลอดภัย

นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย(จท.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 สาขาชุมพรติดตามและประสานบริษัทแหลมทองค้าน้ำมันประมงไทย จำกัด ที่เป็นเจ้าของเรือลำดังกล่าว เร่งกู้เรือพร้อมทำการขจัดคราบน้ำมันเร่งวางทุ่นล้อมน้ำมัน บริเวณเรือที่จม พร้อมประกาศเป็นพื้นที่อันตราย โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 สาขาชุมพร ได้มีการออกประกาศสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาชุมพร ที่ 5/2565 เรื่อง ห้ามเดินเรือเข้าพื้นที่ที่ทำการกู้เรือ หรือทำการรื้อ ขนย้าย หรือทำลายซากเรือที่จมไม่น้อยกว่าระยะ 1 ไมล์ทะเล ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2565 ถึงจนกว่าจะกู้เรือแล้วเสร็จ พร้อมมีคำสั่งห้ามใช้เรือจนกว่าผู้ครอบครองเรือจะแก้ไขปรับปรุงเรือให้มีสภาพเรียบร้อยปลอดภัยแก่การใช้งาน ทั้งนี้ การดำเนินการกู้เรือและขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลต้องเป็นไปตามมาตรการและแผนการดำเนินการด้านความปลอดภัยที่กรมเจ้าท่ากำหนด

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบคราบน้ำมันที่กระจายตัว พบว่าลักษณะของน้ำมันเป็นฟิล์มน้ำมันบางๆการปล่อยให้สลายตัวตามธรรมชาติจะมีความเหมาะสม เนื่องจากชนิดของน้ำมันที่รั่วไหลสามารถสลายตัวเองได้ดีในธรรมชาติ แต่ยังต้องมีการติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบของคราบน้ำมันว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณใกล้เคียงในลักษณะใดบ้าง เพื่อหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมต่อไป โดยเบื้องต้นจะใช้วิธีการกักและเก็บโดยทุ่นน้ำมัน (Boom) จำกัดขอบเขตการแพร่กระจายของน้ำมันเอาไว้ขณะกู้เรือ พร้อมใช้สารเคมีขจัดคราบน้ำมันฉีดพ่นไปบนพื้นผิวน้ำ โดยชนิดของน้ำมันที่รั่วไหลในครั้งนี้ คือ น้ำมันดีเซล ซึ่งจัดเป็นน้ำมันเบาสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ

โดยกรมเจ้าท่าได้ประสานการดำเนินการแบบบูรณาการร่วมกับกองทัพเรือในการปฏิบัติตามแผนการขจัดคราบน้ำมัน พร้อมเร่งตรวจสอบความปลอดภัยของเรือลำอื่นๆที่จอดทอดสมออยู่กลางทะเล โดยกรมเจ้าท่าได้มีการออกคำสั่งให้กู้เรือโดยเร็วที่สุดพร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบโดยเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 1302 บริเวณชายฝั่ง ปัจจุบันในพื้นที่ยังไม่พบคราบน้ำมัน พร้อมกันนี้ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนตามมาตรการการป้องกันเหตุการณ์ฉุกเฉินในกรณีน้ำมันรั่วไหล พร้อมเน้นย้ำให้ผู้ควบคุมเรือเจ้าของเรือ ตรวจเช็คสภาพความพร้อมของเรือเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำขึ้นอีก