ประมูลเอ็นจีวีส่อป่วนอีก หลังเบสท์รินดิ้นสุดตัวเข้าร่วมประมูล

0
181

นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึงโครงการจัดหารถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) 489 คัน วงเงิน 4,020 ล้านบาท ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า ตามที่ได้นำร่างทีโออาร์ขึ้นประกาศบนเว็บไซต์ของ ขสมก. ล่าสุดนั้น มีความไม่ชอบมาพากลอยู่หลายประเด็น โดยเฉพาะการส่งมอบรถล็อตแรก 20 คัน ภายใน 40 วันหลังลงนามกับบริษัทคู่สัญญา ซึ่งตามหลักวิศวกรรมไม่มีใครผลิตได้ทันแม้แต่โรงงานในจีนก็ยังทำไม่ได้ ยกเว้นมีรถมารอที่เมืองไทยอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีบริษัทแห่งหนึ่งได้นำรถเมล์เอ็นจีวีเข้ามารออยู่แล้ว 32 คัน จึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าจะมีการล็อกสเปคให้บริษัทแห่งนี้

ส่วนกรณีที่ ขสมก. กำหนดราคากลางการประมูลไว้ที่ 4,020 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่ราคาเดิมที่เบสท์รินเคยเสนอนั้น พบว่า ราคาที่เพิ่มขึ้นแทนที่จะเป็นราคารถแต่กลับเป็นค่าซ่อมบำรุงปีที่ 6-10 ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่ทั้งนี้มองได้ว่า เหตุที่ไม่สามารถเพิ่มราคารถนั้น เนื่องจากมีราคามาตรฐานอยู่แล้วจึงหันไปเพิ่มที่ค่าซ่อมบำรุงแทน อย่างไรก็ตาม การเปิดประมูลรถเมล์เอ็นจีวีรอบใหม่บริษัทยืนยันจะเข้าร่วมประมูลด้วย แต่จะเป็นรูปแบบไหนอยู่ระหว่างการพิจารณาหาก ขสมก. ตัดสิทธิ์เบสท์รินก็ยังมีบริษัทอื่นๆ ที่เป็นพันธมิตรเข้าร่วมได้ พร้อมยืนยันว่า เบสท์รินยังไม่ได้ถูกขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) เพราะผู้ที่มีสิทธิ์จะขึ้นแบล็กลิสต์ได้มีเพียงกรมบัญชีกลางเท่านั้น ซ่ึงในวันที่ 5 ต.ค.นี้ ทางกรมบัญชีกลางได้เชิญเบสท์รินไปชี้แจงในประเด็นที่ ขสมก. ได้ส่งหนังสือมายังกรมบัญชีกลาง เพื่อขอให้ขึ้นแบล็กลิสต์เบสท์รินว่ามีมุมมอง และมีข้อโต้แย้งเรื่องนี้อย่างไรบ้าง และฟังขึ้นหรือไม่ ก่อนที่กรมบัญชีกลางจะชี้ขาดว่าจะขึ้นแบล็กลิสต์เบสท์รินหรือไม่

ด้าน นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยถึงกรณีการขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ว่า ขสมก. ได้ส่งหนังสือไปยังกรมบัญชีกลางให้ดำเนินการขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ เบสท์ริน ตั้งแต่ 1 เดือนที่ผ่านมาแล้ว เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นผู้ทิ้งงาน ซึ่งตามกฎหมายใหม่กำหนดให้กรมบัญชีกลางเป็นผู้พิจารณาเรื่องการแบล็กลิสต์ ไม่ใช่หน้าที่ของ ขสมก. ส่วนกรณีที่เบสท์รินระบุว่าจะเข้าร่วมประมูลรอบใหม่อีกนั้น คงต้องหารือกับฝ่ายกฎหมาย ขสมก. ว่าจะดำเนินการอย่างไร