ครม.ไฟเขียวโครงการสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5(บึงกาฬ-บอลิคำไซ)วงเงิน 2.63 พันล้าน

0
162

ครม.ไฟเขียวให้กรมทางหลวงดำเนินก่อสร้างโครงการสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5(บึงกาฬ – บอลิคำไซ) วงเงิน 2.63 พันล้าน เชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมขนส่งระหว่างไทยและ สปป.ลาว ลดต้นทุนและระยะเวลาการขนส่ง หนุนเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว รวมถึงเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี( ครม.) เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2562 อนุมัติให้กรมทางหลวงดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) วงเงินรวมทั้งสิ้น 2,630 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี โครงการฯ นี้ เป็นการดำเนินการตามที่ได้หารือกับ สปป.ลาว ในระหว่างการเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ระหว่างวันที่ 23 – 25 พฤษภาคม 2560 ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2560 สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติในหลายประเด็น เช่น ประเด็นการต่างประเทศ ความร่วมมือเศรษฐกิจและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ ประเด็นการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาค เป็นต้น และเป็นไปตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 – 2565 ในการเพิ่มขีดความสามารถทางหลวงเพื่อเชื่อมโยงฐานการผลิต

โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 ใช้วงเงินในการก่อสร้าง ประมาณ 3,930 ล้านบาท แบ่งเป็นค่างานฝั่งไทย จำนวน 2,630 ล้านบาท (ค่าก่อสร้าง 2,553 ล้านบาท ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 77 ล้านบาท ไม่รวมวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ 400 ล้านบาท) ส่วนค่างานฝั่ง สปป.ลาว 1,300 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงฯ ได้หารือกับกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณแล้ว เห็นควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี วงเงิน 2,630 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนการก่อสร้างที่ฝ่ายไทยรับผิดชอบ

ทั้งนี้ หากรวมค่าใช้จ่ายในการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อดำเนินโครงการฯ จำนวน 400 ล้านบาท ซึ่งกรมทางหลวงได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปี 2560 – 2561 จำนวน 250 ล้านบาท และอยู่ระหว่างขอรับการจัดสรรงบประมาณในส่วนที่เหลือ จะทำให้ต้องใช้งบประมาณสำหรับดำเนินโครงการฯ ที่แท้จริง รวมทั้งสิ้น 3,030 ล้านบาท ในส่วนของ สปป.ลาว ได้มีหนังสือแจ้งความประสงค์ขอกู้เงินไปยังสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ.) แล้ว โดย สพพ. จะดำเนินการเจรจาต่อรองเงื่อนไขการให้กู้เงินกับ สปป.ลาว ตามระเบียบต่อไป