ทล.อัพเดททางหลวงน้ำท่วม/ดินสไลด์ 14 จว.พบยัง…ผ่านไม่ได้ 17 แห่ง

0
89

กรมทางหลวงอัพเดทอุทกภัยบนทางหลวงวันที่ 16 ต.ค. 64 พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ 14 จังหวัด 32 สายทาง  การจราจรผ่านไม่ได้ 17 แห่ง พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัย เร่งระบายน้ำ ฟื้นฟูเส้นทาง และติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชม. ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ตามที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบให้หน่วยงานในสังกัดช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยตามแผนการดำเนินการป้องกัน การฟื้นฟู และการเยียวยาหลังสถานการณ์คลี่คลายในทุกมิติพร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งกำชับให้เร่งสำรวจ ซ่อมแซม ฟื้นฟูเส้นทางที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้ประชาชนสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัยโดยเร็ว สำหรับเส้นทางที่ยังไม่สามารถเปิดสัญจรได้ขอให้ติดตั้งป้ายเตือนและป้ายแนะนำเส้นทาง รวมทั้งแนะนำเส้นทางเลี่ยง พร้อมประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบอย่างทั่วถึง

โดยภาพรวมในหลายพื้นที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง การจราจรสามารถกลับมาสัญจรได้ตามปกติ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังบางพื้นที่เนื่องมีฝนตกต่อเนื่อง จึงมอบให้หน่วยงานเร่งระบายน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนในการเดินทาง

สำหรับสถานการณ์ประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2564  เวลา 13.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 14 จังหวัด  ( 32 สายทาง 56 แห่ง)  โดยทางหลวงในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ได้แก่ 1) จ.ขอนแก่น   2) จ.มหาสารคาม 3) จ.นครราชสีมา 4) จ.ชัยภูมิ  5) จ.ชัยนาท  6) จ.ลพบุรี  7) จ.นนทบุรี  ?  จ.อ่างทอง  9) จ.พระนครศรีอยุธยา 10) จ.สุพรรณบุรี 11) จ.อุทัยธานี 12) จ.ปราจีนบุรี 13) จ.สระแก้ว 14) จ.ตาก

โดยทางหลวงที่มีระดับน้ำสูง 5 สายทาง ได้แก่

◾ทล. 2  ท่าพระ – ขอนแก่น ระดับน้ำสูง 200 ซม.  ◾ ทล.213 มหาสารคาม-หนองขอน ระดับน้ำสูง 210 ซม.  ◾ทล.32  นครหลวง-อ่างทอง ระดับน้ำสูง 125 ซม.  ◾ ทล. 3263 อยุธยา–ไผ่กองดิน  ระดับน้ำสูง 175 ซม. 

◾ทล.340 สาลี-สุพรรณ ระดับน้ำสูง 125 ซม.  ซึ่งมีการจราจรผ่านไม่ได้  14 แห่ง  ดังนี้

1. จ.ขอนแก่น (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) 

– ทล. 2 ท่าพระ – ขอนแก่น ช่วง กม.ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 200 ซม.

– ทล. 2065 พล – ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+625 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์ 

– ทล. 2065 พล – ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+785 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์

2. จ.มหาสารคาม (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) 

– ทล. 213 มหาสารคาม – หนองขอน ช่วง กม.ที่ 5+530 (อุโมงค์ท่าขอนยาง) ระดับน้ำสูง 210 ซม.

3. จ.ชัยภูมิ (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) 

– ทล.201 ช่องสามหมอ-บ้านแข้ กม. 185+000-185+300 (จุดกลับรถใต้สะพาน) ระดับน้ำสูง 20-60 ซม.

– ทล.201 ช่องสามหมอ-บ้านแข้ กม. 188+000-188+300 (จุดกลับรถใต้สะพาน) ระดับน้ำสูง 10-60 ซม.

– ทล.2484 ทางเลี่ยงเมืองภูเขียว กม.7+050-7+150 ระดับน้ำสูง 30-50 ซม.

4.จ.นนทบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) 

– ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+950 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรก) ระดับน้ำสูง 30-35 ซม. 

– ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 17+000 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรกเพื่อมุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก)  ระดับน้ำสูง 30-40 ซม. 

– ทล. 307 แยกสวนสมเด็จ-สะพานนนทบุรี ช่วง กม.ที่ 0+942 (จุดกลับรถใต้สะพานนนทบุรี) ระดับน้ำสูง 65 ซม.

5.จ.อ่างทอง (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) 

  – ทล.32  นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 125 ซม. 

  – ทล.32  นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 33+200 (จุดกลับรถวัดค่าย) ระดับน้ำสูง 35 ซม. 

6จ.พระนครศรีอยุธยา (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) 

– ทล. 347 บางกระสั้น – บางปะหัน ช่วง กม.ที่ 40+860 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ระดับน้ำสูง 15 ซม. 

– ทล. 3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 175 ซม. 

– ทล. 3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 175 ซม.

 7 จ.สุพรรณบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) 

– ทล. 33 สุพรรณบุรี – นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 85 ซม. 

– ทล. 340 สาลี – สุพรรณบุรี ช่วง กม.ที่ 59+674 (สะพานเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 125 ซม. 

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586  (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1