สหพันธ์ขนส่งฯ“พอใจระดับหนึ่ง” ชี้ปรับลดภาษีดีเซล 3 บาท/ลิตรแก้ปัญหาแบบ “จิ๊กซอร์ “

0
83

เมื่อวันที่ 15 ก.พ.65 รายงานข่าวที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ.….ลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลง 3 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน (ก.พ.-เม.ย.) ทั้งนี้ ให้มีผลหลังจากราชกิจจานุเบกษาประกาศ

ขณะที่ปัจจุบันกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซลในอัตรา 5.99 บาทต่อลิตร สามารถจัดเก็บรายได้ประมาณเดือนละ 12,000 ล้านบาท หรือปีละ 1.44 แสนล้านบาท จากการใช้น้ำมัน 2,000 ล้านลิตรต่อเดือน หากปรับลดอัตราภาษีเต็มจำนวนอัตราภาษีที่จัดเก็บ จะทำให้กรมสรรพสามิตสูญเสียรายได้ไปในจำนวนดังกล่าวทั้งหมด

ด้าน ดร.ทองอยู่ คงขันธ์ ที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า พอใจระดับหนี่งที่ ตามที่ปรากฏจากรายงานข่าว ว่าครม.ปรับลดภาษีสรรพสามิต 3 บาท/ลิตรเป็นเวลา 3 เดือน เรื่องนี้รัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชน เพราะเดือนร้อนกันทุกภาคส่วนทั่วประเทศ เพราะราคาน้ำมันเป็นต้นทุนของภาคการผลิตและภาคบริการ

การปรับลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 3 บาท/ลิตร แล้วไม่ใช้แปลว่า ดีเซลยังตรึงราคาที่ 30 บาท/ลิตร ควรปรับลดอยู่ที่ 27 บาท/ลิตร นั่นจึงจะเรียกว่า “พอใจระดับหนึ่ง”น่าจะปรับแก้ในทุกมิติ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สหพันธ์การขนส่งฯได้เรียกร้องไปยังรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาน้ำมันแพงด่วน 6 ข้อ แต่มาวันนี้รัฐบาลเลือกดำเนินเพียง 1 ข้อเท่านั้น

“รัฐบาลเป็นการแก้ไขปัญหาแบบ “จิซอร์” ต่อไปคาดว่าจะเกิดปัญหากระทบเศรษฐกิจภาพรวมและลุกลามกลายเป็นโดมิโน ผมอยากเห็นรัฐบาลแก้ไขปัญหาทั้งระบบในทุกมิติ นอกจากราคาดีเซลแพงทั้งแผ่นดิน น้ำมันเบนซินก็ยังแพงอยู่ด้วย ดังนั้น ควรแก้ไปพร้อมๆกันทันที ที่ผ่านม ข้องใจทำไมรัฐบาลลดภาษีน้ำมันให้กับเครื่องบินได้เท่ากับทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำหรือ ยังเก่าไม่ถูกที่คัน”

ย้อนหลังพลิกดู 6 ข้อเสนอสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยมีดังต่อไปนี้

  1. เลิกการอ้างอิงราคาหน้าโรงกลั่นของประเทศสิงค์โปร์
  2. ยกเลิกการเจ็บภาษีที่ซ้ำซ้อน และยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง, กองทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ยกเลิกค่าการตลาด
  3. .พิจารณาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
  4. .สนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานทางเลือก พลังงานสะอาด ในราคาถูก
  5. นำกิจการด้านพลังงานกลับมาเป็นของรัฐเช่นเดิมเพราะชี้ชัดว่าการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้นไม่เป็นผลดีแก่ประชาชนแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้ประชาชนต้องใช้น้ำมันพลังงาน ในราคาที่แพงขึ้น ที่โฆษณาต่อประชาชนว่าการแข่งขั้นเสรีพลังงานแล้วประชาชนจะได้ใช้บริการในราคาที่ถูกลง ล้วนเป็นเรื่องไม่จริง
  6. 6.สนับสนุนให้ประเทศมีความมั่นคงด้านพลังงานโดยรัฐ หรือกิจการของรัฐ ต้องผลิตพลังงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำลังการผลิตทั้งหมด