รู้ยัง? “รถบัส-รถบรรทุก” ต้องติดแผ่นสะท้อนแสง ดีเดย์ 1 ม.ค.61

เป็นข้อบังคับเรียกทรัพย์ออกจากกระเป๋าผู้ประกอบการขนส่งอีกแล้วหลังกรมขนส่งฯออกกฎกระทรวงใหม่กำหนดให้ “รถโดยสารขนาดใหญ่และรถบรรทุก”ติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงหรือแผ่นสะท้อนแสง โดยให้มีผลบังคับใช้ทันทีกับรถโดยสารขนาดใหญ่และรถบรรทุก ทุกคัน ที่จดทะเบียนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป

0
2260

เป็นข้อบังคับเรียกทรัพย์ออกจากกระเป๋าผู้ประกอบการขนส่งอีกแล้วหลังกรมขนส่งฯออกกฎกระทรวงใหม่กำหนดให้ “รถโดยสารขนาดใหญ่และรถบรรทุก”ติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงหรือแผ่นสะท้อนแสง โดยให้มีผลบังคับใช้ทันทีกับรถโดยสารขนาดใหญ่และรถบรรทุก ทุกคัน ที่จดทะเบียนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป

ข้อบังคับดังกล่าวอันเป็นผลจากกรมขนส่งฯให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของรถทุกคัน ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง มุ่งเน้นมาตรการเชิงป้องกันและลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุ สร้างระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ พร้อมยกระดับมาตรฐานวิศวกรรมยานยนต์ของประเทศไทยให้มีความปลอดภัยเทียบเท่าสากล โดยเฉพาะความปลอดภัยของรถโดยสารขนาดใหญ่และรถบรรทุก ตามแผน “ยกระดับมาตรฐานวิศวกรรมยานยนต์” ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 ต่อเนื่อง 2560

ประเดิมจากการกำหนดและควบคุมมาตรฐานอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ปรับลดความสูงของรถโดยสารสองชั้นให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล คือ ต้องมีความสูงไม่เกิน 4.0 เมตร จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 4.30 เมตร โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2560 และยังต้องผ่านการทดสอบการทรงตัว เช่นเดียวกับรถโดยสารทุกประเภททุกคันที่มีความสูงเกิน3.60 เมตร ซึ่งเป็นมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยสำหรับรถโดยสารทุกคัน ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ 1 มกราคม 2556 อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง

ถัดมาเป็นการคิวของกำหนดให้รถโดยสารขนาดใหญ่และรถบรรทุกติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงหรือแผ่นสะท้อนแสง ที่มีคุณลักษณะ สี ขนาด และตำแหน่งติดตั้งที่เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพในการมองเห็นได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะในเวลากลางคืน เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถหลีกเลี่ยงหรือหยุดรถในระยะที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ โดยให้มีผลบังคับใช้ทันทีกับรถโดยสารขนาดใหญ่และรถบรรทุก ทุกคัน ที่จดทะเบียนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป

โดยการติดตั้งนั้น ต้องติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงที่สามารถสังเกตเห็นในเวลากลางคืนได้ในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร โดยแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ “ด้านท้ายรถ” ให้ติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงเป็น “สีแดง” ส่วน “ด้านข้างรถทั้งสองข้าง” ให้ใช้อุปกรณ์สะท้อนแสงเป็น “สีเหลืองอำพัน” นอกจากการติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงแล้ว

สำหรับรถบรรทุก ทุกลักษณะ ที่มีจำนวนเพลาล้อ กงล้อและยาง ตั้งแต่ 2 เพลา 4 ล้อ ยาง 6 เส้น ขึ้นไป (ยกเว้นรถลากจูง) ต้องติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงควบคู่กับอุปกรณ์สะท้อนแสงด้วย โดยวิธีการติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสงและแผ่นสะท้อนแสงต้องเป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล

นอกจากนี้ สำหรับรถโดยสารและรถบรรทุกที่จดทะเบียนก่อนวันที่ประกาศมีผลบังคับใช้ กำหนดระยะเวลาให้ผู้ประกอบการขนส่งมีเวลาในการติดตั้งและปรับปรุงแผ่นสะท้อนแสงให้เป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ดังนี้

-รถที่ยังไม่ติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงหรือติดตั้งแล้วแต่มีขนาดและตำแหน่งการติดตั้งไม่เป็นไปตามที่กำหนด ต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 มกราคม 2562

-ส่วนกรณีรถที่ติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงแล้ว โดยมีขนาดและตำแหน่งติดตั้งถูกต้อง แต่ใช้วัสดุหรือมีสีไม่เป็นไปตามกำหนด ให้ระยะเวลาในการแก้ไขให้เรียบร้อย ภายในวันที่ 1 มกราคม 2563

หากผู้ประกอบการฝ่าฝืนไม่ติดตั้งภายในระยะเวลาที่กำหนดมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000บาท โดยกรมการขนส่งทางบกมีมาตรการในการกำกับดูแลอย่างเข้มข้นจริงจัง พร้อมดำเนินการตามกฎหมายทันทีกรณีฝ่าฝืน และหากเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุร้ายแรง ผู้ประกอบการต้องมีส่วนรับผิดชอบทุกกรณี