วันเสาร์, เมษายน 26, 2025

Colmunist

เรื่องเล่าจากคอลัมน์นิสต์

สมาร์ท ซิตี้” กับผังเมืองและอีอีซี

“...แปดริ้วแห่ขึ้นป้าย“เขตปลอดอีอีซี” ต้านเจ้าสัวไล่ฮุบที่สร้างเมืองใหม่ ....” ยังคงเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” กับเรื่องที่ชุมชนชาวโยธะกา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ออกโรงต่อต้านการรุกคืบเข้ามาของกลุ่มทุนเจ้าสัวกระเป๋าหนักทั้งหลาย โดยยืนยันจะไม่ยอมโยกย้ายหรือยินยอมให้หน่วยงานรัฐไหนเอาผืนนาอันอุดมสมบูรณ์ไปสร้างเมืองใหม่ Smart City รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี โดยเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ชาวนาหลายหมู่บ้านในตำบลโยธะกา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว เขตติดต่อหรือรอยต่อกับจังหวัดปราจีนบุรี ในนาม"กลุ่มโยทะการักษ์ถิ่น" กว่า 100 คน ได้รวมตัวกันอ่านคำประกาศยืนยันสิทธิ์อันชอบธรรมในฐานะผู้บุกเบิก แผ้วถาง...

หัวปิงปอง-หัวร้อน!

ยังคงเป็นประเด็นสุดฮอต เป็น “ทอล์ก ออฟเดอะทาวน์” สนั่นเมือง... กับเรื่องที่ กรมขนส่งทางบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปัดฝุ่นชงร่างแก้ไขและปรับปรุงกฎหมายขนส่งและกฎหมายรถยนต์ เพิ่มโทษผู้ขับขี่รถที่ไม่มีใบอนุญาต จากเดิมจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000  บาท เป็นจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท ทำเอาผู้คนในสังคมอุทานกันเสียงหลง ดาหน้าออกมาถล่มกันจมหู  ถึงขนาดที่อดีตผู้พิพากษาบางคนออกมาตีแสกหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจเปรียบเทียบปรับ ต้องรวบรวมหลักฐานส่งให้ศาลพิจารณาเท่านั้น...

หลุมพรางธุรกิจนอกรีด!

แม้รัฐบาลคสช.จะประกาศนโยบายปราบปรามมาเฟียเงินกู้นอกระบบอย่างถึงพริกถึงขิง โดยมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)แต่ละจังหวัดสนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ดำเนินการปราบปรามเครือข่ายนายทุนเงินกู้นอกระบบกันอย่างเข้มข้น กวาดจับบรรดาแก๊งนายทุนขูดรีดเอาเปรียบประชาชนระดับรากหญ้ากันไม่เว้นแต่ละวัน ขณะที่กระทรวงการคลังก็เตรียมรุกคืบตีทะเบียนผู้ให้บริการเงินกู้ทั้งหลายเหล่านี้  โดยเตรียมยกร่างกฎหมายจัดตั้งสำนักงานกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ทั้งหลายแหล่เพื่อปกป้องคุ้มครองประชาชนไม่ให้ถูกเอาเปรียบ เช่นเดียวกับคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ดีเดย์ออกประกาศให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์เป็นธุรกิจควบคุมสัญญาโดยขยายขอบเขตครอบคลุมไปถึงบรรดาธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเหล่านี้ด้วยไม่ให้มีช่องตีกรรเชียง เลี่ยงบาลีกันได้อีก   แต่ยุทธการปราบปรามเครือข่ายผู้มีอิทธิพลที่เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมายหนี้นอกระบบตลอดช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา ดูจะกวาดล้างได้แต่แก๊งเงินกู้ประเภท “ปลาซิวปลาสร้อย” เท่านั้น ขณะผู้ประกอบการเงินกู้รายใหญ่ที่ป่าวประกาศว่าให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียรถที่อ้างว่าถูกกฎหมายได้ใบอนุญาตจากทางการ แต่พฤติการณ์ปล่อยกู้แทบจะแยกแยะไม่ออกเลยว่า ต่างไปจากบรรดานายทุนเงินกู้นอกระบบที่รัฐกำลังกวาดล้างอยู่นี้อย่างไรนั้นยังคง “ลอยนวล”      ล่าสุดนี้เราจึงได้เห็นธุรกิจเหล่านี้ยุงคงตีปี๊บผุดแคมเปญปล่อยกู้ ให้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่ยังโขกดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมและบังคับลูกหนี้โอนหลักทรัพย์ค้ำประกันกันต่อไป...

