4 หน่วยงาน ผนึกพลังยกระดับเสริมสวยสู่มาตรฐานสากล ดันสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ พลิกโฉมบ้านเป็นร้านสร้างรายได้

0
100

4 หน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ ธพว. สคช. ธอส. และ บสย. ประสานพลังยกระดับมาตรฐานวิชาชีพผู้ประกอบอาชีพเสริมสวย เสริมแกร่งธุรกิจบริการท่องเที่ยวไทย ชูมอบทักษะความรู้ เงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นเพียง 0.25% ต่อเดือน พลิกโฉมบ้านเป็นร้าน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น สร้างคุณภาพชีวิต พาสังคมอยู่ดีมีสุข  นำร่องคิกออฟ 3 เม.ย.นี้ ที่ จ.ขอนแก่น 

นายพงชาญ สำเภาเงิน รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  กล่าวว่า ธนาคาร และพันธมิตร ได้แก่ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์กรมหาชน) หรือ สคช. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ร่วมกันยกระดับมาตรฐานวิชาชีพให้แก่ผู้ประกอบอาชีพเสริมสวย  ซึ่งเป็นหนึ่งในอาชีพอิสระที่ภาครัฐให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีความใกล้ชิดกับสังคมไทยมาต่อเนื่องยาวนาน ที่สำคัญ บริการเสริมสวยจากช่างไทยเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับฝีมือจากนานาชาติ หากได้รับการสนับสนุนยกระดับมาตรฐานสู่สากลจะมีส่วนส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวไทย ในฐานะศูนย์กลางบริการเสริมสวยที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากเดินทางเข้ามาใช้บริการ รวมถึง มีโอกาสที่ช่างเสริมสวยไทยจะต่อยอดไปประกอบอาชีพในต่างประเทศ หรือเปิดร้านเสริมสวยในแหล่งชุมชนต่างๆ รับรองนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเมืองไทยปีละมากกว่า 30 ล้านคน  เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างกว้างขวาง

ทั้งนี้ แนวทางส่งเสริม หน่วยงานพันธมิตรจะร่วมกันมอบ “3 เติม”  ได้แก่ เติมทักษะ เติมทุน และเติมคุณภาพชีวิต  ด้าน “เติมทักษะ” ทาง สคช. ดำเนินการฝึกอบรมและประเมินผล  เมื่อผ่านกระบวนการแล้ว จะได้รับใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ  สามารถเดินทางไปประกอบอาชีพเสริมสวยได้ทั่วโลก  

ด้าน “เติมทุน” ธพว. และ ธอส. สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในโครงการ “สร้างบ้านสร้างอาชีพ” โดยผู้ประกอบการอาชีพเสริมสวยที่ต้องการปรับปรุงร้านให้สวยงาม ทันสมัย ได้มาตรฐาน หรือช่างเสริมสวยฝีมือดีที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ต้องการสร้างอาชีพในท้องถิ่นบ้านเกิด สามารถขอสินเชื่อของ ธพว. เพื่อพลิกโฉมบ้านให้เป็นร้านเสริมสวยได้ ผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ผ่อนนาน 7 ปี  คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ บุคคลธรรมดา 3 ปีแรก เพียง 0.417% ต่อเดือน ปี 4-7 อัตรา MLR ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด  2 ล้านบาท และหากเป็นนิติบุคคล อัตราดอกเบี้ยถูกลงไปอีก 3ปีแรกเพียง 0.25% ต่อเดือน ปี 4-7 อัตรา MLR ต่อปี สามารถใช้ บสย.ค้ำประกันได้ ขณะที่ ธอส. สนับสนุนสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยหรืออาคารทำเป็นร้านเสริมสวย โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรกเพียง 3.15% ต่อปี จากนั้นเป็นไปตามเงื่อนไขธนาคาร ระยะเวลากู้สูงสุด 40 ปี ฟรี ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ และค่าจดทะเบียนจำนอง  1%

และเมื่อได้รับ “เติมทักษะ” และ “เติมทุน” แล้ว  จะนำไปสู่การ “เติมคุณภาพชีวิต” เพราะการมีอาชีพที่มั่นคงสร้างรายได้น่าพึงพอใจ  พร้อมกับมีบ้านเป็นของตัวเอง  ช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ประกอบอาชีพและครอบครัว อยู่ดีมีสุข นอกจากนั้น เมื่อมีร้านเสริมสวยที่ได้มาตรฐานเปิดตามแหล่งท่องเที่ยวชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ จะช่วยส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว จูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใช้บริการ เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น 

นายพงชาญ กล่าวต่อว่า หน่วยงานพันธมิตรจะร่วมกันผลักดันโครงการนี้ไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ นำร่องในวันที่ 3 เม.ย.นี้  ณ โรงแรมอวานี จ.ขอนแก่น  ภายใต้ชื่อ “เปลี่ยนบ้านเป็นร้านเสริมสวย เพื่อมืออาชีพ”  โดยมีกิจกรรมต่างๆ เช่น บรรยายพิเศษให้ความรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในอาชีพเสริมสวย ได้แก่ หัวข้อ “Sustainable Salon Management” โดย ดร.สมศักดิ์ ชลาชล ประธานคณะทำงานมาตรฐานอาชีพ และหัวข้อ “เทรนด์ใหม่ไฟแรงที่ช่างผมยุค 4.0 ควรรู้” โดยนายไกรวิทย์ พุ่มสุโข  คณะทำงานมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ขณะที่ ธพว. และ ธอส. บริการสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ สามารถยื่นกู้ภายในงานได้ทันที และ บสย. มาให้ปรึกษาการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs สามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี  เพียงลงทะเบียนผ่านออนไลน์ https://goo.gl/voVjH3 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ Call Center 1357

นายพิสิฐ รังสฤษฏ์วุฒิกุล ผู้อำนวยการ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวว่า ความร่วมมือของ 4 หน่วยงานในครั้งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าของความร่วมมือที่เห็นเป็นรูปธรรม สร้างคนตัวเล็กให้เดินหน้าไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชน เกิดความ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน นับได้ว่า เป็นการต่อยอดที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งของกลุ่มผู้ที่ได้รับใบประกาศคุณวุฒิวิชาชีพธุรกิจเสริมสวย ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดขยายกิจการ สร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดย สคช.พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วยมาตรฐานอาชีพ สร้างความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างยั่งยืน สร้างโอกาสทางอาชีพไปยังชุมชนเมืองต่างๆ ทั่วประเทศอันเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก พร้อมยกระดับสู่การเป็นเมืองแห่งมาตรฐานอาชีพที่เข้มแข็ง