GIZTIX ประกาศรับเงินลงทุนจาก AddVentures โดยเอสซีจี เดินหน้าปฏิวัติวงการโลจิสติกส์สู่ผู้นำอาเซียน

0
198

GIZTIX ประกาศรับเงินลงทุนรอบ Series A จาก 3 ยักษ์ใหญ่ ได้แก่ AddVentures โดยเอสซีจี -Wavemaker-500 TukTuks หวังได้พันธมิตรเดินหน้าปฏิวัติวงการโลจิสติกส์สู่ยุคดิจิทัล พร้อมโกยยอดขายพุ่ง 10 เท่าในอีก 2 ปี ด้าน AddVentures โดยเอสซีจีเผยลงทุน GIZTIX เป็นสตาร์ทอัพเจ้าแรก เล็งใช้ความเชี่ยวชาญโลจิสติกส์ของเอสซีจีต่อยอดนวัตกรรมสู่ผู้ใช้บริการตอกย้ำวิสัยทัศน์ “You Innovate, We Scale” เอื้อการเติบโตสู่ผู้นำอาเซียน พร้อมส่งมอบบริการขนส่งที่ดีกว่าและเร็วกว่าให้แก่ภาคธุรกิจ

นายสิทธิศักดิ์ วงศ์สมนึก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง GIZTIX (จิซทิกซ์) สตาร์ทอัพอันดับหนึ่งด้านการบริการขนส่ง ผ่านระบบตลาดขนส่งออนไลน์ กล่าวว่า บริษัทได้รับเงินทุนเพิ่มในรอบ Series A เป็นจำนวน 1.65 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 3 กองทุนยักษ์ใหญ่ นำโดย AddVentures โดยเอสซีจี Wavemaker และ 500 Tuktuks เพื่อนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ ปฏิวัติวงการโลจิสติกส์ไทยให้ไปสู่ดิจิทัล ตอบโจทย์นโยบายไทยแลนด์ 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ โดยในการระดมทุนครั้งนี้ เราเน้นไปที่การหาทั้งเงินทุนและพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์และพันธกิจคล้ายคลึงกันเพื่อช่วยให้ธุรกิจของ GIZTIX เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและมั่นคง สำหรับ AddVentures โดยเอสซีจี และ Wavemaker นั้นเป็น Corporate Venture Capital ที่ไม่ได้เป็นแค่นักลงทุน แต่ยังเป็นพันธมิตรที่จะตอบโจทย์ดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้เราเชื่อว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า GIZTIX จะมียอดขายเติบโตอย่างน้อย 10 เท่า ช่วยพัฒนาผู้ให้บริการโลจิสติกส์อีกอย่างน้อย 4,000 บริษัทในการบริหารจัดการขนส่งออนไลน์ แบ่งสัดส่วนเป็นในไทย 80% และในประเทศเพื่อนบ้านอีก 20%

สำหรับ GIZTIX ก่อตั้งขึ้นมาแล้วประมาณ 2 ปี โดยกลุ่มผู้มีประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจโลจิสติกส์และพัฒนาโปรแกรมโลจิสติกส์ มีวิสัยทัศน์คือต้องการให้การใช้บริการโลจิสติกส์นั้นง่ายเหมือนการจองโรงแรมหรือจองตั๋วเครื่องบิน ลดขั้นตอนงานข้อผิดพลาดในการขนส่ง ปัจจุบัน มีบริการตรวจสอบราคาขนส่งแบบ On-demand และแบบประมูล (e-Bidding) พร้อมทั้งบริการจองและชำระค่าบริการโลจิสติกส์ ขณะเดียวกัน GIZTIX ยังเป็นผู้พัฒนาระบบจัดการขนส่ง ให้กับผู้ให้บริการขนส่งได้ใช้ฟรีเพื่อสร้างมาตรฐาน Logistics 4.0 ใหม่ในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายของ GIZTIX เติบโตเฉลี่ยเดือนละ 30% มีงานขนส่งอยู่ที่ 700-800 งานต่อเดือนจากการจองบริการขนส่งออนไลน์ มีบริษัทโลจิสติกส์อยู่บน Platform มากกว่า 300 บริษัท มีรถมากกว่า 1,500 คัน และมีสัดส่วนลูกค้าเป็นกลุ่ม B2B ประมาณ 99% และยังได้รับเงินทุนในรอบ Seed Fund จาก KK Fund และ 500 TukTuks เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลระดับเอเชียหลายรางวัล เช่น dtac Accelerate 2015, Echelon 2015, Techsauce 2016

