เศรษฐกิจพ่นพิษ!กระทบยอดขายรถใหญ่ครึ่งปีแรกทรุด 37.1% ค่ายญี่ปุ่น-ยุโรปหืดจับ!

0
138

บนโลกข่าวสารยุคโซเชียลครองเมืองตามวงล้ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปีนี้อาการน่าเป็นห่วงของจริง ไล่ดะตั้งแต่ค่ายรถยนต์แบรนด์ดังจากแดนอาทิตย์อุทัย“ซูบารุ-ซูซูกิ”ประกาศปิดโรงงานในไทยแต่ยังทำตลาดในไทยด้วยการนำเข้าแทน วิบากกรรมตลาดรถยนต์ทรุดตัวต่อเนื่อง-ยอดขายฮวบฮาบ ค่ายฮอนด้าย้ายไลน์ผลิต จ.อยุธยาไปรวมที่โรงงาน จ.ปราจีน พร้อมปรับลดการผลิตลง 50% ท่ามกลางกระแสดราม่า“สงครามราคา”รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเปิดฟลอร์เริงระบำอย่างเมามัน

เป็นภาพสะท้อนส่งแรงเหวี่ยงจากพิษเศรษฐกิจหลับไม่ตื่น?หรือสื่อสัญญาณเตือนการเปลี่ยนแปลง? หรือหมุดหมายอันตรายใดๆต่อแวดวงยานยนต์ไทยหรือไม่?อย่างไร?ต้องจับตายาวๆ!

ฟากวงล้อตลาดรถเพื่อพาณิชย์ขนาดใหญ่เมืองไทยก็มิวายหลุดพ้นวิบากกรรมรอบคันเช่นเดียวกัน ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า!สำทับด้วยแรงเหวี่ยงกำลังซื้อตลาดรถเพื่อการพาณิชย์เมืองไทยที่ยังดู“อ่อนแรง”!ซ้ำบรรดาลีสซิ่งต่างก็นัดหมายปล่อยสินเชื่อยากส์มากขึ้น หลอมรวมเป็นคลื่นสึนามิซัดถล่มแวดวงรถใหญ่อย่างหนักหน่วง ประจักษ์พยานจากยอดขายรวมทุกค่ายลดวูบจนน่าใจหายทั้งเวทีญี่ปุ่น-ยุโรปโดนกันถ้วนหน้า 

เราไปจับชีพจรลมหายใจอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในซีกวงล้อตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ปีมังกร 2567 หลังปฏิทินเวลาผ่านโค้งครึ่งปีแรก(ม.ค.-มิ.ย.)ว่าค่ายไหนบาดเจ็บหนัก?ค่ายไหนแรงยังพอมีสีทนได้?ค่ายไหนแรงบิดวูบจนต้อง“ถอนตอ”?ค่ายไหนเดี๋ยวมาพอให้คิดถึงเดี๋ยวก็หายไกลจากจอเรดาห์โลกข่าวสาร?

จากสถิติยอดขายรวมที่รวบรวมโดย บริษัท บริษัท ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พบว่ายอดขายรวมทุกค่ายทุกสายพันธุ์อยู่ที่ 9,360 คัน(เฉพาะเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 1,549 คัน)ปรับตัวลดลง 37.1% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 14,904 คัน โดย ณ ที่นี้ขอย่อยแต่ละสายพันธุ์

เริ่มจากเวทีญี่ปุ่นโดยพี่เบิ้มตลอดกาลของตลาดอย่าง“ค่ายอีซูซุ”ที่ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวรถบรรทุก ใหม่!“ISUZU KING OF TRUCKS EURO 5 MAX”ชูจุดขาย“ไม่ต้องเติมน้ำยาบำบัดไอเสีย”แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพดีเยี่ยมทั้งด้านสมรรถนะ-ประหยัดน้ำมันที่เหนือชั้น และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นแก่ผู้ใช้รถ โดนครึ่งปีแรกอีซูซุโชว์พลังกวาดยอดขายได้ 5,667 คัน(เฉพาะเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 929คัน)ปรับตัวลดลง 25.9% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 7,648 คัน

ขณะที่ค่ายปีกนก“ฮีโน่”คู่ปรับตลอดกาลของพี่ใหญ่อีซูซุสะสมได้ 2,292 คัน(เฉพาะเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 344 คัน)ปรับตัวลดลง 57.3% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 5,372 คัน

ฟาก“ค่ายยูดี ทรัคส์”หลังปีที่ผ่านมาโชว์ผลงานยอดขายนิวไฮไปได้ไกลกว่าทุบสถิติในรอบ 5 ปีด้วยยอดจดทะเบียนรวมทั้งปีทะลุถึง 1,410 คัน สะท้อนการเติบโตเพิ่ม 47% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ครั้นปีนี้ผ่านครึ่งปีแรกสับเกียร์กึ่งอัตโนมัติ Escot สอยมาได้ 626 คัน(เฉพาะเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 85คัน) ปรับตัวลดลง 9.4% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 691 คัน

