จับตา!คดีค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้านหลังศาลรธน.วินิจฉัยมติศาลปกครองขัดรัฐธรรมนูญ

0
79

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้(17 มีนาคม พ.ศ. 2564 ) ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่สนใจของสังคม ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 (เรื่องพิจารณาที่ ต. 59 /2563) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 (วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2545 )ซึ่งผู้ร้องอ้างว่าเป็นระเบียบตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 44 แต่มิได้ดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง จึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 5 วรรคหนึ่ง มาตรา  25 วรรคสาม มาตรา 188 และมาตรา 147 ขอให้สั่งเพิกถอนมติหรือการกระทำดังกล่าว

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วมีคำสั่งรับไว้พิจารณาวินิจฉัย และให้ศาลปกครองสูงสุด ส่งเอกสารรายงานการประชุมตามมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดครั้งดังกล่าว รวมทั้งระเบียบและเอกสารที่เกี่ยวข้อง มาพิจารณา

ต่อมาศาลปกครองสูงสุดส่งหนังสือชี้แจงและเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อศารัฐธรรมนูญรวม 2 ครั้ง ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับรวมไว้ในสำนวน ผลการพิจารณาการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในวันนี้ โดยครบองค์คณะของศาลรัฐธรรมนูญตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 52 วรรคสอง ที่บัญญัติว่าองค์คณะของศาลในการพิจารณาคดีและในการทำคำวินิจฉัย ต้องประกอบด้วยตุลาการไม่น้อยกว่า 7 คน (เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ถอนตัวจากการพิจารณาคดีนี้ตั้งแต่ต้นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ

ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561มาตรา 34 ประกอบมาตรา 32(1) และนายวรวิทย์  กังศศิเทียมประธานศาลรัฐธรรมนูญ ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจึงไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเลือก นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่แทนประธานศาลรัฐธรรมนูญตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2561มาตรา 18 วรรคสี่)

โดยศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2555 (วันที่ 27 พฤศจิกายน 2556) เรื่อง ปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาการฟ้องคดีปกครองเป็นการออกระเบียบตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542

มาตรา 44 แต่มิได้ดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง จึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 197 วรรคสี่

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าหลังจากนี้จะรอคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการของศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการส่งคำวินิจฉัยกลับมาที่ผู้ตรวจการแผ่นดินในฐานะผู้ร้องก่อนที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะส่งคำวินิจฉัยกลับมายังกระทรวงคมนาคม หลังจากนั้นทางคณะทำงานติดตามคดีฯที่กระทรวงคมนาคมแต่งตั้งขึ้นจะมีการพิจารณาการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ขณะที่นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กล่าวว่า ขณะนี้ รฟท.อยู่ระหว่างการรอสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินไปดำเนินการขอคัดถ่ายคำวินิจฉัยกลาง ของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อนำมาพิจารณาเนื้อหาและรายละเอียดต่างๆ พร้อมกับประสานงานกับกระทรวงคมนาคมในการพิจารณาแนวทางเพื่อปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากกรณีนี้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นผู้ยื่นคำร้องแทนกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในประเด็นว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร ทุกองค์กรจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