Panus LogTech ปี 4 ปิดฉากลงพร้อมเบ่งบานด้วย’ไอเดียสุดปัง-ผลงาน AI’จากทีมผู้ชนะ

0
202

ปิดฉากลงอย่างเลอค่าไปอีกปีสำหรับโครงการบ่มเพาะสุดยอดไอเดียสร้างสรรค์และผลงาน AI ภายใต้โครงการ Panus Thailand LogTech Award 2020 ปีที่ 4 ที่มีเจ้าภาพหลักอย่าง “พนัสฯ”ผู้นำธุรกิจผลิตยานยนต์เพื่อการขนส่งและโลจิสติกส์เมืองไทย จับมือศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี สวทช. และสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อผลักดันแนวคิดและผลงานเทคโนโลยีและนวัตกรรม AI ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

แม้ปีนี้จะเผชิญวิกฤตการณ์โควิด-19 ทำให้หลายกิจกรรมต้องหยุดชะงัก ทว่าก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใดสำหรับกิจกรรมที่ดีและสร้างสรรค์นี้ ยังคงเดินหน้าจัดการประกวดในรูปแบบ Online Hackathon เพื่อตอบแนวปฏิบัติ “เว้นระยะห่าง” หรือ Social Distancing ภายใต้แนวคิด “AI for New Normal Economy”(ปัญญาประดิษฐ์สำหรับเศรษฐกิจนิวนอร์มอล)พุ่งชนเป้าหมายการส่งเสริมและบ่มเพาะผู้เข้าร่วมแข่งขันในการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้โจทย์ต่างๆและพร้อมขยายผลสู่การใช้งานจริงในสังคมเพื่อประโยชน์ต่อประเทศในอนาคต

ท้ายที่สุดตลอดระยะเวลา 3 เดือน(มิ.ย.-ก.ย.63)ต่อการขับเคี่ยวและลับคมสุดยอดไอเดียด้าน AI รวมกว่า 140 ทีมทั่วประเทศก็ได้ทีมผู้ชนะในแต่ละประเภท โดยรางวัลชนะเลิศปีนี้ตกเป็นของทีม AI = Absolutely Idiots จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม Stepsole Analytic จากบริษัท สเตปโซล จำกัด และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม DRX corporation (บุคคลทั่วไป) และทีม DDtech จาก ม.สุรนารี

นายพนัส วัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด เปิดเผยหลังเป็นประธานมอบรางวัลแลเกียรติบัตรสำหรับทีมผู้ชนะว่ารู้สึกประทับใจที่เยาวชนไทย บุคคลทั่วไปให้ความสนใจและเล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลนีดิจิทัลที่จะเติบโตอย่างมากในอนาคต โดยเฉพาะ AI ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น โดย AI ไม่เพียงแต่เข้ามามีบทบาทในสังคมเท่านั้น แต่ส่งผลกระทบอย่างมากในอุตสาหกรรมทั้งขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ที่จะต้องปรับตัวเพื่อก้าวทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

“เยาวชนไทยคือกลไลที่สำคัญที่จะช่วยพัฒนา และเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศต่อไป นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่บริษัทฯจัด Panus Thailand LogTech Award ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 แล้ว ซึ่งโดยปกติจะเป็นการแข่งขันแนวคิดด้านโลจิสติกส์ แต่ปีนี้ได้เปิดกว้างเป็นการใช้ AI ในทุกอุตสาหกรรม และประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม”

นอกจากนี้ CEO บจก.พนัส แอสเซมบลีย์ ย้ำอีกว่าต้องยอมรับแม้ปีนี้ทุกภาคส่วนธุรกิจล้วนแล้วได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤติโควิด-19 ทว่า หากมองในมุมกลับกันก็ดีไปอีกอย่าง เพราะทำให้เราได้ปรับตัว แก้ไขปัญหา และเดินหน้าในทุกกิจกรรมให้ทันท่วงทีกับวิกฤติการณ์ครั้งนี้ได้ดี การจัดประกวดในโครงการนี้ถือเป็นการสร้างความแตกต่างให้กับประเทศในมุมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ นิสิตนักศึกษา และบุคคลทั่วที่เข้าร่วมแข่งขันได้มีการพัฒนาด้าน AI มากขึ้น ส่งผลดีต่อพัฒนาและการขับเคลี่อนเศรษฐกิจของประเทศ

“ผมขอแสดงความยินดีกับทีมผู้ชนะที่จะเป็นการจุดประกายแนวคิดสู่การมีธุรกิจใหม่เกิดขึ้นภายใต้การผลักดันของโครงการนี้ และขอขอบคุณทุกพาร์ทเนอร์ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนโครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เพื่อผลักดันให้เกิดพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆให้กับประเทศอย่างยั่งยื่นต่อไป”

ด้านนางศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ ผู้อำนวยการ ศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี สวทช. กล่าวเพิ่มเติมว่าการประกวดในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องน่าดีใจเป็นอย่างยิ่งที่นอกจากเยาวชนไทย และบุคคลทั่วไปจะให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีแล้ว เรายังมีภาคเอกชนและสมาคมที่เป็นผู้ใหญ่ใจดีอย่างบริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ และสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย ที่พร้อมให้โอกาส ให้ความรู้ และสนับสนุนผลงานความคิดสร้างสรรค์ต่างๆที่จะเป็นหนึ่งแนวทางในการพัฒนาประเทศให้ดียิ่งขึ้นต่อไปได้

“ศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจฯ สวทช. เองก็พร้อมเป็นกำลังหลักสำคัญในการนำกลไกต่างๆเพื่อบ่มเพาะผลงานของผู้ชนะ และรวมไปถึงผู้เข้าประกวดทุกทีมในปีนี้ให้สามารถต่อยอดกลายเป็นธุรกิจเทคโนโลยีได้จริง”

ส่วนศาสตราจารย์ ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง นายกสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย กล่าวว่านับเป็นเกียรติของทางสมาคมที่ได้รับโอกาสและการสนับสนุนจากบริษัทพนัสฯให้เป็นผู้ดำเนินการในครั้งนี้ และภาคภูมิใจที่นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และผู้ประกอบการไทย ได้ตื่นตัวต่อการทำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ไปแก้ปัญหาทางธุรกิจในแขนงต่างๆอย่างน่าสนใจ

ขณะที่นายณัทกร เกษมสำราญ จากทีมผู้ชนะเลิศ AI = Absolutely Idiots คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยความรู้สึกว่าต้องบอกว่ายุคปัจจุบัน AI มันอยู่ในทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการแพทย์ก็ตาม งานด้านสังคมก็ตาม หรือแม้แต่ในทุกเทคโนโลยีที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน หลังบ้านของเทคโนโลยีเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่มีระบบ AI ฝังตัวอยู่ด้วยกันทั้งนั้น

“AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัว บางคนอาจจะมองว่า AI มาแย่งงานหรือมาเป็นตัวปิดกั้นการขับเคลื่อนในทุกๆกิจกรรมได้หยุดชะงัก ผมมองในอีกมุมว่าเขาไม่ได้แย่งงานเรา เพราะสุดท้ายแล้ว AI ก็ต้องพึ่งมนุษย์อยู่ดี แต่มันเข้าช่วยเป็นตัวบ่งชี้ให้การทำงานของเราได้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความถูกต้องแม่นย้ำมากขึ้น นี่คือประโยชน์ของ AI ที่มีผลต่อยุคปัจจุบันและอนาคต”