จุดพลุฉลอง!ยูดี เควสเตอร์ ทะลุ1.5 หมื่นคัน กับคำมั่นสัญญา“ไปได้ไกลกว่า”

0
656

หลังยูดี ทรัคส์ ในกลุ่มวอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) ได้สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการสิบล้อเมืองไทยด้วยการเลือกกรุงเทพฯเปิดตัวรถบรรทุก “ยูดี เควสเตอร์”เป็นครั้งแรกในไทยและครั้งแรกในโลกท่ามกลางสายตาสื่อมวลมวลชนจากทั่วทุกมุมโลกไปเมื่อวันที่ 26 ส.ค.2556 พร้อมปักหมุดโรงงานในไทยเป็นฐานการผลิตยูดี เควสเตอร์ ส่งออกไปขายทั่วโลก ซึ่งโรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานผลิตรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ แห่งแรกนอกแผ่นดินมาตุภูมิอย่างประเทศญี่ปุ่น

ล่าสุด (10 ก.ย.2561)ยูดี ทรัคส์ ก็ได้เฮลั่นสนั่นโรงงานผลิตรถบรรทุกยูดี ทรัคส์อีกครั้งหลังยอดการผลิต ยูดี เควสเตอร์ พุ่งทะยานครบ 15,000 คัน พร้อมจุดพลุฉลองความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ไฟกระพริบด้วยคำมั่นสัญญา “ไปได้ไกลกว่า” (Going the Extra Mile) ที่ชาวยูดี ทรัคส์ได้ชูเชิดนำทางสู่การพัฒนายูดีเควสเตอร์เพื่องานขนส่ง และยกระดับในทุกมิติการบริการแก่ลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง

ดัมพ์แมนโชว์ มีโอกาสได้ร่วมเป็นสักขีพยานกับการจุดพลุฉลองความสำเร็จครั้งนี้ พร้อมได้สรุปบทสัมภาษณ์จาก 2 ผู้บริหารระดับสูง ที่มีส่วนสำคัญกับ 2 ห้วงเวลาแห่งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของรถบรรทุกยูดีเควสเตอร์ที่กว่าจะมีวันนี้ได้ ซึ่งได้เปิดโรงงานผลิตรถบรรทุกยูดีทรัคส์ให้สื่อมวลชนได้เยี่ยมชมและร่วมเป็นสักขีพยานในโอกาสครั้งสำคัญนี้

ปักหมุดรองรับการเติบโตภาคขนส่งในภูมิภาคอาเซียน 

ท่านแรกคงเป็นใครไม่ได้นอกจากมร. ฌาคส์ มิเชล ผู้บริหารระดับสูงที่มีส่วนสำคัญกับห้วงเวลาแห่งความสำเร็จในการเปิดตัวรถบรรทุก “ยูดี เควสเตอร์”เป็นครั้งแรกในประเทศไทยและครั้งแรกในโลก และประกาศวางประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเควสเตอร์ส่งไปขายทั่วโลกกับบทบาทผู้กุมบังเหียนวอลโว่กรุ๊ป(ประเทศไทย)ในเวลานั้น ที่แม้วันนี้จะหวนกลับประเทศไทยอีกครั้งเพื่อร่วมเป็นสักขีพยานและฉลองในโอกาสยอดการผลิตยูดีเควสเตอร์ครบ 15,000 คันกับบทบาทหน้าที่ประธาน Volvo Group Trucks Asia & JVs Sales

โดยมร.ฌาคส์ เปิดเผยว่าเควสเตอร์เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2556 ซึ่งประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตของยูดี ทรัคส์ เพื่อส่งออกไปยังทั่วโลก ยูดี  เควสเตอร์ ถือเป็นรถบรรทุกรุ่นใหม่ของยูดี ทรัคส์ ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเจาะตลาดงานขนส่งที่ใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ด้วยการผสมผสานของค่านิยมหลักของ ยูดี ทรัคส์ คือความไว้วางใจได้สูงสุดและจิตวิญญาณแห่งเกมบะ เควสเตอร์จึงเป็นที่ยอมรับจากตลาดโลก