ซุกปัญหาใต้พรม!

แม้จะเป็นข่าวเล็กๆที่สอดแทรกเข้ามาในช่วงที่ประชาชนคนไทยกำลังร่วมแสดงความยินดีปรีดากันถ้วนหน้ากับความสำเร็จของปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 เยาวชน “ทีมหมูป่าอคาเดมี” ที่ติดอยู่ใน “ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน” นานกว่า 17 วันที่ถือเป็น ปฏิบัติการสุดหินยิ่งกว่า  Mission Impossible  แต่เมื่อ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. ได้แถลงข่าวว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทาคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้รวบตัวชายหนุ่มวัย 31 ปีดีลเลอร์ขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ปลอมแปลงบัตรประชาชน “ลุงตู่- พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ ไปลงทะเบียนซิมโทรศัพท์ไปหลายต่อหลายครั้งในห้วงเดือน มีนาคม-พฤษภาคม 2561 ก่อนนำซิมไปขายให้ลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติแล้วก็ทำเอาทุกฝ่ายแตกตื่น... หลายคนอ่านแล้วก็ให้สมน้ำหน้าหนุ่มคิดสั้นรายนี้ที่เล่นกับใครไม่เล่น...

จากช่อดอกไม้ถึง…”ก้อนอิฐ”

ยังคงเป็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์!  กับการจัดประมูลคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์(MHz) ที่ “คณะกรรมการ กิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.)” คาดหวังเอาไว้ก่อนหน้า ยังไงเสียก็เชื่อว่าบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมก็ต้องเข้าร่วมประมูล เพราะคงไม่มีค่ายใดยอมเสียหน้าให้คู่แข่งปาดหน้าฮุบคลื่นความถี่ไปได้ก่อน แต่เอาเข้าจริงวันนี้กลับ “ไร้เงา” ผู้เข้าประมูลทั้ง 3 ค่ายมือถือต่างพร้อมใจกัน “เทคลื่น 1800 “อย่างไม่ใยดี ! ทำเอาผลงาน “ชิ้นโบว์แดง” ของกสทช.ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์จัดประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz...

ไหนว่าคืนความสุข!

มึนกันไปแปดตลบกันมหกรรมคืนความสุขถ่ายทอดศึกฟุตบอลโลก2018 14 มิถุนายน-15 กรกฎาคม 2561 ที่คอบอลทั้งประเทศเฝ้ารอกันมานานถึง 4 ปี    เพราะในขณะที่รัฐบาลพลเอกประยุทธิ์ จันทร์โอชา ตกปากรับคำประชาชนคนไทยอย่างดิบดีจะคืนความสุขให้ประชาชนคนไทยได้ดูมหกรรมฟุตบอลโลกครั้นี้กันอย่างฉ่ำปอดทั้ง 64 แมทช์ แต่ไม่รู้“บิ๊กป้อม”พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ”รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ที่ได้รับมอบหมายให้ไปดูแลเรื่องนี้ ไปสื่อสารกับ 9 ลูกเทพบริษัทเอกชนที่ร่วมลงขันกันอีท่าไหนไม่ทราบ เงินลงขันจากบริษัทเอกชนทั้ง 9 รายอาทิจากบริษัทไทยเบฟ ซี.พี.ธนาคารกสิกรไทย BTS คิงส์พาวเวอร์ กัลฟ์...

เรื่องพิลึกพิลั่นของฟุตบอลโลก 2018

  แม้จะเป็นผลงาน “ชิ้นโบว์แดง”ของรัฐบาลโดยเฉพาะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ที่ทำหน้าที่เป็น “มือประสานสิบทิศ”ดึง 9 ลูกเทพร่วมลงขันเซ็นสัญญาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งจะจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.-15 ก.ค. นี้ที่ประเทศรัสเซีย  ผลพวงความสำเร็จที่เกิดข้ึนจากการดึง 9 ลูกเทพเข้ามาร่วมลงขันกันในคร้ังนี้ มีใครอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังกันอย่างไรน้ัน ประชาชนคไทยคงไม่อินังขังขับอะไร แต่ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าประชาชนคนไทยจะสามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 จากรัสเซียได้ครบทั้ง 64 คู่ผ่านช่องทีวีดิจิทัล 3...

แผนฟื้น(เฟื่อง)ฟู รสก.!

