“ซีเจ โลจิสติคส์”ลุยสร้างศูนย์กระจายสินค้าในไทย จัดการพัสดุสูงสุด 4 แสนหน่วย/วัน

0
274

ซีเจ โลจิสติคส์ ต่อยอดขยายธุรกิจโลจิสติคส์สู่ตลาดอาเซียนต่อเนื่อง ชูแนวคิด “K-Logistics”และเทคโนโลยีการจัดการพัสดุล้ำสมัย เพื่อตอบสนองตลาดขนส่งพัสดุไทย ลุยสร้างศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลางที่สามารถรองรับการจัดการพัสดุได้สูงสุดถึง 4 แสนหน่วยต่อวัน

ศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลางของซีเจ โลจิสติคส์ ที่บางนา กรุงเทพฯ ซึ่งติดตั้งระบบคัดแยกกล่องแบบอัตโนมัติwheel sorter ได้เริ่มนำร่องดำเนินการตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลางดังกล่าว ใช้ระบบwheel sorter เช่นเดียวกับที่ใช้ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งสามารถจัดการพัสดุได้สูงสุดถึง 400,000 ชิ้นต่อวัน ในพื้นที่กว่า 71,900 ตารางเมตร นับเป็นศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่พร้อมด้วยศักยภาพในการดำเนินการได้ถึง 13% ของปริมาณพัสดุทั้งหมดที่มีการจัดส่งรวมกว่า 3 ล้านชิ้นต่อวันในประเทศไทย

ตลาดขนส่งพัสดุไทยเป็นตลาดที่เต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจที่มีศักยภาพสูง เนื่องด้วยการเติบโตของโทรศัพท์มือถือและการขยายตัวของตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างรวดเร็ว การทำธุรกรรมอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีมูลค่าถึง 7 แสนล้านบาท (2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2560 และภายในปี 2563 คาดว่ากว่า 50% ของยอดขายปลีกทั้งหมดจะเกิดจากตลาดออนไลน์ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีแผนที่จะยกระดับประเทศสู่ศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนด้วยการผลักดันอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงและการสนับสนุนระบบอีเพย์เมนต์ภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0 จะนำไปสู่การเติบโตของตลาดโลจิสติคส์ของสินค้าอุปโภคบริโภค ตลอดจนอุตสาหกรรมการจัดส่งพัสดุ

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีความสามารถในการรองรับการจัดการพัสดุทั้งหมดประมาณ 3 ล้านชิ้นต่อวันโดยเฉลี่ย โดยมี เคอรี่เอ็กซ์เพรส ไปรษณีย์ไทย และ DHL เป็นผู้เล่นรายหลักในตลาดด้านซีเจ โลจิสติคส์ ตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการการจัดส่งพัสดุ ในระยะเวลาอันสั้น ด้วยการนำเสนอบริการคุณภาพที่ได้รับการยอมรับในประเทศเกาหลีและการลงทุนด้านสิ่งอำนวยความสะดวกและอินฟราสตรัคเจอร์ที่สามารถจัดการพัสดุได้สูงสุดถึง 400,000 หน่วยต่อวันนอกจากนี้ บริษัทฯ จะยังคงพัฒนาบริการและระบบการดำเนินการอย่างไม่หยุดยั้งด้วยการใช้เทคโนโลยีไอทีระดับสูงจากประเทศเกาหลี เช่น ระบบการขนส่ง แอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือสำหรับการทำธุรกิจ และระบบการติดตามสถานะการขนส่ง

นายมยองกุก พัก กรรมการทั่วไป ธุรกิจขนส่งพัสดุ ซีเจ โลจิสติคส์ ประเทศไทย เผยว่า  “ด้วยตลาดอีคอมเมิร์ซไทยเติบโตที่สูงกว่าในอัตราเลขสองหลัก(double-digit) อย่างต่อเนื่องทุกปี และพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอย่างดี เราเชื่อมั่นในการเติบโตของธุรกิจขนส่งพัสดุในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่งจึงมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้านการจัดส่งพัสดุของประเทศไทย ด้วยการส่งต่อความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีเหนือระดับจากประเทศเกาหลี การพัฒนาอินฟราสตครัคเจอร์หลัก และการขยายจุดให้บริการทั่วประเทศไทย”

นอกเหนือจากธุรกิจขนส่งพัสดุ ซีเจ โลจิสติคส์ ยังให้บริการโลจิสติคส์ที่ครอบคลุมแบบ one-stop service สำหรับบริษัทต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงโลจิสติคส์ตามสัญญาจ้าง (contract logistics) บริการนำเข้า-ส่งออกสินค้า และโครงการขนส่งสินค้าต่างๆ อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เริ่มธุรกิจในประเทศไทยเมื่อปี 2541

นอกจากการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซีเจ โลจิสติคส์ ยังมุ่งต่อยอดการเติบโตด้วยแนวคิดK-Logistics ในตลาดหลักต่างๆ รวมถึงประเทศมาเลเซียและเวียดนาม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย New Southern Policy ของรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับบริษัทโลจิสติคส์ในประเทศมาเลเซีย ซีเจ เซ็นจูรี โลจิสติคส์ (CJ Century Logistics) ในเดือนกันยายน 2559 และมีการร่วมทุนระหว่างซีเจ ทรานสเนชันแนล (CJ Transnational) และ ทีดีจี กรุ๊ป(TDG Group) ในประเทศฟิลิปปินส์ในเดือนธันวาคม 2559ตลอดจนการเข้าถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจโลจิสติคส์และการขนส่งของเจมาเด็ปต์ (Gemedept) บริษัทโลจิสติคส์ชั้นนำของประเทศเวียดนาม ทั้งหมดนี้เกิดจากความตั้งใจของซีเจ โลจิสติคส์ในการสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งในภูมิภาคอาเซียน