ไม่เกี่ยวเลย!การรถไฟฯออกโรงยันโครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ไม่ใช่สาเหตุน้ำท่วม ม.พะเยา

0
18

“รองผู้ว่าการรถไฟฯ”ออกโรงยันโครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ไม่ใช่สาเหตุน้ำท่วม ม.พะเยา ชี้เกิดจากฝนตกหนักหลายชั่วโมง ส่งผลให้มีมวลน้ำมหาศาลไหลบ่าท่วมพื้นที่ดังกล่าวเฉียบพลัน พร้อมสั่งจนท.เข้าลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือ-ดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด-ติดตามสถานการณ์ทุกระยะ

นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการรถไฟฯ รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าตามที่สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพและข้อความประเด็นเกี่ยวกับ สาเหตุน้ำท่วมหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา อาจมีสาเหตุร่วมจากการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ในพื้นที่จังหวัดพะเยา เพราะมีงานเปิดหน้าดินและถมดินคลองแม่กา ซึ่งเป็นคลองที่จะไหลผ่านหน้ามหาลัยพะเยานั้น ขณะนี้ตนได้ติดตามอย่างใกล้ชิด พบข้อเท็จจริงว่ามวลน้ำที่ไหลบ่าท่วมพื้นที่เกิดจากปริมาณฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องโดยมีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 105 มิลลิเมตรในที่แคบบนภูเขาและลาดชันสูง มีความเร็วกระแสน้ำสูง ไหลผ่านตามคลองแม่กาลงสู่พื้นราบ โดยตามแนวคลองมีถนนพหลโยธินขนานด้านซ้าย และมีแนวทางรถไฟขนานด้านขวา  เมื่อปริมาณน้ำหลากที่มาจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักมากและไหลเร็วเชี่ยว ไหลผ่านตามคลองมาถึงบริเวณใกล้เมือง  ซึ่งเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ และมีสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน

ทั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการก่อสร้างถนนลำเลียงถมคลองแม่ตามข่าว เพราะถนนลำเลียงไม่ได้ออกแบบเป็นฝายกั้นน้ำ มีการวางท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.20 เมตร จำนวน8ท่อ ซึ่งเพียงพอต่อการระบายน้ำในสภาวะปกติ  โดยก่อนวันเกิดเหตุก็ไม่มีน้ำขังด้านเหนือน้ำในลักษณะอ่างหรือฝ่ายเก็บน้ำแต่อย่างใค  แต่เนื่องจากมวลน้ำมีปริมาณมาก ไหลเชี่ยวแรง ทำให้ถนนลำเลียงถูกกัดเซาะจนขาดอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้บริเวณพื้นที่น้ำท่วมระบายน้ำไม่ทัน ทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน ซึ่งหากมองจากภาพถ่ายมุมสูง ตามภาพแนวเส้นสีเขียวเป็นแนวทางรถไฟที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเป็นทางตัดไม่ใช่เป็นการถมดินคันทาง และไม่ได้เป็นเส้นทางระบายน้ำหรือขวางทางน้ำแต่อย่างใด แนวเส้นสีฟ้าเป็นคลองแม่กา พื้นที่สีแดงเป็นบริเวณหอพักที่คลองแม่กาไหลผ่าน เมื่อมีปริมาณน้ำหลากไหลล้นคลองประกอบมีสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำไหลไม่สะดวกจึงเกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน

อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ได้ให้บริษัทผู้รับจ้าง เร่งเข้าดำเนินการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่โครงการ โดยได้นำถุงยังชีพไปมอบให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม รวมถึงนำเครื่องจักรไปช่วยขุดลอกคูคลอง และลอกท่อระบายน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำขัง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง

ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าการรถไฟฯ ในพื้นที่ต่าง ๆ ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด และให้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการเดินทางแก่ประชาชน ตลอดจนเตรียมความพร้อมช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างเต็มกำลัง