ควบรวม “TOT-CAT”นับ 1 ใหม่

0
511

บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ ล้มแผนเดิมตั้ง 2บริษัทลูก ตั้งคณะทำงานพิจารณาในรายละเอียดทั้งด้านคดีความ และใบอนุญาตกลับมาเสนอพ.ย.นี้ ขณะที่”สมคิด”หนุนการบินไทยซื้อฝูงบินใหม่ ยันรัฐพร้อมหนุนหลังทางการเงิน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.)ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)ควบรวมกัน เพื่อพัฒนาและยกระดับความสามารถในการแข่งขันเนื่องจากในอนาคตโลกจะมีการแข่งขันด้านโทรคมนาคมมากขึ้น ดังนั้นจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งกับตัวองค์กรและประเทศชาติ
นายสมคิด กล่าวด้วยว่าบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) ได้นำเสนอทิศทางการพัฒนาการบินไทยสู่การเป็น National Premium Airline ให้ที่ประชุมคนร.รับทราบ ซึ่งในวันที่ 20 ก.ย.นี้จะเดินทางไปรับฟังแผนการทำงานตามแนวทางดังกล่าวจากทางผู้บริหารการบินไทย สำหรับแนวทางการจัดซื้อฝูงบินใหม่ของการบินไทยนั้น ส่วนตัวเห็นว่ามีความจำเป็น เพราะอุตสาหกรรมการบินในปัจจุบันแข่งขันกันด้วยเครื่องบินและอาหารที่ดี ส่วนจะต้องซื้อเครื่องบินแบบใดให้สอดรับกับแผนงานนั้นการบินไทยจะต้องไปพิจารณา อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างพันธมิตรการบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“การซื้อฝูงบินใหม่ของการบินไทยเป็นเรื่องสำคัญ จะซื้อเครื่องอะไร และใช้กับเส้นทางไหน ส่วนเรื่องการเงินไม่มีปัญหาเพราะรัฐบาลพร้อมอยู่ข้างหลังอยู่แล้ว”
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังกล่าวว่า บริษัทการบินไทยมีความจำเป็นที่จะต้องซื้อเครื่องบินใหม่อยู่แล้ว ถ้าไม่ซื้อก็จะทำงานไม่ได้
ด้านนายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)กล่าวว่าที่ประชุมคนร.รับทราบในหลักการ ให้ควบรวมบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ตั้งเป็นบริษัทใหม่ชื่อว่า บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ ตามข้อเสนอของ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) และยกเลิกการจัดตั้ง บริษัท โครงข่าย บรอดแบนด์แห่งชาติ (เอ็นบีเอ็น) และบริษัท โครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จำกัด (เอ็นจีดีซี) ซึ่งเป็นบริษัทลูกตามแผนเดิม ส่วนรายละเอียดในการจัดตั้งบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาตินั้น จะตั้งคณะทำงานขึ้นมามีปลัดกระทรวงดีอีเป็นประธานเพื่อศึกษารายละเอียดในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และให้นำมาเสนอให้ที่ประชุมคนร.พิจารณาในเดือนพ.ย.นี้
“มีเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณาในการควบรวมทีโอทีกับกสท คือในเรื่องคดีความ และใบอนุญาตต่างๆ ซึ่งในเรื่องคดีความนั้นเช่นกรณีทีโอทีกับกสท ฟ้องร้องคดีบุคคลที่3 แต่กสท.เป็นผู้ค้ำประกัน จะเคลียร์กันเรื่องคดีอย่างไร เพื่อให้เกิดความชัดเจน ส่วนใบอนุญาตต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกสทช.และสิทธิหน้าที่ต่างๆนั้นก็ต้องไปเคลียร์เช่นเดียวกัน ในส่วนของการดำเนินการควบรวมครั้งนี้ได้ทำตามมติบอร์ดของทั้ง 2 บริษัทที่เห็นชอบมาแล้ว ดังนั้นจะมีการตั้งคณะทำงานมาศึกษาในรายละเอียดโดยมีผู้แทนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมพิจารณา”
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบความคืบหน้าของธนาคารอิสลาม ในเรื่องการเพิ่มทุนและการแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ ในเดือนต.ค.นี้น่าจะเรียบร้อยและมีแนวโน้มที่จะออกจากแผนฟื้นฟูได้เช่นเดียวกับธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอ็มเอ็มอีแบงก์ ที่ออกจากแผนฟื้นฟูไปก่อนหน้านี้ ซึ่งธนาคารอิสลามจะทยอยเพิ่มทุนได้ตั้งแต่เดือนต.ค.นี้ และมีผลประกอบการในช่วง 8 เดือน เป็นกำไรสุทธิทั้งสิ้น 811 ล้านบาท
ด้านนายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการสคร.กล่าวว่า เรื่องกระบวนการจัดซื้อฝูงบินของบริษัทการบินไทยนั้น ก่อนหน้านี้การบินไทยได้เสนอแผนไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ซึ่งสศช.ได้ส่งเรื่องกลับมาให้การบินไทยพิจารณาอีกครั้งเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารทั้งประธานบอร์ดการบินไทย และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่(ดีดี)คนใหม่ คิดว่าอีกประมาณ 1 เดือน การบินไทยน่าจะเสนอเรื่องกลับไปให้สศช.พิจารณาเรื่องความจำเป็นในการจัดหาเครื่องบินใหม่
อย่างไรก็ตาม ประธานบอร์ดและดีดีการบินไทยคนใหม่ได้นำเสนอแผนยุทธศาสตร์ของการบินไทยในที่ประชุมคนร.รับทราบ สำหรับในส่วนที่การบินไทยต้องปรับปรุงนั้นมีเรื่องสำคัญคือต้นทุน ที่ไม่ได้เกิดจากปัญหาด้านประสิทธิภาพ แต่ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องราคาน้ำมัน,อัตราแลกเปลี่ยนและอีกส่วนเป็นความด้อยค่าของทรัพย์สินและเครื่องบิน โดยมีแผนจะทำงานร่วมกับบริษัทปตท. จำกัด(มหาชน)ในเรื่องน้ำมัน และทำงานร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) เรื่องการจัดการทางการเงินและระบบตั๋ว และทำงานร่วมกับบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) (ทอท.) นำไปสู่การพัฒนาในภาพรวมขององค์กรทั้งหมด ส่วนในรายละเอียดจะมานำเสนออีกครั้ง
ส่วนประเด็นที่จะนำไปสู่การเป็น National Premium Airline มี 3 ส่วนคือเรื่อง ประกอบด้วยอาหารบนเครื่องบินต้องมีคุณภาพ,ตัวเครื่องบินต้องมีคุณภาพ และเครือข่ายที่ต้องมีการเชื่อมต่อ