วอลโว่ กรุ๊ป มั่นใจตลาดรถใหญ่ปีไก่ฟื้น! “ก่อสร้าง-ขนส่งข้ามแดน” หนุนโตต่อเนื่อง

หลังเกิดมหาอุทกภัยเขย่าประเทศไทยที่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างเมื่อปลายปี 54 ไม่มีทางเลือกที่รัฐต้องทุ่มสรรพกำลังเร่งรัดฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของประเทศขนานใหญ่ ส่งอานิสงส์ให้ความต้องการรถใหญ่เพื่อใช้ในภาคก่อสร้างสูงลิ่ว

0
1195

หลังเกิดมหาอุทกภัยเขย่าประเทศไทยที่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างเมื่อปลายปี 54 ไม่มีทางเลือกที่รัฐต้องทุ่มสรรพกำลังเร่งรัดฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของประเทศขนานใหญ่ ส่งอานิสงส์ให้ความต้องการรถใหญ่เพื่อใช้ในภาคก่อสร้างสูงลิ่ว โดยปี 55 ยอดขายพุ่งทะลุ 2.1หมื่นคัน และต่อเนื่องปี 56 ทะยานสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 3 หมื่นคัน แต่ครั้นเผชิญมรสุมทางการเมืองเมื่อปี 57 ยอดขายกลับตาลปัตรปรับตัวลดลงเหลือ 2.1หมื่นคัน ต่อเนื่องปี 58 ที่ดิ่งต่ำลงเหลือ 1.7 หมื่นคัน พอปีที่แล้วพลิกกลับมาโตเพิ่มขึ้น 7 % โดยยอดขายอยู่ที่ 1.8 หมื่นคัน ถือเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกหลังหดตัวต่อเนื่อง 2 ปี

ทันทีที่แหวกม่านปีไก่ได้ไม่ถึงขวบเดือน บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัดผู้ผลิตและจำหน่ายรถบรรทุกพรีเมี่ยมสายพันธุ์แกร่งจากสวีเดน “วอลโว่ ทรัคส์” และรถบรรทุกสายเลือดจาแดนอาทิตย์อุทัย “ยูดี ทรัคส์”ออกโรงเผยยอดขายรวมวอลโว่ กรุ๊ปปีที่แล้วพุ่ง 1,191 คัน โตเพิ่ม 17 % ยิ้มยอดขายยูดี ทรัคส์ทะยาน 800 คันเพิ่มขึ้น 56% จาก 512 คันในปี 58 เชื่อหลังภาครัฐเดินหน้าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผสมโรงภาคก่อสร้างยังเป็น “พระเอก”ส่งแรงกระตุ้นต่อเนื่อง หนุนตลาดรถใหญ่ปี 60 โตต่อเนื่องเป็นปีที่สอง คาดโตเพิ่มขึ้น 5-6%

ย้ำวอลโว่ กรุ๊ป ขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดในทุกมิติอย่างชาญฉลาด ติดปีกกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วย “การตลาดดิจิทัล”เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รุกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด คู่ขนานกับการลงทุน“พัฒนาบุคลากร”เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บและเติมเต็มศักยภาพทางการแข่งขัน ที่หลอมรวมเป็นความแข็งแกร่งพร้อมพุ่งชนทุกความสำเร็จในอนาคต

“ก่อสร้าง-ขนส่งข้าม” หนุนตลาดรถใหญ่ฟื้นต่อเนื่อง

กำลาภ ศิริกิตติวัฒน์

นายกำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด สะท้อนมุมมองต่อตลาดรถบรรทุกขนาดใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมาว่าตลาดรถใหญ่มีอัตราการเติบโตประมาณ 7% ซึ่งเปรียบเทียบกับปี พ.ศ. 2558 ที่ตลาดหดตัวมากกว่า 20% ทั้งนี้เป็นผลมาจากการกระตุ้นจากภาครัฐในการเดินหน้าโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ รวมถึงภาวะภัยแล้งที่ประเทศไทยประสบมาหลายปีเริ่มคลี่คลายเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เกษตรกรเริ่มมีรายได้ตามปกติ ขณะที่พืชผลทางการเกษตรเริ่มกระเตื้องตามภาวะราคาน้ำมันดิบ ผนวกกับห้วงเวลาที่ประเทศไทยได้เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ซึ่งเป็นอีกปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความต้องการจากภาคขนส่งสินค้าข้ามแดน

