“ยูดี ทรัคส์”ปลื้มไต่ระดับโตแบ่งเค้กตลาดต่อเนื่องสวนทิศทางตลาด ชี้แบรนด์เข้าเนื้อกับตลาดแล้ว ลูกค้าเชื่อมั่นมากขึ้น มั่นใจปีนี้รักษาอัตราการเติบโตส่วนแบ่งตลาด 9-10% ใส่เกียร์ D ขยายเพิ่มศูนย์บริการฯอีก 4 แห่งรวมเป็น 28 แห่งในปีหน้า ลั่นไม่เกินปี 2029-30 ขยายครอบคลุมทั่วประเทศครบ 50 แห่ง ย้ำต้นปีหน้าเปิดตัววอลโว่ ทรัคส์ ยูโร 5 อย่างเป็นทางการ พร้อมจัดเต็มกิจกรรมโร้ดโชว์ทั่วประเทศ ชูระบบ SCR ประหยัดน้ำมัน คุ้มค่า ไม่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม
คุณวิลาวัลย์ วิศปาแพ้ว รองประธานกรรมการ ฝ่ายสนับสนุนการขาย บริษัท ยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดรถบรรทุกเมืองไทยในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเห็นทิศทางเริ่มชะลอตัวมาตั้งแต่ปี 25019 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด พอช่วงโควิดก็ปรับตัวลดลงกว่า 30% หลังจากนั้นมาช่วงปี 2021-2022 เป็นที่น่าแปลกว่าตลาดกลับไปได้ดีค่อยๆโต อีกหนึ่งปีถัดมาก็พบว่าตลาดกลับไปชะลอตัวเหมือนก่อนช่วงเกิดโควิด ครั้นถึงปีที่แล้วตลาดปรับตัวลดลง 13-15% และต่อเนื่องมาถึงปีนี้คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงประมาณ 30%
“จากสถานการณ์ดังกล่าวหลักๆแล้วเรามองเป็นเหตุมาจากปัจจัยภายนอกประเทศทั้งจากเศรษฐกิจระดับมหภาค ภาวะสงครามที่ยืดเยื้อ ราคาน้ำมันปรับตัวสูง ซึ่งอาจรวมถึงความไม่เสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนอาจชะลอการลงทุน รวมไปถึงนโยบายการลงทุนด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆก็ไม่ได้ถูกผลักดันอย่างเป็นรูปธรรมแม้จะมีการเลือกตั้งแล้วก็ตาม ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกสและภาคการก่อสร้างปรับตัวลดลง”
แบรนด์ยูดี ทรัคส์เข้าเนื้อกับตลาดแล้ว ลูกค้าเชื่อมั่นมากขึ้น
คุณวิลาวัลย์ ระบุต่อว่าแม้ตลาดโดยรวมจะปรับตัวลดลงก็ตาม แต่สำหรับยูดี ทรัคส์ในแง่ของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2019 เรามีส่วนแล่งตลาดอยู่ที่ 5 % และโตไต่ระดับขึ้นมาต่อเนื่องทุกปี จนถึงปัจจุบันยูดี ทรัคส์เรามีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 10 % ถือว่าเป็นเติบโตแบบก้าวกระโดด เป็นภาพสะท้อนถึงผลิตภัณฑ์เราเริ่มเข้าเนื้อกับตลาดแล้ว ในมุมของแบรนด์เชื่อมั่นมากขึ้น และคุณภาพลูกค้าใช้แล้วพึงพอใจ พร้อมด้วยการให้บริการที่ได้มาตรฐาน เหล่านี้เองช่วยเป็นปัจจัยบวกหนุนให้เรามีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
“คาดการณ์ว่าปีหน้าทุกค่ายในตลาดจะมีรถยูโร 5 เข้ามาเปิดขายอย่างเต็มตัว ซึ่งปีนี้หลังมาตรการมีผลบังคับใช้หลายๆค่ายอาจมีอุปสรรคอยู่บ้างกับการระบายสต๊อกยูโร 3 ซึ่งอาจจะส่งผลให้ยังไม่สามารถแข่งขันได้เต็มที่ เชื่อว่าปีหน้าหากทุกค่ายมียูโร 5 ขายในตลาดเต็มรูปแบบในราคาและต้นทุนใกล้เคียงกันหมด เรามั่นใจผลิตภัณฑ์ของเราจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าในแง่ต้นทุนภาคขนส่งแน่นอน”
มั่นใจปีนี้อัตราเติบโตส่วนแบ่งตลาด 9-10%
นอกจากนี้ คุณวิลาวัลย์ ยังเผยถึงกลยุทธ์และเป้าหมายการเติบโตในปีหน้าว่าเรามองว่าปีหน้าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์จะโตขึ้น ขณะที่เดียวกันภาคก่อสร้างก็จะได้โตด้วยเช่นกัน ซึ่งจะได้อานิสงส์จากงบประมาณภาครัฐกับการเร่งฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานต่างๆจากสถานการณ์น้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเราจะเจาะกลุ่มฐานลูกค้าเหล่านี้เป็นหลัก ถึงกระนั้นก็จะเปิดโปรดักส์ในเซกเมนต์ใหม่ๆเจาะกลุ่มลูกค้าขนส่งเครื่องจักรหนัก รวมกลุ่มงานเหมือง ซึ่งเรามั่นใจในความพร้อมของโปรดักส์ของเราสามารถตอบโจทย์งานเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
“ปีที่ผ่านมาจากยอดขายรวมยูดี ทรัคส์อยู่ที่ 1,400 คัน สะท้อนถึงการเติบโตสูงสุดเกินเป้าที่เราวางไว้ในรอบหลายปีที่ผ่านมากกว่า 40% และปีนี้เองเราคาดหวังไว้จะโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมปีนี้อาจไม่เอื้อต่อการเติบโตก็ตาม แต่เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถไปให้ถึงตามเป้าได้ ปีที่แล้วยูดี ทรัคส์เติบโตแบบก้าวกระโดด ทว่า ปีนี้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า เราไม่ได้ตั้งเป้าที่จะมียอดขายโตเหมือนปีที่แล้ว ซึ่งผลจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไม่เอื้อให้เรามียอดขายรวม(จำนวนคัน)อยู่ในจุดที่เราไปถึงเหมือนปีที่ผ่านมาแน่นอน แต่เราจะรักษาอัตราการเติบโตในแง่ส่วนแบ่งตลาดให้ได้ที่ 9-10%”
เลือกผลิตภัณฑ์-เทคโนโลยีดีที่สุด ตอบโจทย์ต้นทุนภาคขนส่ง
ในส่วนงานส่งเสริมด้านงานขายในปีหน้านั้น คุณวิลาวัลย์ ให้รายละเอียดว่าเวลานี้เราได้จัดกิจกรรมโร้ดโชว์ทั้งรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ และยูดี ทรัคส์ พร้อมออกแคมเปญฟรีเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง อีกทั้งยังแถมน้ำยา AdBlue 1,000 ลิตรเพื่อลดต้นทุนลูกค้า ซึ่งแคมเปญนี้จะใช้ต่อเนื่องไปจนปีหน้า นอกจากนี้ เรายังเน้นการบริการเพื่อลดต้นทุนให้กับลูกค้าด้านการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่เมื่อก่อน(ยูโร 3) 40,000 กม.พอมาเป็นยูโร 5 กับการที่เราเลือกใช้เทคโนโลยี SCR มาเป็นระบบบำบัดมลพิษไอเสีย ซึ่งมีข้อดีช่วยยืดระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยาวขึ้นถึง 60,000 กม.สะท้อนถึงผลิตภัณฑ์ของเราเน้นตอบโจทย์ต้นทุนภาคขนส่งให้ประหยัดเพิ่มมากขึ้น
“เมื่อมีการบริการที่ดี การได้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น การยืดระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยาวมากขึ้น และมีการหยุดรถน้อยลงก็ยิ่งไปเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจ จุดนี้เองทำให้เรามั่นใจว่าลูกค้าจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเราในที่สุด”
ปลื้ม!ส่งออกมีทิศทางสดใส ลุยเจาะตลาดกลุ่มแอฟริกามากขึ้น
ด้านการวางแผนขยายเพิ่มศูนย์บริการฯ คุณวิลาวัลย์ ระบุว่าเวลานี้เรามีทั่วประเทศทั้งหมด 24 แห่ง แต่ภายในปีหน้าเราจะขยายเพิ่มอีก 4 แห่งรวมเป็น 28 แห่ง และคาดว่าไม่เกินปี 2029-2030 เราจะวางแผนเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายด้วยการขยายศูนย์บริการฯครอบคลุมทั่วประเทศครบ 50 แห่ง เพื่อรองรับเติบโตและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้ามากขึ้น
“ส่วนการส่งออกรถบรรทุกยูดี ทรัคส์จากโรงงานผลิตในประเทศไทย ปีที่แล้วถือว่ามีอัตราการเติบโตในที่ดี ซึ่งเราส่งออกไปป้อนตลาดทั่วโลก 10 ประเทศด้วยกัน โดยตลาดที่เติบโตได้ดีคือตลาดในกลุ่มประเทศภูมิภาค Middle East เราส่งออกไปร่วม 2,000 คันด้วยกันในปีที่ผ่านมา และกลยุทธ์ของเรากำลังมองไปข้างหน้าด้วยการเจาะตลาดในกลุ่มประเทศแอฟริกามากขึ้น”
ปีหน้า 68 ทำตลาดเน้นยูโร 5 ต่อเนื่อง สร้างการรับรู้ให้กับลูกค้า
ด้านคุณนริศรา คุ้มไข่น้ำ รองประธานกรรมการ ฝ่ายการตลาด บริษัท ยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาดว่าปีหน้าเราจะยังตอกย้ำทำการตลาดโดยเน้นยูโร 5 อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเดินเครื่องกิจกรรมทางการตลาดที่หลากหลายเพื่อสร้างการรับรู้สู่ลูกค้าในผลิตภัณฑ์ทั้งแบรนด์วอลโว่ และยูดีอย่างแพร่หลาย ทั้งการจัดโร้ดโชว์ทุกภูมิภาคทั่วประเทศให้ลูกค้าได้รับรู้และเข้าถึงผลิตภัณฑ์อย่างใกล้ชิดและทั่วถึง
“อย่างเช่น 2 กิจกรรมการจัดการแข่งขันขับรถในรายการ Volvo Trucks Driver Challenge 2024 – 2025 โดยผู้ชนะจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมดวลฝีมือบนเวทีโลก ณ แผ่นดินบ้านเกิดวอลโว่ ทรัคส์ เมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดนช่วงกลางปีหน้า ขณะที่ผู้ชนะในรายการ The UD Extra Mile Challenge Thailand 2024 จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมชิงชัยรอบโกบอล ณ ประเทศญี่ปุ่นในเดือนตุลาที่จะถึงนี้ อีกทั้งภายในเดือนมกราคมปีหน้า เราจะทำการเปิดตัววอลโว่ ทรัคส์ ยูโร5 อย่างเป็นการและเดินเครื่องต่อด้วยกิจกรรมโร้ดโชว์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน”
คุณนริศรา ย้ำอีกว่าในอนาคตเร็วๆนี้เรายังวางแผนส่งเสริมกิจกรรมการตลาดผ่านโปรดักส์ใหม่ๆเน้นตอบโจทย์ต้นทุนภาคขนส่ง ที่เลือกและภูมิใจนำเสนอให้เป็นหนึ่งทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของเรา ส่วนกิจกรรมด้านเพื่อสังคม หรือ CSR ทางเราก็ทำมาโดยตลอด อย่างเช่นการสานต่อกิจกรรมฝึกอบรมปลูกฝังความปลอดภัยในการใช้ถนนร่วมกับรถบรรทุก ภายใต้ความร่วมมือกับศูนย์บริการฯต่างๆด้วยการนำรถบรรทุกไปยังโรงเรียนชุมชนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจให้กับให้เด็กๆในจำลองสถานการณ์จริงหากต้องเข้าใกล้ หรือต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ร่วมถนนกับรถบรรทุก เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ระบบ SCR ประหยัดน้ำมัน คุ้มค่า ไม่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม
ขณะที่คุณวีระพงศ์ ทองอยู่ ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรผลิตภัณฑ์ บริษัท ยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด สะท้อนมุมมองถึงข้อดีของระบบ SCR ที่มาพร้อมกับยูโร 5 ซึ่งทางยูดี ทรัคส์เลือกใช้ว่าระบบ SCR (Selective Catalytic Reduction) คือระบบบำบัดมลพิษไอเสีย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้แพร่หลายและยอมรับกันในหลายประเทศทั่วโลก SCR เป็นระบบบำบัดมลพิษไอเสียที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ โดยระบบ SCR ของ UD Trucks มีความโดดเด่นที่จะช่วยส่งเสริมให้อากาศสะอาดขึ้นและเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า
“ระบบ SCR ไม่ใช่การหมุนเวียนไอเสียกลับเพื่อเผาไหม้ใหม่เหมือนกับบางระบบ แต่ระบบ SCR จะฉีด AdBlue เข้าไปผสมกับมลพิษไอเสีย เพื่อเปลี่ยนไนโตรเจนออกไซด์ให้กลายเป็นไนโตรเจนที่ไม่เป็นอันตรายและไอน้ำช่วยส่งเสริมให้อากาศสะอาดขึ้นและเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า อีกทั้งยังช่วยบำบัดไอเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้เพียงน้ำยา AdBlue โดยไม่มีการบำรุงรักษาอุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มเติม มีส่วนช่วยทำให้อายุการใช้งานเครื่องยนต์ยาวนานขึ้นเนื่องจากการเผาไหม้ที่สะอาด (ไม่นำไอเสียกลับไปเผาไหม้ซ้ำ) ที่สำคัญยังช่วยยืดระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยาวขึ้นถึง 60,000 กม. (ในรุ่น 11ลิตร)”