ขนส่งฯเตรียมจัดประมูลหมายเลขทะเบียนรถลักษณะพิเศษครั้งแรก 7 เม.ย. นี้

0
67

ขนส่งฯเตรียมจัดประมูลหมายเลขทะเบียนรถลักษณะพิเศษครั้งแรก 7 เม.ย. นี้ ประมูลพร้อมกันทั้งทางวาจาและอินเทอร์เน็ต เชิญชวนผู้สนใจลงทะเบียนและเสนอราคาล่วงหน้าที่สำนักงานกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน หรือ www.tabienrod.com ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดขนาด ลักษณะ และสีของแผ่นป้ายทะเบียนรถ และการแสดงแผ่นป้ายทะเบียนรถและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี ให้สามารถใช้ตัวอักษรผสมสระหรือวรรณยุกต์ รวมกับหมายเลขทะเบียน ซึ่งเป็นที่ต้องการหรือเป็นที่นิยมในป้ายทะเบียนรถได้ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 กระทรวงคมนาคม ภายใต้การนำของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้กรมการขนส่งทางบก โดยกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) จัดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งมีตัวอย่างในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง สิงคโปร์ เพื่อนำเงินรายได้จากการประมูลไปใช้ในกิจกรรมเสริมสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน รวมทั้งสนับสนุนเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการที่ประสบภัยจากการใช้รถใช้ถนน โดยขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมการประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน ซึ่งจะจัดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 7 เมษายน 2565 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ ในหมวดอักษร ได้แก่ รวย 9999, เฮง 8, สวย 8888, ธรรม 8, ชนะ 9 เป็นต้น ซึ่งสามารถเสนอราคาประมูลได้ 2 ช่องทาง ทั้งทางระบบอินเทอร์เน็ต โดยเสนอราคาล่วงหน้า แบบเรียลไทม์ หรือจะกำหนดราคาขั้นสูง Maximum Bid ที่ www.tabienrod.com และประมูลทางวาจาด้วยตนเอง ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป

 ผู้สนใจสามารถติดตามบรรยากาศการประมูลได้ทางเพจ facebook กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนสำหรับหมายเลขที่นำมาประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ แบ่งกลุ่มหมายเลขเป็น 4 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มมีราคาเริ่มต้นการประมูลที่แตกต่างจากการประมูลหมายเลขทะเบียนรถเลขสวยในหมวดอักษรปกติ ได้แก่ SUPERPREMIUM เลข 8 และ 9 สี่ตัวเหมือน (8888, 9999) มีราคาเริ่มต้นการประมูล 1,500,000 บาท, PREMIUM  สี่ตัวเหมือน (1111 2222 3333 4444 5555 6666 7777) ราคาเริ่มต้น 1,000,000 บาท, GOLD เลขตัวเดียว (1-9) เลขสองตัวเหมือน (11-99), สามตัวเหมือน (111-999), เลขคู่ 8, คู่ 9 (8899 9988 8998 8989 9898 9889) เช่น ชนะ 9 ราคาเริ่มต้น 800,000 บาท และ SILVER เลขหลักพัน (1000-9000), เลขเรียง (123-789,1234-6789), เลขคู่ (1122, 3434, 5665) ราคาเริ่มต้น 500,000 บาท ซึ่งผู้ร่วมประมูลจะได้ครอบครองป้ายทะเบียนรถลักษณะพิเศษที่ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แผ่นป้ายแตกต่างจากป้ายทะเบียนปกติ ตัวแผ่นป้ายไม่มีรอยดุลและไม่มีขอบ ภาพพื้นหลังมีลวดลายกราฟิก ซึ่งผู้ประมูลได้สามารถโอนเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นหรือโอนเป็นมรดกได้ และนำไปใช้กับรถที่จดทะเบียนแล้วได้เช่นเดียวกัน จึงคาดว่าการประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษในครั้งแรกนี้ จะมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมการประมูล และสามารถนำรายได้เข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในกิจกรรมเสริมสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประเทศได้มากยิ่งขึ้น

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ โดยสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่สำนักงานกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน อาคาร 2 ชั้น 5 กรมการขนส่งทางบก ในวันและเวลาราชการ หรือลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ www.tabienrod.com พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบด้วย ใบลงทะเบียน บัตรประจำตัวประชาชน ในกรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หลักฐานการชำระเงิน และหน้าบัญชีธนาคาร โดยมีขั้นตอนการประมูล ดังนี้ 1. ลงทะเบียนตามหมายเลขที่ต้องการประมูล 2. ชำระค่าหลักประกันการประมูลผ่านธนาคารหรือชำระเป็นเงินสดตามอัตราที่กำหนด 3. เสนอราคาตามคำหรือข้อความและเลขทะเบียนที่สนใจ ทางวาจาในวันปิดประมูล ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) และทางอินเทอร์เน็ตที่ www.tabienrod.com ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันปิดประมูล

“โดยเมื่อเสร็จสิ้นการประมูลแล้วผู้ชนะการประมูลจะต้องชำระค่าหมายเลขทะเบียนที่ประมูลได้ให้ครบถ้วนภายใน 30 วัน สามารถติดตามรายละเอียดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษเพิ่มเติมได้ทาง www.tabienrod.com หรือสำนักงานกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โทร. 0-2272-5937 หรือสายด่วนกรมการขนส่งทางบก โทร.1584 หรือ 0-2271-8888” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด