ควันหลงปราบทัวร์ศูนย์เหรียญแน่หรือ?

0
247


กำลังเป็นกรณีสุด “ดราม่า” ที่มีใครบางคนตีปี๊บให้น่ากลัวเหลือกำลัง…

กับเรื่องที่ผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวบางแห่งออกมาประโคมข่าวผลพวงจากการที่รัฐดำเนินมาตรการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญอย่างเอาจริงเอาจังก่อนหน้า และโดยเฉพาะการทลายเครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญรายใหญ่ของประเทศนั้น กำลังทำให้เศรษฐกิจและภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศทรุดฮวบลง

จนถึงขนาดที่ “ติ่ง” หรือเครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญบางรายออกมาเรียกร้องให้ รมต.กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.กระทรวงท่องเที่ยว แสดงความรับผิดชอบราวกับว่าหากรัฐบาลต้องการ “ไถ่บาป” เองที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องล้มเลิกนโยบายปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญและยินยอมให้ขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญนี้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เล่นเอาผู้คนในภาครัฐ รวมทั้งตัว รมว.กระทรวงท่องเที่ยว ที่ปกติก็แทบจะไม่เคยได้โชว์วิสัยทัศน์ในการปลุกตลาดท่องเที่ยวและกอบกู้วิกฤติท่องเที่ยวอยู่แล้วไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว

ทั้งนี้ ข้อมูลที่สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)  เขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 1  เปิดเผยล่าสุดนั้นยอมรับว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวภาคเหนือมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง 50% ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 70% เนื่องจากบรรยากาศของคนไทยยังไม่อยู่ในช่วงต้องการท่องเที่ยว รวมถึงจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญทำให้ตลาดทัวร์จีนลดลง แต่หลังจากนี้เอกชนจะปรับแผนนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวที่เน้นเส้นทางท่องเที่ยวตามโครงการพระราชดำริ ส่วนในตลาดต่างชาติที่ลดลง ทั้งจีน ยุโรป และกลุ่มสแกนดิเนเวียนั้น เตรียมชี้แจงทำความเข้าใจให้ทราบว่ายังสามารถมาท่องเที่ยวทำกิจกรรมในประเทศไทยได้ตามปกติ

คุณสุวัฒน์ แพภิรมย์รัตน์ ประธานชมรมโรงแรมเมืองพัทยา ก็ออกมาเปิดเผยว่า จากปฏิบัติการกวาดล้างทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้พัทยามีจำนวนห้องพักมากถึง 150,000 ห้อง ได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะโรงแรมที่ไม่ได้อยู่ในทำเลยอดนิยม ในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน นักท่องเที่ยวจีนหายไป 30-40% เดือนตุลาคมหายไป 70-80% เดือนพฤศจิกายน คาดว่าจะถึง 90% ขณะที่ฝรั่งต่างชาติหายไปอีก 5-10%

ปกติช่วง High-season จะมีอัตรานักท่องเที่ยวเข้าพัก 90% ตอนนี้เหลือเพียง 10-15% เท่านั้น แถมยังต้องลดราคาลง สำหรับโรงแรม 4 ดาว ปกติราคาขายห้องละ 1,300-1,500 บาท แต่ตอนนี้เหลือ 800-900 บาท ส่วน 3 ดาว จากราคา 900-1,000 บาท ตอนนี้เหลือ 700-800 บาท ขณะนี้เอกชนเริ่มต่อรองขอผ่อนผันดอกเบี้ยกับธนาคารแล้ว มองว่าภาพรวมพัทยาไม่น่าจะกระเตื้องในเร็ว ๆ นี้ จนถึงตรุษจีน”

ก่อให้เกิดคำถามมูลเหตุที่ปริมาณนักท่องเที่ยวลดลงในช่วง 1-2 เดือนมานี้ เป็นผลพวงมาจากมาตรการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญอย่างเอาจริงเอาจังของรัฐบาลหรือไม่? หรือเป็นผลพวงมาจากบรรยากาศอันเศร้าสลดที่ประชาชนคนไทยกำลังเผชิญอยู่จากการสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัยกัน

มันน่าจะเป็นประการหลังมากกว่าไหม!

เพราะภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อค่ำวันที่ 13 ตุลาคม 59 เป็นต้นมา ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่าล้วนตกอยู่ในความเศร้าโศกชนิดที่เรียกได้ว่าถนนทุกสายนั้นมุ่งมั่นไปยังพระบรมมหาราชวังเพื่อขอมีส่วนร่วมถวายอาลัยแด่พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัยเท่านั้น ตลอดห้วงขวบเดือนที่ผ่านมานั้นกล่าวได้ว่า ไม่มีการจัดกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยว หรือโปรโมทกิจกรรมด้านท่องเที่ยวใดๆ และไม่แต่ประเทศไทยแต่ยังเป็นที่รับรู้กันไปทั่วโลกว่า ตลอดขวบเดือนที่ผ่านมานั้นประเทศไทยแทบจะงดกิจกรรมสันทนาการ กิจกรรมรื่นเริงเกือบทุกชนิดเพื่อร่วมถวายความอาลัยแด่องค์พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัยเท่านั้น

ภาวการณ์ท่องเที่ยวของประเทศจะไม่ซบเซาลงไปได้อย่างไร ?

ทั้งหมดนี้หาได้เกิดจากผลพวงมาตรการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญเช่นที่ผู้ประกอบการบางรายกำลัง ”ยกเมฆ” เพียงเพื่อที่จะให้รัฐบาลเคลิ้มไปกับข้อมูลลวงโลกของตน

ก็ลองปูเสื่อติดตามกันต่อไปว่าหลังจากที่รัฐบาลเปิดกว้างให้ภาคธุรกิจและท่องเที่ยว ตลอดจนกิจการที่เกี่ยวเนื่องได้กลับมาดำเนินการตามปกติแล้วในวันนี้ รวมทั้งกิจกรรมรื่นเริงสันทนาการแล้ว ภาวะท่องเที่ยวมันจะทรุดฮวบลงไปอย่างที่กำลังประโคมกันอยู่นี้หรือไม่ แต่หากเป็นนักท่องเที่ยวที่ได้มาจากเครือข่ายขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญแล้ว หากจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะหดหายไปสัก 5 แสน 1 ล้านรายก็คงไม่ได้ทำให้ประเทศไทยสะเทือนซางอะไรแน่

หากพิจารณาข้อมูลที่ เจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ที่แม้จะออกมายอมรับว่า ผลกระทบจากมาตรการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญของรัฐอาจทำให้ยอดนักท่องเที่ยวจากจีนปรับลดลงไปบ้าง โดยในปี 2559 คาดว่า นักท่องเที่ยวจากจีนเข้าไทยคงจะลดลงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10 ล้านคน เหลือ 9.5 ล้านคน หรือลดลงไปราว 5 แสนคน และต่อเนื่องไปยังปี 60 ที่คาดว่าจะลดลงราว 1 ล้านคน จากที่ตั้งเป้เหมายไว้ 12-13 ล้านคน เหลือ 11 ล้านคน

แต่กระนั้นปริมาณนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาดังกล่าวก็ยังคงสูงกว่าปีก่อนที่มี 7.9 ล้านคนอยู่ดี  ที่สำคัญยังจะทำให้สถานที่ท่องเที่ยวไทยมีความน่าสัมผัสและน่าท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเสียด้วยซ้ำหากปราศจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ที่เพียงอาศัยประเทศไทยเป็นแค่สถานที่รีดผลประโยชน์เข้าพกเข้าห่อเครือข่ายของตนเท่านั้น!!!

คงต้องติดตามรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะตกหลุมพรางที่เครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญวางหมากกันเอานี้หรือไม่ เพราะนัยว่าล่าสุดนั้นถึงขั้นลงขันซื้อพื้นที่สื่อใหญ่ประโคมหายนะจากมาตรการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา ราวกับว่าหากรัฐบาลต้องการ “ไถ่บาป” แล้วจะต้องเปิดทางให้ธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญกลับมาโดยไว