คมนาคมจับมือ IMO ดันไทยยืนหนึ่งขนส่งทางน้ำ

0
66

“ศักดิ์สยาม”จับมือองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการขนส่งทางน้ำที่ยั่งยืนของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคอาเซียน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังให้นายคีทัค ลิม (H.E. Mr. Kitack Lim) เลขาธิการองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization : IMO) เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า IMO ถือเป็นผู้นำขององค์กรระดับโลกที่มีบทบาทสำคัญในการออกกฎระเบียบและมาตรฐานระหว่างประเทศ เพื่อสร้างความปลอดภัยและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศ และยังสนับสนุนและช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ในการพัฒนางานด้านการขนส่งทางทะเลให้เป็นที่ยอมรับทั่วโลก นอกจากนี้ทาง IMO ได้แจ้งว่าพร้อมที่จะผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาการขนส่งทางน้ำของไทยที่ยั่งยืนต่อไป และมีความประสงค์ที่จะได้เห็นประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการพัฒนาการขนส่งที่ยั่งยืนในกลุ่มของประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคอาเซียน

นอกจากนี้ตนได้ขอบคุณทาง IMO ที่สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือประเทศไทยที่ผ่านมา ในการดำเนินการตามอนุสัญญาและตราสารต่าง ๆ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือทางวิชาการของ IMO ซึ่งประเทศไทยในฐานะสมาชิกคณะมนตรีของ IMO ได้ส่งผู้แทนไปปฏิบัติงานประจำที่ IMO ในฐานะผู้ช่วยทูตฝ่ายกิจการทางทะเลครั้งแรกตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ทำให้การประสานงานด้านต่าง ๆ ระหว่างประเทศไทยและ IMO มีความราบรื่นเป็นอย่างมาก รวมถึงได้แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับความพร้อมในการเข้ารับการตรวจประเมินจาก IMO ในปี 66 ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานด้านความปลอดภัยและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศไทย อันจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเลของไทย

อีกทั้ง ประเทศไทยยังเชื่อมั่นว่า IMO จะสนับสนุนให้การคมนาคมขนส่งทางน้ำของประเทศไทยดำเนินไปด้วยความมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้มีการจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า เพื่อดูแลความปลอดภัยของการขนส่งทางน้ำตามมาตรฐานสากล และยังได้มีนโยบายผลักดันให้เกิดการใช้พลังงานสะอาด เพื่อการขนส่งทั้งเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา และยังมีแนวคิดที่จะศึกษาการใช้พลังงานสะอาดในการขนส่งระบบรางระหว่างเมือง รวมถึงยังมีแนวทางที่จำดำเนินการกฎระเบียบเรื่อง Carbon Credit ในอนาคตอีกด้วย