ฟากค่ายชบาแดงฟูโซ่นับตั้งแต่หลุดวงโคจรดิสทริบิวเตอร์ชื่อดังฝั่งเมืองปทุมมาซุกใต้ปีกบริษัทแม่จากเมืองเบียร์ ผลงานดูเหมือนยังไม่เข้าตากรรมการยังกะมวยเมาหมัด ขณะที่ผลงานปีนี้หลังผ่านพ้นครึ่งปีแรกเก็บเล็กผสมน้อยได้ที่ 117 คัน(เฉพาะเดือนพ.ค.อยู่ที่ 21 คัน)ปรับตัวลดลง 42.9% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 205 คัน

ส่วนเวทียุโรปอย่างค่ายพญากริฟฟินในฐานะเจ้าตลาดในไทย 7 ปีซ้อน (2560-66) ที่ล่าสุด 18 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ได้คิวเปิดตัวรถบรรทุก Super Euro5 เจ้าแรกของไทย ชูจุดเด่นรหัสเครื่องยนต์ใหม่ เพิ่มแรงบิด-แรงม้า ประหยัดน้ำมันถึง 8% ลดไอเสียได้สูงกว่ารถ Euro3 ถึง 5 เท่า โดยครึ่งปีแรกสแกนเนียสบายปีกโฉบยอดขายได้ 146 คัน(เฉพาะเดือนมิ.ย.50คัน)ปรับตัวลดลง 20.6% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้าที่ 184 คัน

ฟากค่าย“วอลโว่ทรัคส์”ค่ายคู่ต่อกรคนบ้านเดียวกันของสแกนเนีย ผลงานยอดขายหลังผ่านครึ่งปีแรก วอลโว่ ทรัคส์ ตุนได้ 59 คัน(เฉพาะเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 7 คัน)ปรับตัวลง 3.2% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้าที่ 61 คัน

ขณะที่ค่ายดาว 3 แฉกใต้ร่มเงาบริษัทแม่สายตรงจากเมืองเบียร์ ทว่า ด้วยสูตรผสมการบริหารจัดการอาจไม่กลมกลืนหรือไม่?รสสัมผัสในแบรนด์ระดับโลกแต่ไม่ถูกโฉลกรสนิยมคนไทย สะท้อนชัดจากยอดขายในรอบหลายปีดูไม่วิบวับสะดุดตา ปี 2567หลังผ่านครึ่งปีแรก ค่ายดาว 3 แฉกแหวกมาได้ 15 คัน หากแต่ปรับตัวสูงขึ้น 40% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้าที่  9 คัน

ขณะที่ค่ายพญาราชสีห์ MAN(เอ็ม เอ เอ็น)อีกหนึ่งแบรนด์ดังฝั่งเมืองเบียร์ หลังเป็นข่าวใหญ่ฮือฮาเขย่าวงการเมื่อช่วงกลางปี 66 กับการหวนคืนตลาดรถใหญ่(อีกครั้ง)ภายใต้ชายคาผู้นำเข้า-จัดจำหน่ายรายใหญ่ทุนหนาระดับท็อปของวงการ พร้อมประกาศทุ่มทุน 3 พันล้านตั้งโรงงานผลิตรถบัส MAN ในไทย พร้อมขยายศูนย์บริการ 12 แห่ง(ศูนย์ฯละ 50 ล้านบาท)ครอบคลุมทุกภาคของไทยภายในปี 2567

ทว่า จากวันนั้นถึงวันนี้ความเคลื่อนไหวก็ดูหายไปจากจอเรดาห์โลกข่าวสารเงียบกริบยังกะ“เป่าสากฝังครก” ส่วนผลงานยอดขายครึ่งปีแรกค่ายเจ้าป่าราชสีห์ตกอยู่ในภวังค์“เมาค้าง” เพราะไล่ตะบปมาได้(แค่) 8 คัน เป็นการเติบโตเสมอตัวกับปีที่แล้วเป๊ะๆ เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้าที่ 8 คัน

สงครามยังไม่จบ…อย่าเพิ่งนับศพทหาร ฉันใดก็ดี!

ต้องจับตาอีกครึ่งปีหลังว่าอีก 6 เดือนที่เหลือของปีนี้ ภาวะเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตื่นจากภาวะหลับไหลกระทบยอดขายครึ่งปีแรกที่“หืดจับ”เกือบทุกค่ายทุกสายพันธุ์ พลิกกลับมาช่วยปลุกกำลังซื้อส่งต่อลมหายใจพลางกระตุ้นชีพจรวงล้อตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ได้หายใจโล่งๆได้หรือไม่?อย่างไร?กับความท้าทายบริบทใหม่เครื่องยนต์ Euro 5 ที่ทุกค่ายตบเท้าทยอยเปิดตัวสู้ท้องตลาดในสูตรถนัดของตัวเอง

ดังฉะนั้น ค่ายไหนแรงบิดยังดีพลังม้ายังคึกเต็มสูบสับเกียร์ดันสู้ศึกได้เสถียรดีนักแลทั้งหลังถนน-ภูเขาลาดชัน?ค่ายไหนเหมือนจะหลับ…แต่ก็กลับมาได้?หรือค่ายไหน…ของีบหลับในปีนี้แต่ไม่รู้จะตื่นอีกทีปีไหน?

…ไม่นานเกินรออีก 6 เดือนรู้กัน!

:จิ้งเหลนไฟ