ด้าน ดร.จาชชัว แพส กรรมการผู้จัดการ AddVentures กล่าวว่า การลงทุนใน GIZTIX ครั้งนี้ ถือเป็นการลงทุนโดยตรง(Direct Investment) ในสตาร์ทอัพครั้งแรกของ AddVentures สาเหตุสำคัญที่ตัดสินใจเลือก GIZTIX เป็นรายแรก เพราะเล็งเห็นถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของทีม GIZTIX ในการแก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์อย่างจริงจัง และพิสูจน์ได้ว่า สามารถเดินหน้าไปสู่วิสัยทัศน์ได้จริง ขณะเดียวกันวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจของ GIZTIX ยังสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของเอสซีจี โลจิสติกส์ ที่ต้องการขยายการเติบโตไปสู่ระดับภูมิภาค เราจึงสามารถใช้ความเชี่ยวชาญของเราในธุรกิจโลจิสติกส์มาช่วยกันต่อยอดกับ GIZTIX ให้เติบโตไปด้วยกันสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจโลจิสติกส์ของอาเซียน

ปัจจุบัน เอสซีจี โลจิสติกส์ ถือเป็นผู้บริหารจัดการรถบรรทุกสำหรับขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในไทย มีพันธมิตรเครือข่ายรถบรรทุกภายใต้บริการกว่า 7,000 คัน หลังจากนี้ จะมีการนำดีลเลอร์และพันธมิตรของเอสซีจี โลจิสติกส์เข้ามาอยู่บนแพลทฟอร์มของ GIZTIX เพื่อเป็นอีกช่องทางในการช่วยแก้ปัญหาให้แก่ผู้ที่ต้องการบริการการขนส่ง เชื่อว่าจะช่วยให้เกิดการส่งมอบบริการด้านโลจิสติกส์ที่ดีกว่า รวดเร็วกว่า และตรวจสอบได้ ตอบโจทย์ภาคธุรกิจที่ต้องการบริการขนส่งเพิ่มขึ้นทั่วอาเซียน

สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ ถือเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงมากในอาเซียน เนื่องจากอาเซียนมีประชากรกว่า 620 ล้านคน มีมูลค่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทั่วทั้งภูมิภาครวมกันถึง 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ อาเซียนยังเป็นภูมิภาคที่ธุรกิจ e-Commerce กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้มีความต้องการบริการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องการนำเทคโนโลยีเข้ามาจะช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตให้แก่ทุกฝ่าย

ทั้งนี้ GIZTIX ยังได้ประกาศเปิดตัว E-Logistics Association อย่างเป็นทางการ โดยมี นายสิทธิศักดิ์ จาก GIZTIX เป็นประธานสมาคม โดยร่วมมือกับสตาร์ทอัพด้านโลจิสติกส์ชั้นนำ ได้แก่ บริษัท Siam Outlet, Shippop, MyCloud Fulfillment มีเป้าหมายคือการร่วมมือกัน ส่งเสริมการพัฒนาระบบ E-Logistics และการอบรมและให้ความรู้ แก่ผู้ประกอบการธุรกิจทั่วไป และผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ในการปรับระบบขนส่งให้เป็นระบบดิจิทัล อย่างเต็มรูปแบบ