ขนส่งฯติดตามสถานการณ์ 24ชม.หลังรถตู้ครบ10 ปีหยุดวิ่ง

0
96

ขนส่งฯ ติดตาม-ประเมินสถานการณ์ 24 ชม.หลังรถตู้อายุครบ 10 ปีหยุดวิ่ง ยัำเสริมรถโดยสารจากทุกเส้นทางเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนอย่างเพียงพอ แนะผู้ประกอบการต้องการเปลี่ยนรถใหม่ทดแทนคันเดิม สอบถามข้อมูลที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จรถตู้โดยสารประจำทางของกรมฯ

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อให้การติดตามและแก้ไขปัญหาการเดินรถตู้โดยสารประจำทางที่จะครบกำหนดอายุ 10 ปี ไม่ให้ส่งผลกระทบแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะใน 20 เส้นทาง ที่มีจำนวนรถตู้หมดอายุการใช้งานแล้ว จำนวน 487 คัน ในเบื้องต้นกรมการขนส่งทางบกได้ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถตู้โดยสารที่ให้บริการในเส้นทางอื่นนอกเหนือจาก 20 เส้นทางดังกล่าวมาเสริมในเส้นทางที่มีรถตู้ไม่เพียงพอตามสัดส่วน พร้อมทั้งจัดรถโดยสารปรับอากาศจำนวน 65 คัน เพื่อสำรองให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารทั้ง 4 จุดทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, มีนบุรี ,รังสิต และจตุจักร ตั้งแต่เวลา 05.30 น. ของวันที่ 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป กรมการขนส่งทางบก จึงได้จัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแก้ปัญหาและการสำรองรถไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน พร้อมประเมินสถานการณ์การเดินรถเพียงพออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้มีรถตู้โดยสารให้บริการเพียงพอและไม่มีผู้โดยสารตกค้าง อีกทั้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจการขนส่งทางบกติดตามสถานการณ์บริเวณจุดจอดรอขึ้นรถตู้โดยสาร และที่ศูนย์ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การเดินรถมีเพียงพอกับจำนวนผู้โดยสาร

นายพีระพล ฯ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้การกำหนดอายุรถตู้โดยสารห้ามเกิน 10 ปี ดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ครั้งที่ 8 /2551 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2551 ซึ่งมีผลใช้บังคับตามกฎหมาย ให้ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและรักษามาตรฐานคุณภาพการให้บริการ เนื่องจากด้านสภาพรถที่เก่าเครื่องอุปกรณ์ใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานมีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุได้บ่อยครั้ง และมีค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่ารถใหม่ทำให้เกิดความไม่คุ้มทุน และรถที่มีอายุเกิน 10 ปี บริษัทประกันภัยจะไม่รับจัดทำประกันภัยให้ซึ่งจะสร้างปัญหาให้กับเจ้าของรถ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ และผู้โดยสารไม่ได้รับความคุ้มครอง นอกจากนี้ รถที่มีอายุการใช้งานมากจะก่อให้เกิดปัญหาด้านมลพิษทางอากาศและเมื่อรถเสียทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดมากขึ้น ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ รวมถึงมีมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสมเพื่อจูงใจและลดผลกระทบของผู้ประกอบการ อาทิ การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บขส., ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ภายใต้โครงการ “เปลี่ยนรถโดยสารประจำทางขนาดเล็กแทนรถตู้โดยสาร” และได้จัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จรถตู้โดยสารประจำทาง ณ บริเวณอาคาร 3 ชั้น 1 อำนวยความสะดวกให้คำปรึกษาแนะนำกรณีรถตู้โดยสารประจำทางจะครบกำหนดอายุ 10 ปี และขั้นตอนการ จดทะเบียนรถแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One stop service) เพื่อช่วยเหลือเจ้าของรถในกรณีที่มีความประสงค์ที่จะทำการเปลี่ยนรถทดแทนรถคันเดิมที่หมดอายุให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว นายพีระพลฯ กล่าวทิ้งท้าย