“เราได้เล็งเห็นสัญญาณบวกเหล่านี้และที่สำคัญคือการเดินหน้าลงทุนพัฒนาเมกะโปรเจ็คต่างๆของรัฐบาล ทำให้เราเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะมีอัตราเติบโตตามแรงกระตุ้น อีกทั้งหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจในทิศทางบวก ยิ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นถึงการฟื้นตัวเศรษฐกิจของไทย เราจึงมั่นใจว่าตลาดรถใหญ่จะได้รับอานิสงส์จากการกระตุ้นทางภาครัฐ และเชื่อมั่นจะยังคงเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่สองจากปีที่แล้วหลังจากตลาดหดตัวต่อเนื่องถึง 2 ปี คาดโตเพิ่มขึ้น 5-6 %

นอกจากนี้ ประธานกรรมการวอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) ระบุอีกว่าภาคธุรกิจที่จะมีส่วนต่อการกระตุ้นความต้องการใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ ได้แก่ภาคการก่อสร้าง ซึ่งเป็นแรงหนุนต่อเนื่องจากปีที่แล้ว และปีนี้ก็จะยังคงมีบทบาทต่อการกระตุ้นความต้องการใช้รถใหญ่ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เพราะการเดินหน้าโครงการก่อสร้างต่างๆของรัฐบาล บวกกับภาคการขนส่งสินค้าที่ต้องใช้ความปลอดภัยสูงเช่นวัตถุอันตรายและน้ำมันเชื้อเพลิง จะยังคงมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรถบรรทุกทั้งวอลโว่ ทรัคส์ และยูดี ทรัคส์ สามารถตอบสนองตลาดกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี จึงน่าจะได้รับผลดีจากการเติบโตในปีนี้

“ส่วนข้อกังวลในปี 2560 ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดคือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในประเทศ หากรัฐบาลจัดการเลือกตั้งตามโรดแม็ปที่วางไว้ จะมีส่วนส่งเสริมการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างราบรื่นขณะที่การเมืองต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดเช่นกัน ส่วนราคาน้ำมันในตลาดโลกก็เป็นอีกปัจจัยที่เราต้องเฝ้าติดตาม รวมถึงเศรษฐกิจในประเทศไทย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ต้องเฝ้าระวังตลอดทั้งปีนี้”

ยิ้ม ปี 59 วอลโว่ กรุ๊ป ฟันยอดขาย 1,191 คันโตเพิ่ม 17 %

อย่างไรก็ดี ประธานกรรมการวอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) เผยถึงภาพรวมของวอลโว่ กรุ๊ปเมื่อปีที่แล้วว่าถือเป็นปีที่น่าพอใจของวอลโว่ กรุ๊ป เพราะมียอดขายทั้งสิ้น 1,191 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 1,016 คันเพิ่มขึ้น 17% แยกเป็นยอดขายวอลโว่ ทรัคส์ 391 คันเมื่อเทียบกับปีที่แล้วปรับตัวลดลง 22% สาเหตุจากตลาดรวมรถยุโรปปรับตัวลดลง บวกกับภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1-2 ชะลอตัว เพิ่งขยายตัวดีขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 อีกเหตุผลหนึ่งการทำตลาดวอลโว่จะเน้นที่ความเป็นพรีเมี่ยมทั้งประสิทธิภาพของรถ การบริการ สินค้าที่ขนส่ง และกลุ่มลูกค้า ส่งผลให้ความต้องการเซกเม้นต์พรีเมี่ยมลดลง ถึงกระนั้นเราก็ยังรักษาความเป็นเจ้าตลาดกุมสัดส่วนตลาดรถยุโรปไว้ได้ที่ 50 %หากปีนี้ทุกอย่างที่กล่าวกลับมาขยายตัวดีขึ้น เชื่อว่าวอลโว่ทรัคส์จะกลับมามียอดขายในทิศทางที่ดีขึ้น

