‘กู๊ดเยียร์’โชว์โซลูชั่นจัดการยางหนุน‘ลินฟ้อกซ์’ลดดาวน์ไทม์

0
179

โลกวันนี้ควงสว่านเร็วแรงขึ้นเรื่อยๆจากแรงโน้มถ่วงพายุเทคโนโลยี การขับเคลื่อนธุรกิจในแง่เหลี่ยมมองคู่แข่งเป็นศัตรูดูจะเป็นเทรนด์ที่ตกขอบโลกไปแล้ว ดังจะเห็นยักษ์ใหญ่ธุรกิจโลกกระโดดจับมือเป็นมหามิตรทางธุรกิจกรุยทางสู่เป้าหมายคือความสำเร็จแบบWin-Win

อย่างในอุตสาหกรรมยางรถยนต์ไม่มีใครไม่รู้จักยักษ์ใหญ่โลกอย่าง กู๊ดเยียร์ขณะที่ยักษ์ใหญ่ธุรกิจขนส่งระดับโลกก็ไม่มีใครรู้จัก “ลินฟ้อกซ์”ล่าสุด 2 ยักษ์ใหญ่ขยายฐานความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  โดยกู๊ดเยียร์นำเสนอโซลูชั่นจัดการยางที่ครบวงจร ช่วยให้ลินฟ้อกซ์สามารถลดเวลาดาวน์ไทม์และเพิ่มความสามารถในการผลิต เสริมประสิทธิภาพการขนส่งของลินฟ้อกซ์ในประเทศไทยได้เต็มศักยภาพ

นายไมเคิลดรายเออร์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ดูแลสายงานรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของกู๊ดเยียร์ กล่าวว่าภายใต้ความร่วมมือทั้ง 2 บริษัทนี้ กู๊ดเยียร์จะให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์คุณภาพชั้นนำระดับโลกและระบบการบริหารจัดการยางแก่ลินฟ้อกซ์ เพื่อรองรับรถขนส่งสินค้าที่ให้บริการในศูนย์ขนส่งสินค้า 2 แห่งในย่านปริมณฑล ได้แก่ ลำลูกกาและบางบัวทอง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน ลินฟ้อกซ์มีรถบรรทุกและรถพ่วงให้บริการในคลังสินค้าสองแห่งรวมกันราว 300 คัน
 
“บริษัทมีความยินดีที่ได้รับเลือกให้ดำเนินระบบการบริหารจัดการยางสำหรับลินฟ้อกซ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำทางด้านซัพพลายเชนแบบครบวงจรในเอเชียแปซิฟิก ภารกิจนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับทั้งสองบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ให้สามารถขยายความร่วมมือครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ พร้อมนำผลิตภัณฑ์และบริการมาตรฐานระดับโลกมาสู่ประเทศไทย บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ช่วยสนับสนุนให้พันธมิตรเพิ่มความได้เปรียบเชิงแข่งขันในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างปลอดภัยไร้กังวล ด้วยผลิตภัณฑ์และระบบการบริหารจัดการยางที่เหนือระดับของเรา”

ขณะที่นายเกรก โทมัส ซีอีโอของลินฟ้อกซ์อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป ระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ลินฟ้อกซ์ และ กู๊ดเยียร์ ดำเนินมายาวนานตั้งแต่ พ.ศ. 2511 เมื่อสองบริษัทร่วมมือกันในการจัดส่งยางให้กับอู่ซ่อมรถและกิจการค้าปลีกต่างๆ ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย

 
“เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้วที่ความร่วมมือนี้ยังคงแข็งแกร่ง รวมไปถึงความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบความปลอดภัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยฐานการดำเนินงานที่มีอยู่ในประเทศไทย ทำให้ลินฟ้อกซ์ยินดีที่จะขยายความร่วมมือกับกู๊ดเยียร์ให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”
 
ตามข้อตกลงร่วมมือครั้งนี้ กู๊ดเยียร์จะจัดหายางพรีเมียมรุ่น S200+ และ G667+ Max เพื่อรองรับรถหัวลากของลินฟ้อกซ์ พร้อมบริการดอกยางด้วยหน้ายางรุ่น LHT-R สำหรับรถพ่วงของลินฟ้อกซ์ทุกคันยิ่งไปกว่านั้น กู๊ดเยียร์ยังนำเอาเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Tire Optix” ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของกู๊ดเยียร์ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจเลือกใช้โดยลูกค้าชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลก มาบริหารจัดการข้อมูลเชิงลึก

ไม่ว่าจะเป็นความลึกดอกยางหรือแรงดันลมยาง ด้วยอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการทั้ง iOSและแอนดรอยด์โดยระบบสามารถติดตามประวัติและตำแหน่งของยางแต่ละเส้น ไม่ว่าจะเป็นยางใหม่หรือยางหล่อได้ด้วยการสแกนหมายเลขซีเรียลของยาง และติดตามข้อมูลยางได้ตลอดวงจรอายุการใช้งาน อีกทั้งยังสามารถรายงานสภาพการสึกหรอของยาง ประวัติการเข้ารับบริการตามตำแหน่งของล้อของรถหัวลากและรถพ่วงแต่ละคันได้ตามต้องการ

นอกจากบริการดังกล่าวแล้ว กู๊ดเยียร์ยังจะนำอุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า “Wheel Nut Indicator” ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรแกรมรับประกันความปลอดภัยของกู๊ดเยียร์ที่บริการให้แก่ลินฟ้อกซ์ โปรแกรม Goodyear Wheel Security ช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ว่าน็อตล้อทุกตัวแน่นและพร้อมใช้งานตลอดเวลา ซึ่งผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบความเรียบร้อยได้ทั้งก่อนและหลังการเดินทางโดยสังเกตได้จากลักษณะของ Wheel Nut Indicator ที่ปรากฏเมื่อน็อตวงล้อหลวม พร้อมเป็นการเตือนให้ทราบเมื่อต้องบำรุงรักษาแบบทันท่วงที โปรแกรมรับประกันความปลอดภัยของกู๊ดเยียร์นี้

นับเป็นบริการใหม่ในวงการยางของประเทศไทย ซึ่งจะเป็นบริการที่ช่วยให้การดำเนินงานขนส่งของลินฟ้อกซ์ปลอดภัย ราบรื่น ช่วยลดทอนโอกาสที่จะทำให้ต้องถอดล้อหรือเดินทางไม่ต่อเนื่อง ได้อย่างมีนัยสำคัญ การขยายความร่วมมือระหว่างกู๊ดเยียร์และลินฟ้อกซ์จึงเป็นการเปิดศักราชใหม่ของความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนานและประสบผลสำเร็จในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่ดีเยี่ยม ได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล