ครม. เคาะลงทะเบียนคนจนปี 60 ปรับเกณฑ์เพิ่มต้องมีทรัพย์สินทางการเงินรวมไม่เกิน 100,000 บาท พื้นที่บ้านไม่เกิน 25 ต.ร.ว. ที่ทำกินเกษตรไม่เกิน 10 ไร่

0
210

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบให้เปิดลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ หรือโครงการลงทะเบียนคนจน ประจำปี 2560 ตั้งแต่วันที่ 3เม.ย.-15พ.ค.นี้ โดยปรับหลักเกณฑ์เพิ่มจากปี 2559 คือ ผู้ที่มีสิทธิลงทะเบียนต้องไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่เงินฝากธนาคาร สลากออมสิน สลากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) พันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ หรือถ้ามีทรัพย์สินทางการเงินดังกล่าวรวมแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง รวมทั้งต้องไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านหรือทาวเฮ้าส์ที่มีพื้นที่เกินกว่า 25 ตารางวา หรือห้องชุดเกิน 35 ตารางเมตร กรณีเป็นเกษตรกรต้องไม่มีที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ หรือใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่การเกษตรต้องไม่เกิน 1 ไร่

สำหรับเงื่อนไขเดิมที่เหมือนกับปีที่ผ่านมาคือ ผู้มีสิทธิลงทะเบียนต้องมีสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป และเป็นผู้ว่างงานหรือมีรายได้ที่เกิดขึ้นในปี 2559 ไม่เกิน 100,000 บาท  สำหรับหน่วยรับลงทะเบียนได้จัดเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดความสะดวกโดยสามารถลงทะเบียนได้ที่คลังจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานเขตกรุงเทพฯ ทุกเขต จากเดิมที่ลงทะเบียนได้เฉพาะ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรทุกสาขา ธนาคารออมสินทุกสาขา และธนาคารกรุงไทยทุกสาขา เท่านั้น

ทั้งนี้การเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่นี้ ผู้มีสิทธิทุกคนต้องมาลงทะเบียนใหม่หมดทั้งรายเดิมที่เคยลงทะเบียนแล้วและรายใหม่ที่ยังไม่เคยลงทะเบียน โดยต้องเตรียมบัตรประชาชนและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้พร้อมเพื่อความรวดเร็วในการกรอกข้อมูล หลังลงทะเบียนสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิได้ภายในเดือนมิ.ย. นี้ จากเว็บไซต์www.epayment.go.th และที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหลังจากคัดกรองผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว กระทรวงการคลังจะออกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ผู้มีสิทธิ์ เพื่อนำไปใช้รับสวัสดิการตามที่ภาครัฐกำหนดต่อไป เช่นเรื่องของค่าโดยสารในการเดินทาง การช่วยเหลือเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ในปี 2559 มีผู้มาลงทะเบียนทั้งสิ้น 8,375,383 คน เป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินโอน 7,715,359 คน และรัฐบาลได้โอนเงินไปให้แล้ว 7,715,359 คน หรือคิดเป็น 97.5% ของผู้มีสิทธิ์ ยอดเงินที่โอนรวม 17,469ล้านบาท