ทล.แจงกรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุเสาไฟฟ้าส่องสว่างกระแสไฟรั่วบนเกาะกลาง

0
18

กรมทางหลวง(ทล.)แจงกรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุเสาไฟฟ้าส่องสว่างมีกระแสไฟรั่วบนเกาะกลาง เผยจากการตรวจสอบพบเสาไฟฟ้าในที่เกิดเหตุเสื่อมสภาพจุดเชื่อมสายไฟฟ้าส่งผลให้กระแสไฟฟ้ารั่ว เจ้าหน้าที่ได้ทำการแก้ไขขณะนี้ใช้งานได้ตามปกติ ลั่นพร้อมเยียวยาต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต สั่งตรวจสอบเสาไฟฟ้าส่องสว่างทุกต้นบนทางหลวงทั่วประเทศป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากกรณีประชาชนถูกกระแสไฟฟ้าดูดบริเวณเสาไฟฟ้าส่องสว่างบนเกาะกลาง ทางหลวงหมายเลข 3111 จ.ปทุมธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายนั้น กรมทางหลวงขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างยิ่ง และได้สั่งการให้แขวงทางหลวงปทุมธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ทันทีเพื่อทำการตรวจสอบ และหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยแขวงฯได้ให้เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงลาดหลุมแก้ว เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าแขวงทางหลวงปทุมธานี ประสานงาน เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ร่วมลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรจากการลงพื้นที่พบว่าเหตุเกิดในวันอังคาร ที่ 7 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 05.30 น. บนทางหลวงหมายเลข 3111 ตอน ปทุมธานี – ท้ายเกาะ ที่ กม.7+030 อ.สามโคก จ.ปทุมธานี พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ น.ส.วิไล เทพสาร อายุ 46 ปี ถูกกระแสไฟฟ้าดูดโดยได้เอามือไปจับเสาไฟฟ้าบริเวณเกาะกลางถนนขณะข้ามถนน และจากการตรวจสอบสภาพเสาไฟฟ้าในที่เกิดเหตุ พบการเสื่อมสภาพของจุดที่เชื่อมต่อสายไฟฟ้า ส่งผลให้กระแสไฟฟ้ารั่ว และเจ้าหน้าที่ได้ทำการแก้ไขจุดเชื่อมต่อสายไฟใหม่ด้วยการเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ตัดกระแสไฟฟ้าหรือเบรกเกอร์แทนของเดิม ขณะนี้สามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว

อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ในนามกรมทางหลวงพร้อมรับผิดชอบและเยียวยาต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยที่ผ่านมากรมทางหลวงได้ดำเนินการตรวจสอบและซ่อมแซมไฟฟ้าแสงสว่างบนทางหลวงมาโดยตลอดเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยประชาชนและผู้ใช้ทาง อีกทั้งได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกรมทางหลวง ดำเนินการตรวจสอบเสาไฟฟ้าทุกต้น ทุกสายทางทั่วประเทศ และดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นสภาพทางหลวงเป็นหลุมบ่อ ไฟฟ้าชำรุด หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)