“ขณะที่ยอดขายยูดี ทรัคส์ 800 คัน เพิ่มขึ้น 56% จาก 512 คันในปี 2558 สัดส่วนตลาดรวมเมื่อปีที่แล้วของวอลโว่ กรุ๊ปอยู่ที่ 6.3% แบ่งเป็นยูดี ทรัคส์อยู่ที่ 4.1% วอลโว่ ทรัคส์อยู่ที่ 2.2 % ส่วนตลาดที่วอลโว่ กรุ๊ป ประเทศไทยดูอยู่ทั้ง 5 ตลาด ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และฟิลิปปินส์ยอดขายรวมอยู่ที่ 327 คัน ซึ่งทั้ง 5 ตลาดโดยรวมแล้วมีแนวโน้มและโอกาสขยายตัวได้ดีกว่านี้ โดยปีนี้คาดโตเพิ่ม 6-7% ซึ่งตลาดที่ขยายตัวได้ดีกว่าเพื่อนก็คือเมียนมาโตขึ้นจากปีที่แล้วถึง 42%รองลงมาเป็นฟิลิปปินส์โดยมีภาคก่อสร้างเป็นพระเอก และเวียดนามโดยมีภาคขนส่งเป็นตัวชูโรง”

ทั้งนี้ การเติบโตในส่วนของยูดี ทรัคส์ นั้น นอกจากจะมาจากการฟื้นตัวของตลาดที่เกิดจากการกระตุ้นของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างแล้ว ยังเกิดจากการเข้าสู่ AEC ของประเทศไทย ทำให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจากธุรกิจขนส่งสินรค้าและโลจิสติกส์ ที่ต้องจัดหารถบรรทุกเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการของตลาดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

เดินหน้า R&D ผลิตภัณฑ์/เสริมเขี้ยวเล็บบุคลากร

ส่วนประเด็นการขยายศูนย์บริการเพิ่มเติมหรือไม่นั้น นายกำลาภ ระบุว่าที่มีอยู่ปัจจุบันก็เพียงพอแล้ว สืบเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วอลโว่ กรุ๊ป ได้ทุ่มเงินลงทุนขยายเครือข่ายไปถึง 3,000 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่จะเริ่ม AEC ได้ 1 ปี เพื่อรองรับกับตลาดที่จะฟื้นตัวและความต้องการจากภาคขนส่งสินค้าผ่านแดนจากข้อตกลงของ AECหากจะลงทุนเพิ่มเติมและต่อเนื่องก็เป็นเรื่องการเติมเต็มศักยภาพขององค์กรด้วยการพัฒนาบุคลากร เพื่อเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรและรองรับกับการขยายตัวในอนาคต

“ส่วนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของทั้งสองแบรนด์ออกสู่ตลาดภายในปีนี้นั้น ที่ผ่านมาวอลโว่ กรุ๊ป ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆเพื่อตอบสนองความต้องการตลาดมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเรารับฟังความคิดเห็นจากลูกค้า ทำให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดเป็นสิ่งที่เราอาจมองข้ามด้วยเช่นกัน ขณะนี้กำลังพิจารณาการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดส่วนจะเป็นตัวไหนในเซกเม้นต์อะไรเก็ต้องดูและพิจารณาอย่างรอบด้าน

ทั้งนี้ทั้งนั้น เป้าหมายในปีนี้วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย)พยายามที่จะขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดให้ดีที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่เราคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง วอลโว่ กรุ๊ป ต้องเดินหน้าไปด้วยความเป็นมืออาชีพจากความร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวของทุกคนในองค์กร เรามีผลิตภัณฑ์ที่ดี การบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ ทีมงานที่ชำนาญการ ทั้งหมดจะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด

รุก “ตลาดดิจิทัล” เติมเต็มการตลาด-ภาพลักษณ์

วิลาวัลย์ วิศปาแพ้ว

ด้านนางสาววิลาวัลย์ วิศปาแพ้ว รองประธานฝ่ายการตลาดและสนับสนุนการขาย วอลโว่ ทรัคส์ (ประเทศไทย)กล่าวเสริมว่าการเปิดเออีซีทำให้ความต้องการของลูกค้าในการเลือกใช้รถเพื่อการขนส่งในระยะทางไกลๆ ที่เน้นถึงสมรรถนะและประสิทธิภาพของตัวรถเป็นหลัก ซึ่งต้องมีความพิเศษสามารถตอบสนองการใช้งานภาคขนส่งทางไกลอย่างแท้จริง ซึ่งสอดรับกับอัตลักษณ์ของวอลโว่ที่เน้นความเป็นตลาดพรีเมี่ยม สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ในทุกรูปแบบการขนส่ง เราให้คำปรึกษากับลูกค้าทุกรายโดยทีมงามเอ็นจีเนียออกแบบรถ เพื่อออกแบบรถให้ดีที่สุด ประหยัดต้นทุนการขนส่งมากที่สุดให้กับลูกค้า ซึ่งตรงนี้เป็นจุดแข็งของเรา

“ส่วนกิจกรรมส่งเสริมตลาดและเพิ่มยอดขายในปีนี้นั้น ในส่วนของวอลโว่ทรัคส์เรายังความเป็นพรีเมี่ยม เรามีผลิตภัณฑ์ที่เต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะและประสิทธิภาพรองรับในทุกความต้องการของลูกค้า และต้องขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ต่อไปและต่อเนื่อง นอกเหนือจากการให้แนะนำลูกค้าในการเลือกรถอย่างเต็มประสิทธิภาพในการขนส่งแล้ว เรายังเน้นกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์วอลโว่ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการแข่งขันขับขี่ปลอดภัยและประหยัดพลังงาน หรือ FuelWatch Competition ซึ่งเราจัดแข่งขันต่อเนื่องทุกปี และปีนี้ก็ยังจัดต่อไปเช่นเดียวกัน”

ส่วนยูดี ทรัคส์ ซึ่งเป็นตลาดรถญี่ปุ่น นอกเหนือผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมในทุกเซกเม้นต์การใช้งานของลูกค้าแล้ว ก็จะเติมเต็มและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้วยการเน้นการเข้าใกล้ชิดกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ผ่านกิจกรรมโรดโชว์ การจัดแคมเปญพิเศษเพื่อดึงดูดใจลูกค้า เช่น ตอนนี้เรามีแคมเปญการันตีการบริการหลังการ3 ปี (360,000 กม.)สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถกับเรา ซึ่งเป็นแคมเปญที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก และเราก็ยังคงแคมเปญนี้ต่อไป และที่สำคัญเพื่อสอดรับเทรนด์ตลาดดิจิทัลที่กำลังที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เราเองจะเน้นการทำตลาดดิจิทัลมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อยี่ห้อรถของเรา และเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าและได้รับการตอบรับจากลูกค้าได้รวดเร็วมากขึ้น

“เมื่อเราจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายแล้ว จากนั้นก็ต้องมุ่งเน้นเพื่อให้เกิดการต่อยอดด้านการบริการหลังการขายอีกด้วย เพราะนี้คือหัวใจของการทำธุรกิจ เมื่อเขาซื้อรถไปแล้วก็ต้องนำรถเข้ามาบริการกับเรา และเกิดพึงพอใจในการบริการก็ยิ่งตอกย้ำว่าลูกค้าจะซื้อรถเพิ่ม หรือบอกต่อความประทับใจให้กับลูกค้ารายอื่นๆ”นางสาววิลาวัลย์ กล่าวปิดท้าย

ทั้งหมดคือมุมมองและคมเหลี่ยมของค่ายวอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย)ที่สะท้อนให้เห็น“ภาพคมชัดลึก”ถึงภาพรวมของตลาดรถใหญ่เมื่อปีที่แล้ว และคาดการณ์เข็มทิศตลาดในปีไก่ไว้ได้อย่างน่าคิดและน่าจับตาเป็นพิเศษ

แต่ทว่า ตลาดรถใหญ่เมืองไทยในปีไก่และค่ายวอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จะสามารถควบแรงม้าทะยานพุ่งชนเป้าหมายได้อย่างที่คาดหวังหรือไม่? ….กาลเวลาเท่านั้นที่เป็นเครื่องพิสูจน์!