เหลือบไปเห็นข่าวคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ในคราวประชุมกลางเดือนที่ผ่านมา “ตีกลับ” แผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แล้วก็ให้แปลกใจ!  โดยในส่วนของการบินไทยนั้น แม้จะมี “โหลดแฟคเตอร์” ที่ดีขึ้นแต่ คนร. เห็นว่ายังคงมีความจำเป็นต้องจัดทำแผนการเงินในระยะยาว ส่วนการรถไฟฯ และ ขสมก.ที่ชงขอปรับขึ้นค่าโดยสารมานั้น เห็นว่ายังไม่เหมาะสม ให้กลับไปปรับปรุงองคพายพภายในองค์กรให้เรียบร้อยก่อน ก็พอดีเหลือบไปเห็นนิตยสาร Logistics...

อุ้มแบงก์ควบรวม…ความเหมือนที่แตกต่างกับมือถือ!

เป็นไปตามคาด... หลังถูกนักวิชาการ “ทีดีอาร์ไอ” และเครือข่ายเอ็นจีโอดาหน้าถล่มความพยายามของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่จะออกม.44 ออกมาตรการเยียวยาให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลและมือถือพักชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามที่กสทช.เสนอ โดยระบุว่าเป็นการยกผลประโยชน์ของประเทศชาติไปให้เอกชนบ้าง เป็นการทุจริตเชิงนโยบายไม่สอดรับกับการปฏิรูปบ้าง บริษัทมือถือมีกำรี้กำไรจะไปอุ้่มสมกันทำไม จนทำให้หัวหน้าคสช.ต้องถอยกรูด ท้ายที่สุดที่ประชุมคสช.ต้องยอมถอยกรูดทำคลอดได้แต่มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลเท่านั้น ส่วนผู้ประกอบการมือถือนั้นยังต้อง “หาวเรอ” รอกันไปก่อน  ก็ให้น่าแปลก ขณะที่รัฐบาลและนักวิชาการแสดงความกังวลต่อการที่จะงัดม.44 ช่วยเหลือผู้ประกอบการมือถือ ด้วยข้ออ้างที่ว่า ผู้ประกอบการมือถือยังคงสามารถประกอบการมีกำรี้กำไรและยังคงอยู่ในสถานะที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมประมูลคลื่นความถี่ได้ จึงไม่มีเหตุผลที่รัฐจะงัดมาตรการอุ้มสมเอกชน   แต่วันวานคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 17 เมษายน 61 กลับไฟเขียวอนุมัติมาตรการสนับสนุนการควบรวมกิจการธนาคารพาณิชย์ โดยให้ยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียมสารพัดเพื่อสนับสนุนการควบรวมแบงก์หรือโอนกิจการระหว่างกันตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  ประกอบด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้ให้ผู้ถือหุ้น...

นายกฯ ต้องใช้ ม.44

จากข่าวสารและรายงานของสื่อต่างๆ ที่ร่วมกันสะท้อนความเดือดร้อนของประชาชนในระดับรากหญ้าที่ถูกบรรดากลุ่มธุรกิจปล่อยเงินกู้ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) จำนำทะเบียนรถ รวมไปถึงลิสซิ่งเช่าซื้อทั้งหลายร่วมกันเอารัดเอาเปรียบขูดดอกเบี้ยสุดโหด บ้างถูกจับทำสัญญาเงินกู้ ขูดดอกเบี้ยแพงลิ่ว ไม่พอยังบังคับเอาหลักประกันจากลูกหนี้ หวังตามไปยึดทรัพย์ขายทอดตลาดฟันกำไรอีกต่อ หากลูกหนี้ผิดนัดไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามสัญญา บางรายงัดลูกเล่นหลอกล่อลูกหนี้ให้เข้ามาติดกับประเภทจำนำทะเบียนระยะสั้น 3-4 เดือน คิดดอกเบี้ยจิ๊บๆ ไม่กี่ร้อยบาท แต่ลองคำนวณดอกเบี้ยจริงแล้วแทบผงะ! ปาเข้าไป 40-50% ก็มี ขณะที่บางรายที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถ จำนำทะเบียนกันเป็นแสนล้านบาทนั้น ก็หลอกล่อให้ผู้คนเข้าใจไขว้เขวว่า นี่เป็นการให้บริการปกติของธนาคาร ทั้งที่จริงแล้วเป็นเพียงบริษัทลูกของธนาคารที่เป็น “นอนแบงก์”เท่านั้น ผู้ประกอบการบางรายนั้นสามารถปั้นธุรกิจจนเติบใหญ่มีพอร์ตสินเชื่อหลายหมื่นล้าบาทจนสามารถนำกิจการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มี “มาร์เก็ตแค็ป”...