หนังคนละม้วน!

0
223

กลายเป็นเหนังคนละม้วนแล้วสำหรับการไล่บี้งานคมนาคม-รถไฟไทย-จีนล่าช้า หลัง “สมคิด” เปิดเวทีขอบคุณ “อาคม” ที่ทำงานโปร่งใสเป็นส่วนหนึ่งทำให้ IMD ปรับอันดับความน่าเชื่อถือของไทยดีขึ้นซะงั้น ขณะที่ “อาคม”เตรียมเสนอครม.ใช้ ม.44 แก้ปัญหารถไฟไทย-จีนหวังเดินหน้าโครงการให้ได้ภายในปีนี้

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงคมนาคม เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญๆ ของกระทรวงคมนาคมว่า การเดินทางมาที่กระทรวงคมนาคมในครั้งนี้เพื่อมาขอบคุณกระทรวงคมนาคมที่มีส่วนทำให้การจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศจาก World Competitiveness Center ของ International Institute for Management Development หรือ IMD สวิตเซอร์แลนด์ประจำปี 2560 ที่จัดอันดับของประเทศไทยดีขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยขยับอันดับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 27 จากปีก่อนที่อยู่อันดับ 28 และในปี 60 ยังมีอีกหลายโครงการสำคัญๆที่จะเปิดประมูลรวมถึงในปี 61ด้วย ถือเป็นโอกาสดีที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้น

“ส่วนความคืบหน้าการดำเนินโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC ซึ่งในส่วนรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพ-ระยอง รัฐบาลยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการนี้อย่างแน่นอน และมีนโยบายชัดเจนที่จะให้มีการเชื่อมโยงทั้ง 3 สนามบินเข้าด้วยกัน คือ สนามบินอู่ตะเภา สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง โดยล่าสุดทางการญี่ปุ่นได้แสดงความสนใจที่จะให้ขยายการเชื่อมต่อไปถึงอยุธยา เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีโรงงานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีโครงการศูนย์การพัฒนาขนส่งสินค้าทางรางที่ท่าเรือแหลมฉบังอีกด้วย”

ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่นั้น นายสมคิด ระบุว่ารถไฟทางคู่ทั้ง 5 เส้นทางวงเงิน 98,847 ล้านบาท ได้แก่ 1.เส้นทางรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 17,290.63 ล้านบาท 2.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม.วงเงิน 29,449.31 ล้านบาท 3.ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 24,722.28 ล้านบาท4.ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 20,046.41 ล้านบาท และ 5.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กม. วงเงินลงทุน 7,340 ล้านบาทนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทยอยเข้าสู่ขั้นตอนการประมูล คาดภายในเดือน ก.ค.-ส.ค.2560 นี้จะได้ผู้ชนะประมูล

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 13 มิ.ย. นี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอให้ ครม.อนุมัติให้ใช้ ม.44 ในการดำเนินการโครงการรถไฟไทย-จีน เพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้ และแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งยังมีแผนที่จะเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และรถไฟทางคู่เส้นทางบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม.วงเงิน 60,512 ล้านบาท และเส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 326 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 77,000 ล้านบาท เข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน มิ.ย.นี้อีกด้วย

“ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหินนั้น ขณะนี้กำลังเตรียมจัดทำการรับฟังความคิดเห็นและทำข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อส่งให้ทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาต่อไป สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง ที่จะเชื่อมต่อ 3 สนามบินนั้น อาจเริ่มในส่วนของเส้นทาง กรุงเทพฯ-ระยองก่อน และตามด้วยส่วนต่อขยายที่เชื่อมเข้าสนามบิน เพราะการจะทำส่วนต่อขยายนั้นต้องดูผลการศึกษาของเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยองก่อนว่าจะเชื่อมต่ออย่างไร”