ประกาศผลและมอบรางวัลไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ ELMA 2019 รางวัลเกียรติยศสู่ความเป็นเลิศด้านโลจิสติกส์ ที่จัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งปีนี้เป็นที่ 13 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและยกระดับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยให้ขับเคลื่อนองค์กรก้าวสู่ความเป็นเลิศได้อย่างยั่งยืน และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
โดยปีนี้ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล 3 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท เจพีเค โคลด์ สโตเรจ จำกัด ในสาขาผู้ให้บริการคลังสินค้า(Warehousing Services) 2.บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ในสาขาผู้ให้บริการตัวแทนในการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (International Freight Forwarding Services) และ 3.บริษัท ไทยสมเด็จ เซอร์วิส จำกัด ในสาขาตัวแทนออกของ (Customs Brokerage Services)
Logistics Time มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษคุณจิตชัย นิมิตรปัญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก. เจพีเค โคลด์ สโตเรจ 1 ใน 3 ผู้ประกอบการที่ผงาดคว้ารางวัล ELMA 2019 ไปครอง ถึงภาพรวมของเจพีเคโคลด์ สโตเรจ รวมถึงมุมมองต่อความสำคัญและการต่อยอดจากรางวัล ELMA
CEO เจพีเค โคลด์ สโตเรจ ได้ฉายให้เห็นถึงภาพรวมของเจพีเค โคลด์ สโตเรจว่าเจพีเคฯเป็นบริษัทในเครือ JWD Group ผู้นำด้านการให้บริการด้านโลจิสติกส์ และซัพพลายเชนครบวงจร โดยเจพีเคฯเป็นผู้ให้บริการคลังสินค้าห้องเย็น ควบคุมอุณหภูมิ แช่เย็น และแช่แข็ง คลังสินค้าเขตปลอดอากรมากว่า 6 ปี
“บริษัทฯมุ่งเน้นการจัดการระบบโดยรวมภายใต้ระบบบริหารคลังสินค้า Cold Chain Management System (CCMS) ให้บริการหลายรูปแบบที่ครอบคลุมบริการห้องเย็นรับฝาก และการแช่แข็งสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน ภายใต้วิสัยทัศน์การบริการลูกค้าที่เราคิดเสมอว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้สินค้าคงคุณภาพความสดได้นานที่สุด”
คุณจิตชัย กล่าวอีกว่าสิ่งแรกๆที่เราคิดถึงในการให้บริการคลังสินค้าห้องเย็นสำหรับอาหาร คือ ความรวดเร็ว ความแม่นยำ และอุณหภูมิที่เหมาะสมในการรับ เก็บและจ่ายสินค้า ที่ต้องรักษาไว้ซึ่งความสดใหม่อย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรฐานและเงื่อนไขที่เข้มงวดของ FDA, GMP กรมปศุสัตว์และกรมประมงในกลุ่มสินค้าอาหารโดยเฉพาะ
“เจพีเคฯ เป็นที่เดียวที่สามารถรองรับการจัดเก็บได้มากที่สุดกว่า 100,000 ตัน เราจึงเลือกทำเลที่ดีที่สุดให้คลังสินค้าตั้งอยู่บนเส้นทางหลักที่อยู่ไม่ไกลจากแหล่งเรือประมง โรงงานผลิตอาหาร นิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือและท่าอากาศยาน เพื่อส่งตรงความสดใหม่ให้ถึงจุดหมายได้เร็วสุด โดยทำเลที่ตั้งของเราอยู่ที่แถวบางพลีถนนบางนา-ตราด กม.19 ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ของประเทศด้านโลจิสติกส์และการกระจายสินค้า เนื่องจากอยู่ใกล้ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ท่าเรือคลองเตย ท่าเรือแหลมฉบัง และสนามบินสุวรรณภูมิ ที่เอื้อต่อการกระจายสินค้าทั้งภายในและภูมิภาคอาเซียน”
ใส่ใจทุกความใหม่ทันสมัยเสมอ
CEO เจพีเค โคลด์ สโตเรจ สะท้อนจุดเด่นของเจพีเคฯว่าการทำธุรกิจในยุคที่ถูกล้อมด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ทุกองค์กรต้องเรียนรู้ ปรับตัว และคิดค้นนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาสร้างนวัตกรรมและโชลูชันชั้นสูง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการทำงานของโซ่อุปทาน และช่วยให้พนักงานทำงานได้สะดวกปลอดภัยมากขึ้น โดยเจพีเคฯได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์มจากรูปแบบเดิมที่ใช้พนักงานเป็นผู้ดำเนินการมาเป็นรูปแบบดิจิทัล และใช้ระบบอัตโนมัติแทนการใช้แรงงานคน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราได้รับรางวัล ELMA 2019 ในสาขาผู้ให้บริการคลังสินค้า(Warehousing Services)
“บริการคลังสินค้าของเรามีระบบความเย็นตั้งแต่อุณหภูมิ –40 ถึง +25 องศาเซลเซียส ภายใต้ระบบบริหารคลังสินค้า Cold Chain Management System (CCMS) ซึ่งสามารถตรวจสอบสถานะของสินค้าได้แบบเรียลไทม์ ลดความผิดพลาดของข้อมูล โดยนำระบบบาร์โค้ดและเทคโนโลยี RFID มาช่วยบันทึกตำแหน่งการจัดเก็บสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีข้อกำหนดในการจัดเก็บที่ต่างกัน”
มีดีที่แตกต่าง
คุณจิตชัย ย้ำต่อว่าเรามีจุดเด่นและมีดีที่สร้างความแตกต่างจากรายอื่นๆ นอกเหนือจากการบริการของเราที่สามารถปรับได้หลายระดับความเย็นตามความเหมาะสมของสินค้าแต่ละประเภท โดยสามารถทำความเย็นได้ต่ำสุดถึง -40 องศาและให้มากกว่าด้วยบริการเสริมอื่นๆ เช่น บริการคัดแยกสินค้า บริการบรรจุหีบห่อ เป็นต้น เพื่อทุกความต้องการที่หลากหลาย รวมถึงการขนส่งกระจายสินค้าด้วยรถบรรทุกควบคุมอุณหภูมิ ส่งตรง ถึงมือลูกค้าทั้งในประเทศและขนส่งข้ามแดน
“ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง เราคือผู้ให้บริการคลังสินค้าห้องเย็นแห่งที่แรกมี Free Zone อีกหนึ่งบริการ เพื่อธุรกิจและสิทธิประโยชน์ทางภาษีมากมาย เพราะเราความเข้าใจในทุกโลจิสติกส์ ทำให้เราคือผู้ให้บริการจัดเก็บและบริหารสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นและแช่แข็งรายแรกในประเทศไทย ที่ได้รับอนุญาตจากกรมศุลกากร ให้เป็นพื้นที่เขตปลอดอากร (Free Zone) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารที่มีปริมาณการนำเข้าและส่งออกสูง ทำให้ลูกค้าสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ทางอากรได้หลายรูปแบบอีกด้วย”
นอกจากนี้ เรายังได้นำระบบบริหารจัดการสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Management System หรือ CCMS) เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการและการจัดเก็บ ข้อมูลเพื่อความถูกต้องและแม่นยำที่สูงกว่า เพื่อคงไว้ซึ่งความสดใหม่อย่างต่อเนื่องของสินค้า
“ข้อดีที่แตกต่างของระบบ CCMS บันทึกจดจำทุกการเคลื่อนไหวของสินค้าทุกชิ้นผ่านระบบบาร์โค้ดและคลื่นวิทยุ (RFID) ให้คุณสามารถติดตามสถานะของสินค้า ได้ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์ (Real-time) ลดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการค้นหาสินค้า เพิ่มความรวดเร็วในการบริการและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นกับสินค้า”
รางวัล ELMA การันตีมาตรฐานสากล
อย่างไรก็ดี CEO เจพีเค โคลด์ สโตเรจ กล่าวถึงการได้รับรางวัล ELMA ในปีนี้ว่า รางวัลนี้เป็นรางวัลที่ทรงคุณค่าและภาคภูมิใจของผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน เป็นรางวัลที่มีมาตรฐานสูงและการันตีได้ถึงความเป็นรางวัลเกียรติยศจากทางภาครัฐเพื่อคนวงการโลจิสติกส์อย่างแท้จริง
“การเข้าร่วมประกวดรางวัล ELMA ถือเป็นการวัดมาตรฐานการบริหารจัดการและการบริการของแต่ละองค์กร คำแนะนำจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีค่ามาก ซึ่งเราสามารถนำไปปรับปรุงและต่อยอดองค์กรให้มีมาตรฐานเพื่อแข่งขันกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ต่างชาติได้”
คุณจิตชัย สรุปปิดท้ายว่าฝากไปถึงผู้ประกอบการรายอื่นๆ ถ้ามีความพร้อมและความมุ่งมั่น ผมก็อยากเชิญชวนเข้าร่วมประกวดรางวัลอันทรงเกียรตินี้ได้ในปีถัดไป เวทีการประกวดนี้ถือเป็นการวัดมาตรฐานของตัวเราเองว่าได้มาตรฐานสากลหรือไม่ เป็นกระจกเงาสะท้อนถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบหรือไม่
“อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์และองค์ความรู้อันมีค่ามากๆจากท่านคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่คอยแนะนำและชี้แนะทิศทางการบริการจัดการองค์กรที่ดีและสามารถสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันกับคู่แข่งได้ เจพีเคฯเราคิดความต่างคิดในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่คิด เพราะทุกธุรกิจมีการแข่งขันทั้งนั้น แต่หากไม่มีมาตรฐานเราก็จะสู้คนอื่นไม่ได้”