อธิบดีฯทล.ปล่อย”คาราวาน 10,000 ถุงยังชีพ” และเครื่องจักรหนัก ลุยช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่ ควบคู่เร่งฟื้นฟูเส้นทาง

0
0

กรมทางหลวงทั่วประเทศผนึกกำลังเต็มอัตรา อธิบดีฯ ปล่อย “คาราวาน 10,000 ถุงยังชีพ” และเครื่องจักรหนัก ลุยช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่ ควบคู่เร่งฟื้นฟูเส้นทาง

นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมโครงการ “จิตอาสาคมนาคม ร่วมบรรเทาผู้ประสบอุทกภัย“ ปล่อยคาราวานถุงยังชีพ รถบรรทุก และเครื่องจักรขนาดใหญ่” มุ่งหน้าลงพื้นที่ประสบอุทกภัยในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อช่วยเหลือและเร่งฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง หลังสถานการณ์น้ำท่วมสร้างความเสียหายและความเดือดร้อนแก่ประชาชนจำนวนมาก

อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึงความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการของกระทรวงคมนาคม โดยระดมสรรพกำลังปฏิบัติภารกิจสำคัญคู่ขนาน 2 ด้าน ได้แก่

1. ภารกิจจิตอาสาช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ โดยกรมทางหลวงได้จัดส่ง ถุงยังชีพฉุกเฉินจำนวน 10,000 ถุง และสิ่งของจำเป็นที่รวบรวมจากบุคลากรในสังกัดทั่วประเทศ เข้าสู่พื้นที่ประสบภัยทันที พร้อมใช้ศักยภาพด้านยานพาหนะของกรมฯ สนับสนุนการขนส่งและเคลื่อนย้าย โดยระดมรถบรรทุกยกสูงและรถปฏิบัติการเพื่อลำเลียงสิ่งของเข้าพื้นที่ถูกตัดขาด โดยสำนักเครื่องกลและสื่อสารได้ จัดส่งเครื่องจักร เครื่องมือพิเศษสำหรับช่วยกู้ภัย  ได้แก่ รถบรรทุกติดเครน 4 คัน พร้อมรถบรรทุกเครื่องจักร 1 คัน (รวม 5 คัน) เข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานในจังหวัดสงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมประสานงานและให้ความช่วยเหลือในการ เคลื่อนย้ายประชาชน ผู้ป่วย และทรัพย์สิน ในพื้นที่

2. ภารกิจเร่งซ่อมแซมและฟื้นฟูเส้นทางหลวง ได้แก่

 – ฟื้นฟูเร่งด่วน: เร่งสำรวจความเสียหายอย่างละเอียด และจัดส่ง เครื่องจักรกลหนัก และ ชุดปฏิบัติการซ่อมแซมทาง จากส่วนกลางเข้าสนับสนุนพื้นที่ เพื่อซ่อมแซมทางหลวงที่เสียหายจากน้ำท่วมและ เปิดเส้นทางสัญจรให้กลับมาใช้งานได้ปกติโดยเร็วที่สุด

 – แผนทำความสะอาดหลังน้ำลด: เตรียมพร้อมจัดส่ง รถดูดโคลน และ รถดูดกวาด เข้าดำเนินการทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชนในลำดับต่อไป

 – อำนวยความสะดวก: จัดตั้งจุดบริการและให้ความช่วยเหลือผู้ใช้เส้นทางอย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตั้งป้ายเตือนและป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร

กรมทางหลวงขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด เรามีความตั้งใจและพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อดูแลเส้นทางหลวง และบรรเทาทุกข์พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ต่อไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ”

ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลสภาพเส้นทาง หรือแจ้งเหตุฉุกเฉินบนทางหลวงได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง)