“บขส. X ไปรษณีย์ไทย ส่งพัสดุถึงบ้านใน 1 วัน” เร็วที่สุดในประเทศ นำร่องให้บริการ 14 ศูนย์รับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ทั่วไทย พร้อมเปิดจุดบริการ EMS Point 10 แห่ง เพิ่มความสะดวกให้ประชาชน

นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อร่วมกันพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุนการทำงานร่วมกัน เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนฝากส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์
นายอรรถวิท รักจำรูญ เปิดเผยว่า บขส. ได้ดำเนินแผนพัฒนาธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการรับ – ส่งพัสดุภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และพัสดุถึงปลายทางอย่างปลอดภัย โดย บขส. และ ปณท. ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อร่วมกันพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุนในการทำงานร่วมกัน และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนในการฝากส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ทำให้เกิดโครงการ “บขส. X ไปรษณีย์ไทย ส่งพัสดุถึงบ้าน 1 วัน” ถือเป็นมิติใหม่ในการให้บริการขนส่งพัสดุภัณฑ์ที่รวดเร็วที่สุดในประเทศไทย โดย บขส. ได้นำร่องให้บริการ ณ ศูนย์รับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ 14 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์รับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ (จตุจักร) 2) เชียงราย 3) เชียงใหม่ 4) นครสวรรค์ 5) หนองคาย 6) นครพนม 7) มุกดาหาร 8 ) สกลนคร 9) นครราชสีมา 10) หาดใหญ่ 11) ภูเก็ต 12) เพชรบุรี 13) สุราษฎร์ธานี และ 14) ปัตตานี และจะขยายจุดให้บริการในพื้นที่อื่นต่อไป นอกจากนี้ บขส. ยังได้เปิดจุดบริการรับฝากพัสดุภัณฑ์ EMS Point 10 แห่ง ได้แก่ 1) สถานีเดินรถพิจิตร 2) สถานีเดินรถฉะเชิงเทรา 3) จุดจอดพัทยา 4) สถานีเดินรถอรัญประเทศ 5) จุดจอดสระแก้ว 6) จุดจอดปราจีนบุรี 7) จุดจอดนครนายก 8 ) สถานีเดินรถสุพรรณบุรี 9) สถานีเดินรถนครปฐม และ 10) จุดจอดราชบุรี ซึ่ง บขส. จะทำหน้าที่รับฝากรวบรวมพัสดุภัณฑ์ ส่วน ปณท. จะเป็นผู้รับมอบพัสดุและนำจ่ายให้กับลูกค้าต่อไป เป็นการต่อยอดศักยภาพในการให้บริการขนส่งรับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ให้ครอบคลุมพื้นที่ เชื่อมโยง ทุกภูมิภาคเข้าด้วยกันผ่านจุดศูนย์กลางสำคัญ เช่น สถานีขนส่งหมอชิต 2 เอกมัย และสายใต้ใหม่ ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์หลักของประเทศในการขนส่งผู้โดยสารและพัสดุในเส้นทางระยะไกล โดย บขส. จะทำหน้าที่เป็นโครงข่ายขนส่งระยะกลาง (Middle-Mile Transporter) เพื่อเชื่อมต่อพัสดุจากต้นทางของผู้ฝากในภูมิภาคต่าง ๆ เข้าสู่ระบบของ ปณท. อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐานเดียวกัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์รับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 โทร. 0 2537 8480
ด้าน ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กล่าวว่า ปณท. และ บขส. ได้ผสานความร่วมมือนำศักยภาพ ทั้งเครือข่ายที่ครอบคลุม ความชำนาญด้านเส้นทาง และยานพาหนะ ที่สามารถรองรับการขนส่งได้ทั่วประเทศมาพัฒนาบริการนำจ่ายสิ่งของถึงผู้รับปลายทางในประเทศแบบ Hub to Door เป็นการต่อยอดมาจากการดำเนินงานร่วมกันในรูปแบบ Hub to Hub โดยเป็นการนำพัสดุภัณฑ์ที่ฝากส่งและขนส่งโดย บขส. ไปสู่บริการนำจ่ายสิ่งของถึงผู้รับปลายทางโดยไปรษณีย์ไทยแบบ Hub to Door บริการนำจ่ายสิ่งของถึงผู้รับปลายทางในประเทศแบบ Hub to Door จะเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยสามารถเชื่อมต่อสินค้าและพัสดุจากสถานีขนส่งของ บขส. เข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์ และพร้อมนำส่งสิ่งของถึงมือผู้รับได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการพร้อมทั้งยกระดับเครือข่ายโลจิสติกส์ของภาครัฐ ให้มีความเชื่อมโยงต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ปณท. ยังเปิดจุดให้บริการเพื่อนพี่ไปรฯ EMS Point รับฝากสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ ณ สถานีเดินรถประจำจังหวัด/อำเภอของ บขส. 10 แห่ง ถือเป็นอีกก้าวของการบูรณาการระบบโลจิสติกส์ภาครัฐ ที่สร้างคุณค่าให้กับเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นรูปธรรม และตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศ ผ่านระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด