เศรษฐกิจจีนเผชิญการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ 9 ประการ

0
219
A stock investor checks the share prices at a security firm in Hangzhou, east China's Zhejiang province on December 30, 2014. China's stock market is set to finish 2014 as the second-best performer in the world after soaring by almost 50 percent in a borrowing-fuelled, government-backed rally following four years in the doldrums. CHINA OUT AFP PHOTO

เศรษฐกิจจีนเผชิญการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ 9 ประการ

รัฐบาลจีนกำลังตระหนักดีว่า เศรษฐกิจจีนกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ทั้งจากสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกประเทศ อีกทั้งต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นจากภาวะ New Normal ในอนาคตจากนี้

บทความวันนี้ จึงขอสรุปการเปลี่ยนแปลงทั้ง 9 ประการของจีน ดังนี้

ประการแรก “ยุคการเจริญเติบโตในอัตราสูง” ได้สิ้นสุดลงแล้ว ในอีก 5 ปีข้างหน้า การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมในจีนจะชะลอตัวลง จีนต้องปรับเผชิญกับความท้าทายใหม่นานัปการ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนมีคำอธิบายที่หลากหลาย ทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน หากยังคงดำเนินการในวิถีทางหรือรูปแบบเดิมๆ ก็จะกลายเป็นตัวถ่วงของการเดินหน้าเศรษฐกิจจีนจากนี้ต่อไป

ประการที่ 2 “ม้าลากรถสามตัว” กำลังอ่อนแรง ที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนเติบโตได้จากภาคการส่งออก การลงทุนและการบริโภค เป็นเสมือนม้าลากรถสามตัว ที่เคยใช้เป็นแรงผลักดันพื้นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน หากแต่ในขณะนี้ บริบทต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไป จำเป็นต้องมีการสร้างหัวจักรใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน ได้แก่ การปฏิรูปทั้งระบบ (System Reform) การปรับโครงสร้างที่สมดุล (Structure Optimization) และการยกระดับองค์ประกอบอย่างแท้จริง (Elements Upgrade) เพื่อมุ่งสู่การสร้างประสิทธิภาพและปรับตัวให้ทันต่อเหตุการณ์

ประการที่ 3 “ยุคต้นทุนสูง” กำลังคืบคลานมา ในอดีตที่ผ่านมา “ความได้เปรียบด้านต้นทุน” คืออาวุธหลักที่ทำให้สินค้าของจีนสามารถแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศ แต่ในขณะนี้เศรษฐกิจจีนกำลังคืบคลานเข้าสู่ “ยุคต้นทุนสูง” โดยเฉพาะต้นทุนค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ปี 2008 นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายทางสังคมที่เพิ่มขึ้น ภาคธุรกิจของจีนจะต้องรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น ทำให้มีต้นทุนเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น

ประการที่ 4 ปรับเปลี่ยนจากสังคมชนบทเป็น “สังคมเมือง” การสร้างความเป็นเมือง (Urbanization) ของรัฐบาลจีนมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานให้ขยายตัวไปได้ ความเป็นสังคมเมืองทำให้ชนชั้นกลางจีนกลายเป็นขุมพลังของเศรษฐกิจจีน และส่งผลต่อการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมและภาคบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น รูปแบบการใช้ชีวิตและความต้องการของชาวจีนในเขตเมือง จะนำมาซึ่งความต้องการด้านลงทุนขนาดใหญ่ตามมา

ประการที่ 5 “ระบบเครือข่ายธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต” ล้มล้างระบบดั้งเดิม แนวคิดธุรกิจแบบดั้งเดิมเน้นข้อได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง แต่ในยุคของระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่พัฒนาก้าวไกล ส่งผลให้กิจการที่มีความได้เปรียบทางทำเลที่ตั้งนับวันจะยิ่งอ่อนแอลงในขณะนี้ ซึ่งจำเป็นต้องปรับปรุงขนานใหญ่ เพื่อความอยู่รอดและปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคโลกออนไลน์

ประการที่ 6 “ธุรกิจด้านบริการ” แซงหน้าธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจการผลิตอุตสาหกรรมของจีนกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ล้าหลังลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่ธุรกิจภาคบริการก้าวขึ้นมามีบทบาทอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดจำหน่ายสินค้าที่ควบคู่ไปกับการให้บริการ รวมไปถึงภาคการท่องเที่ยว การศึกษา และธุรกิจบริการที่ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของคนจีนยุคใหม่ ดังนั้น ธุรกิจด้านการบริการกลายเป็นแนวโน้มที่ผู้ประกอบการจีนต้องปรับตัวและพัฒนาต่อไป

ประการที่ 7 ความได้เปรียบ “ด้านคุณภาพ” ของทรัพยากรมนุษย์มาแทนที่ความได้เปรียบจาก “ขนาด” จำนวนประชากร แต่ด้วยปัญหาในเชิงโครงสร้างประชากรจีนที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งในเรื่องสังคมผู้สูงอายุและความจำกัดของกำลังแรงงานจีน บวกกับค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ความได้เปรียบแบบเดิมๆ ของจีนกำลังจะตกยุค จำเป็นต้องหันมาพัฒนาสร้าง “ความได้เปรียบของทรัพยากรมนุษย์” ที่มีคุณภาพและมีนวัตกรรมในการผลิต ตลอดจนการหันมาผลิตในโรงงานที่เป็น Smart Factory ภายใต้ยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม Made in China 2025 ในยุค Industry 4.0 เน้นใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิตอลในการผลิต และมีการบริการลูกค้าควบคู่ไปด้วย

ประการที่ 8 มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมในจีนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมประชาชาติ 5 ปี ฉบับที่ 11 เป็นต้นมา รัฐบาลจีนได้หันมาเน้นเรื่องมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและเริ่มใช้ระบบตัวชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นเงื่อนไขในการผลิต ตลอดจนการออกกฎหมายและมีมาตรการที่เข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ส่งผลให้ต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน

ประการที่ 9 หมดยุคของการเป็น “มณฑลนิยม” แข่งขันกันจนเกิดปัญหา รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นจีนกำลังมุ่งเน้นส่งเสริมการ “ก้าวไปพร้อมกัน” มีการจับมือร่วมมือระหว่างรัฐบาลมณฑลระดับพื้นที่ ซึ่งแตกต่างกับในอดีตที่มีการแข่งขันในระดับมณฑลกันอย่างเข้มข้นจนเกิดปัญหา “มณฑลนิยม” แข่งกันผลิต แข่งกันสร้าง จนเกิดภาวะล้นเกิน สร้างปัญหาในระดับมหภาค การหันมาเน้นความร่วมมือกันระหว่างมณฑล ส่งผลดีต่อการสร้างความเชื่อมโยงของเครือข่ายอุตสาหกรรมการผลิต

โดยสรุป การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ทั้ง 9 ประการ สะท้อนถึง “สิ่งจำเป็น” ที่รัฐบาลจีนต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจีนแบบยกเครื่อง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งจากภายในเสริมพลังในการผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกต่อไป และทั้งหมดนี้เป็นทิศทางที่รัฐบาลไทยและภาคเอกชน ตลอดจนผู้ที่สนใจติดตามพัฒนาการประเทศจีนควรที่จะเรียนรู้และพึงตระหนัก เพื่อเตรียมรับมือ พร้อมไปกับการคิดวิเคราะห์หาแนวทางเพื่อเติบโตไปกับมังกรจีน Rise with the Dragon อย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยจากนี้ต่อไป

บทความโดย : รศ.ดร.อักษรศรี (อติสุธาโภชน์) พานิชสาส์น

คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์