โหรทำนายปีหมู เศรษฐกิจเลือด เลือกตั้งตกต่ำมากที่สุด

0
147

นิตยสาร LOGISTICS TIME  ฉบับประจำเดือนมกราคม  2562  เปิดฉากแรกปีใหม่  พุทธศักราชใหม่ หลังผ่านพ้นช่วงเทศกาลหยุดยาวฉลองปีใหม่กันแล้ว กลับเข้าสู่โหมดการทำงานเดินหน้ากันต่อไป   เราผ่านพ้นเหตุการณ์เรื่องราวปีเก่าหลายเหตุการณ์ สิ่งไหนดีนำมาเป็นต้นแบบ  เหตุการณ์สิ่งไหนไม่ดีก็มองให้เป็นบทเรียนพลิกวิกฤติเป็นโอกาส   อินทราภรณ์ ขอกล่าวสวัสดีปีใหม่ 2562  สมาชิก และผู้อ่านติดตามทั่วไปที่ยังเป็นแฟน LOGISTICS TIME  มาตลอดกว่า 10 ปี  พระคุณของท่านนั้นจะจดจำไปอีกนานเท่านาน   และวิกฤตสื่อสิ่งพิมพ์ยังคงลุกลามเลือดยังไหลไม่หยุด  นับจากตอนปลายปี 61 สื่อทีวีช่อง 3 ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงาน  จนกระทั่ง ล่าสุด  หนังสือพิมพ์หัวสี  ยักษ์ใหญ่ของประเทศ  “ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” นสพ.จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ  สุดอั้นไม่ไหวเช่นกันประกาศ เลย์ออฟพนักงาน หรือเลิกจ้างพนักงาน  โดยเปิดโอกาสให้พนักงานสมัครใจ ลาออก ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562   พร้อมจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน  อินทราภรณ์  ในฐานะคนทำสื่อ (ตัวเล็กๆ ) คนหนึ่ง  บอกกันตรงๆ ไม่อ้อมค้อมรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนร่วมอาชีพไม่ได้จริงพับผ่า…!

…มีข้อสังเกต การเลิกจ้างครั้งนี้ของ น.ส.พ.ยักษ์ใหญ่  เหตุใดเจ้าพระคุณ ..จึงไม่รอให้กฎหมายแรงงานฉบับแก่ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2561 (ฉบับใหม่)มีผลบังคับใช้ก่อน   ซึ่งกำหนดมีผลบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ก่อนล่ะ   เพราะกฎหมายฉบับนี้ส่งผลดีต่อลูกจ้างที่มีอายุงานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป นั่นคือ จะมีสิทธิรับเงินชดเชยจากเดิม 300 วัน เป็น 400 วัน หรือคิดคำนวณง่ายๆเดิมนายจ้างจ่ายเงินชดเชย 10 เท่าของเดือน  แต่ปรับใหม่เพิ่มเป็น 13 เท่าของเงินเดือน    นี่ถ้าจริงใจอยากช่วยเหลือพนักงานที่อยู่ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมชายคาเดียวกันมานาน 10 ปีกว่า  ก็น่าจะรอให้กฎหมายแรงงานใหม่มีผลบังคับใช้ มิใช่หรือ…..ขณะที่ ฝากฝั่งกระทรวงแรงงานฯ เจ้ากระทรวงคุยนักคุยหนา  พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ว่า  ปี 2562 นี้กระทรวงแรงงานฯ  พร้อมมอบของขวัญปีใหม่ให้บรรดาแรงงานทุกคน  และหนึ่งในนั้น  เป็นเรื่อง เกี่ยวกับเงินค่าชดเชยแรงงานถูกเลิกจ้าง ตามกฎหมายแรงงาน 2561 (ฉบับใหม่)  กรณีลูกจ้างทำงานที่มีอายุการทำงานตั้งแต่  10 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินชดเชยจากนายจ้างเป็น 400 วัน  หลังกฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้นายจ้างทราบแล้วเปลี่ยน..

พรรคการเมืองต่างงัดนโยบายหวังสู้ศึกเลือกตั้ง  พรรดประชาธิปัตย์พรรคเก่าแก่ ไม่ยอมน้อยหน้าพรรคอื่น  โดยเฉพาะบัตรคนจน  พรรค ปชป.เกทับผุดนโยบายแจกแหลกให้เป็นเงินสด 800 บาท  นี่ยังไม่รวมนโยบายเด็กเกิดใหม่แจกทันที 1 แสนบาท    แบบนี้จะเรียกเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย  นอกเหนือจาก “ประชานิยมจ๋า”   แต่อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ของนโยบายหรือไม่  หากแต่อยู่ที่การคิดคำนวณเงินรายได้ประเทศกันให้ดีก็แล้วว่า  รัฐบาลจะหารายได้เข้าประเทศช่องทางไหน อย่างไร และแต่ละปีงบประมาณมีเท่าไหร่   หากไม่มีงบประมาณเพียงพอทุกอย่างก็น่าจะทำได้แค่ฝันกลางวัน  อีกทั้งยังมีนโยบายประกันราคาข้าวเกวียนละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท

…..พลิกไปดูนโยบายพรรคภูมิใจไทยกันบ้าง   “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า อยากจะชูนโยบายผลักดัน “แก็ปคาร์”  ฟังดูก็เข้าทีไม่เหมือนพรรคใด  ที่กล้าดับเครื่องชนทำเรื่องใหม่ ๆ บ้าง  ..โหรทำนาย เลือกตั้งคราวนี้ ตกต่ำมากที่สุดนับเป็นครั้งประวัติศาสตร์  ถือว่าเป็นปีแห่ง “เศรษฐกิจเลือด ” เป็นคำทำนายของโหร  “โสรัจจะนวลอยู่ ”เจ้าของฉายานอสตาดามุสเมืองไทย ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ ฟังหูไว้หู อันที่จริงการเลือกตั้งหนนี้ อะไรๆ ก็ใหม่หมด รัฐธรรมนูญใหม่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ใหม่ ทุกอย่างใหม่ทั้งสิ้น โอกาสความวุ่นวายก็น่าจะเกิดขึ้นได้สำหรับการลือกตั้งในปี “หมู” กลายเป็นการเลือกตั้งตกต่ำตามคำนายของหมอดูชะงั้น..

วกไปดูความสำเร็จผลงานความก้าวหนึ่งต่อธุรกิจโลจิสติกส์กันบ้าง  การท่าเรือแห่งประเทศไทย ( กทท. ) ได้จัดพิธีวางกระดูกงูเรือสำรวจ  โดยร่วมกับ บริษัท อิตัลไทย มารีน จำกัด  จัดพิธีวางกระดูกงูเรือสำรวจพร้อมอุปกรณ์การสำรวจ จำนวน 2 ลำ (ทดแทนเรือสำรวจ 2 และ    เรือสำรวจ 3) สำหรับใช้ในกิจการของ กทท. โดยมี เรือเอก สุชัย แสแสงสีรุ้ง ผู้อำนวยการฝ่ายการร่องน้ำ  ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง กทท. ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธีฯ ณ บริษัท อิตัลไทย มารีน จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ   อนึ่งโครงการนี้ดำเนินการ ต่อเรือ  เพื่อทดแทนเรือสำรวจ 2 และเรือสำรวจ 3 ที่เสื่อมสภาพมีอายุการใช้งานใน กทท.มานานถึง 65 ปี

..ตลอดจนเป็นการสร้างเสริมประสิทธิภาพในงานสำรวจและการหยั่งน้ำบริเวณร่องน้ำทางเดินเรือ ท่าเทียบเรือและแอ่งจอดเรือในอาณาบริเวณของ กทท. ทำให้งานสำรวจและการหยั่งน้ำเป็นไปด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยำและทันสมัย    อันส่งผลทำให้เกิดความปลอดภัยในการเดินเรือและการบรรทุกขนถ่ายสินค้า ตลอดจน    เป็นการตอบสนองการพัฒนาการให้บริการในฐานะองค์กรสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและการขนส่งทางน้ำของประเทศ มุ่งสู่มาตรฐานท่าเรือชั้นนำระดับโลก ด้วยการให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่เป็นเลิศ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2573 ต่อไป  …. อินทราภรณ์   หยิบยกข่าวนี้บอกกล่าวเล่ากันก็เพราะหวังว่า นอกเหนือจากจะก่อเกิดประโยชน์ต่อระบบโลจิสติกส์แล้ว ยังเสริมสร้างต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตอันใกล้อีกด้วย

ถัดมาเป็นผลงานการท่าเรือฯอีกเช่นกัน  การท่าเรือ ฯ ปรับโหมดขนส่งทางรางสู่และขนส่งทางน้ำ    กทท. ร่วมกับ รฟท. ร่วมพัฒนาระบบการขนส่งลดค่าใช้จ่ายและประหยัดพลังงาน โดยลงนามในสัญญาใช้สิทธิเหนือพื้นดินทางรถไฟสายแยกเข้าโรงกลั่นน้ำมันบางจาก สนับสนุนการขนส่ง  งานนี้มี ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  สมศักดิ์ ห่มม่วง ประธานกรรมการ กทท. นาวาอากาศเอก ธนากร  พีระพันธุ์ กรรมการ รฟท. ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 19 อาคารที่ทำการการท่าเรือฯ   ….อย่างไรก็ตาม การลงนามในสัญญาดังกล่าว เป็นการส่งเสริมให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งมาสู่  ภาคการขนส่งทางรางและทางน้ำ อันจะส่งผลให้เกิดการประหยัดพลังงานและลดต้นทุนการขนส่งสินค้า ในภาพรวมของประเทศ สืบเนื่องจากทางรถไฟสายแยกเข้าโรงกลั่นน้ำมันบางจาก  ซึ่งอยู่ภายในเขตพื้นที่ กทท.   ณ ท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการขนส่งสินค้าทางรถไฟ กทท.  จึงได้ดำเนินการจัดทำข้อตกลงกับ รฟท. ปรับปรุงระบบรางและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการเดินรถโดยได้จัดทำสัญญาอนุญาตให้ รฟท.  สรุปทั้งหมดการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้การเดินรถ การปฏิบัติการเดินรถ และการขนส่งสินค้าทางรถไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเอง  ..

สวัสดีปีใหม่ พบกันใหม่ฉบับหน้า  …