“หลังการเปิดเออีซีคาดคาดการณ์ว่าปริมาณการค้าของกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีการเติบโตสูงถึง 130% ในปีพ.ศ. 2566 ซึ่งนั่นจะเป็นแรงส่งให้การขนส่งข้ามพรมแดนเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้น วอลโว่ กรุ๊ป จึงได้ลงทุนมากถึง 2,000 ล้านบาทในการขยายกำลังการผลิตในโรงงานประกอบรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ เป็น 20,000 คันต่อปีในประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถบรรทุก ยูดี ทรัคส์ ส่งออกไปขายยังอีก 50 ประเทศทั่วโลก และโรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานผลิตและประกอบรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ แห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้ มร.ฌาค์ส ระบุอีกว่าถึงวันนี้การผลิตรถบรรทุกยูดี เควสเตอร์อย่างต่อเนื่องจนถึงคันที่ 15,000 คัน ถือเป็นไปตามวิสัยทัศน์เพื่อรองรับตลาดที่กำลังเติบโตทางเศรษฐกิจและมีการแข่งขันสูง อาทิ ประเทศไทยและตลาดส่งออกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสะท้อนชัดว่ายูดี เควสเตอร์เป็นที่ยอมรับของตลาดทั่วโลก

“ที่ยูดี ทรัคส์ มีสิ่งสำคัญที่พนักงานทุกคนต้องยึดมั่นนั่นก็คือจิตวิญญาณแห่งเกมบะ (Gemba Spirit)หมายถึงการเข้าถึงและใกล้ชิดกับพื้นที่นั้นๆพร้อมกับรับฟังความต้องการของลูกค้าในและตลาดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันไป เพื่อเป็นเสมือนพันธมิตรทางธุรกิจของพวกเขา

 

คุณภาพสูงแบบญี่ปุ่นผสานนวัตกรรมชั้นนำจากวอลโว่ กรุ๊ป

ส่วนคุณภาพและมาตรฐานกระบวนการผลิตรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ นั้น มร.ฌาคส์ ให้ความกระจ่างว่ารถบรรทุกยูดี ทรัคส์ถูกออกแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในทุกมิติการใช้งานของลูกค้า เควสเตอร์ถูกทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อให้ได้รถบรรทุกที่ตอบโจทย์ลูกค้าในด้านธุรกิจและความทนทานต่อการใช้งาน ความไว้วางใจได้ในตัวผลิตภัณฑ์และการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง

“การผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีชั้นนำจากวอลโว่ กรุ๊ป และกระบวนการผลิตอย่างประณีตที่มีคุณภาพสูงอย่างชาวญี่ปุ่น ทำให้เครื่องยนต์ของยูดี เควสเตอร์ GH8E และ GH11E สามารถสร้างความเชื่อมั่นในด้านประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงและให้พละกำลังเต็มประสิทธิภาพ และยังมีระบบการแนะนำการขับขี่ประหยัดน้ำมันแบบเรียลไทม์ (The built-in Fuel Coaching system) ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ทันทีระหว่างการเดินทาง เพื่อช่วยปรับพฤติกรรมการขับขี่แก่พนักงานขับรถและลดต้นทุนในด้านพลังงานเชื้อเพลิง”

อย่างไรก็ดี มร.ฌาคส์ ยังได้ไขความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีจของรถบรรทุกยูดี เควสเตอร์ ทุกคันว่า สามารถเชื่อมต่อระบบยูดี เทเลเมติกส์ (UD Telematics Services)กับศูนย์บริการยูดี ทรัคส์ เพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์ปัญหาป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ด้วยระบบการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ พร้อมให้คำแนะนำที่อยู่บนพื้นฐานของพฤติกรรมการขับขี่และการใช้พลังงานเชื้อเพลิงของพนักงานขับรถแต่ละคน จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่ารถทุกคันจะอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและที่สำคัญคือการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

 

UD> Ultimate Dependability =ความไว้วางใจสูงสุด

ถึงกระนั้น มร.ฌาคส์ ยังได้ย้อนรอยความเป็นมาของแบรนด์ UD ที่กว่าจะมีวันนี้ว่ายูดี เควสเตอร์ ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดที่เป็นพื้นฐานสำคัญของยูดี ทรัคส์ คือความไว้วางใจสูงสุด หรือ “Ultimate Dependability” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ UD และเพื่อความมั่นใจอย่างสูงสุด ยูดี ทรัคส์ ได้ลดช่วงเวลาการจอดซ่อมบำรุงด้วย งานบริการ ยูดี เอ็กซ์ตร้าไมล์ ซัพพอร์ท (UD Extra Mile Support)ผ่านเครือข่ายศูนย์บริการกระจายทั่วประเทศพร้อมด้วยทีมบริการที่ประกอบด้วยช่างผู้ชำนาญการผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีเพื่อให้การให้บริการหลังการขายอย่างมาตรฐานด้วยอะไหล่แท้ พร้อมทั้งช่วยลูกค้าในเรื่องการวางแผนงานบริการและการฝึกอบรมหลังส่งมอบรถ ทั้งหมดเพื่อช่วยให้ฟลีทรถของลูกค้าสร้างประสิทธิผลสูงสุด

“ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของยูดี ทรัคส์ ที่จะลดต้นทุนการดำเนินงานระยะยาวให้แก่ลูกค้าที่ถือเป็นพันธมิตรคนสำคัญในการผลักดันธุรกิจลูกค้าให้สามารถประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าที่มีฟลีทรถบรรทุกประจำการอยู่ในภูมิภาคเอเชียให้สามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนน้ำมันที่คิดเป็น 50% ของต้นทุนทั้งหมด”

ยูดี ทรัคส์กับการเติบโตที่แข็งแกร่ง 

ฟากคุณกำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานยูดี ทรัคส์ ประเทศไทย ถือเป็นผู้บริหารคนไทยคนแรกที่ขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารสูงสุดกับตำแหน่งประธาน วอลโว่ กรุ๊ป(ประเทศไทย)ที่รับไม้ต่อจากมร.ฌาคส์  และได้แตะคันเร่งขับเคลื่อนแบรนด์ยูดี ทรัคส์ เข้าสู่สมรภูมิตลาดรถบรรทุกเมืองไทยเต็มสูบ พร้อมพุ่งชนห้วงเวลาแห่งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่กับยอดการผลิตยูดี เควสเตอร์ทะลุ 15,000 คันในวันนี้

โดยคุณกำลาภ  กล่าวว่ายูดี เควสเตอร์ พร้อมด้วยรถบรรทุกทุกรุ่นในค่ายยูดี ทรัคส์ มีที่มาจากสุดยอด 3 สิ่งของโลกได้แก่ สุดยอดงานฝีมือตามแบบอย่างมรดกจากชาวญี่ปุ่น ความล้ำหน้าทางด้านเทคโนโลยีของวอลโว่ กรุ๊ป และความชำนาญการในท้องที่ไม่ว่าจะเป็นการผลิต และการสนับสนุนลูกค้า

“ที่เรามีวันนี้ได้ก็เพราะได้รับแรงสนับสนุนอย่างดีจากลูกค้าที่เชื่อมั่นในรถบรรทุกและบริการของเรา ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เราไม่หยุดพัฒนาเพื่อสร้างรถบรรทุกและงานบริการที่ดีที่สุดที่โลก ถือเป็นสิ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของตลาดประเทศไทยต่อวอลโว่ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเรา เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสานต่อความสำเร็จนี้ต่อไปในอนาคตและเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก”

อย่างไรก็ดี คุณกำลาภ  ปิดท้ายด้วยยอดขายรวมรถบรรทุกยูดีทรัคส์ว่าหลังผ่านไป 7 เดือนแรกอยู่ที่ 480 คันหากเปรียบเทียบกับปีที่แล้วในเวลาเดียวกันที่ 410 คัน ถือว่าเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยภาพรวมตลาดรถบรรทุกขนาดใหญ่เมืองไทยถึงเวลานี้อยู่ที่ 14,400 คันเติบโตขึ้น 11 % หากเทียบเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อันเป็นผลมาจากปัจจัยหนุนทั้งจากการส่งออก สินค้าการเกษตร และการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์จากภาครัฐที่เป็นรูปธรรมในหลายโครงการ

“หากทุกเครื่องยนต์เศรษฐกิจเติบโตและขยายตัวได้ดีจนถึงสิ้นปีนี้ เชื่อว่าปีนี้ก็น่าจะเป็นแรงหนุนให้ตลาดรถบรรทุกขนาดใหญ่บ้านเราได้รับอานิสงส์การเติบโตไปด้วยเช่นกัน”  

การฉีกยิ้มเต็มใบหน้ากับห้วงเวลาอันปลื้มปริ่มนี้ สะท้อนถึงออร่าแห่งความสำเร็จครั้งสำคัญของยูดี เควสเตอร์ จากค่ายยูดี ทรัคส์ ได้เป็นอย่างดี

แต่ทว่า หลังสิ้นเสียงพลุฉลองโมเม้นต์ครั้งยิ่งใหญ่นี้ไปแล้ว วงล้อการผลิตยูดี เควสเตอร์คันที่ 15,000 +++ จะหมุนดีต่อเนื่องพุ่งชนเป้าหมาย “ไปได้ไกลกว่า” (Going the Extra Mile) ตามคำมั่นสัญญาที่ชาวยูดี ทรัคส์ ชูธงเอาไว้ได้หรือไม่?

กาลเวลา…จะเป็นเครื่องพิสูจน์!