PTT The Moving Innovation สู่ความเป็นเบอร์หนึ่ง/ Global Brand

0
757

ภายใต้ยุทธภพขนส่งเมืองไทยนอกเหนือการไล่บี้และขับเคี่ยวของหลากหลายค่ายรถแล้ว ยังมีห่วงโซ่คุณค่าที่เกี่ยวข้องให้แข่งขันระห่ำเดือดอีกบานตะไท 1 ในนั้นก็คือธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นเพื่อภาคขนส่ง โดยในรอบ4-5 ปีที่ผ่านมา ภาวการณ์แข่งขันของธุรกิจนี้ทวีความเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง หลากหลายค่ายธุรกิจพลังงานกระโจนร่วมวงศ์ไพบูลย์กันพรึบพรับ

เช่นเดียวกับพี่ใหญ่ด้านพลังงานในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติอย่าง ปตท. ที่ไม่ยอมปล่อยโอกาสทองฝังเพชรไปโยนทิ้งข้างไหล่ทาง แม้จะผงาดเป็น “เจ้าตลาด” ในรอบ 4-5 ปีก็ตาม แต่ก็ยังขยันดันพลังการพัฒนาและปล่อยผลิตภัณฑ์ที่สนองตอบทุกความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เหตุมั่นใจเศรษฐกิจโตหนุนธุรกิจไหลลื่น ตั้งเป้าเป็น “เบอร์หนึ่ง” พุ่งทะยานครองสัดส่วนกว่า 40 % ทุ่ม 320 ล้านหวังเพิ่มยอดขาย 300 ล้านลิตรในปี 2020 กรุยทางสู่ Global Brand กางแผนขยายสาขา FIT Auto จาก 24 สาขาในปัจจุบันเป็น 100 สาขาในอีก 5 ปีข้างหน้า ผลักดันแบรนด์ด้วยนวัตกรรมแห่งการขับเคลื่อน หรือ The Moving Innovation ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน พร้อมสยายปีกโตทั่วอาเซียนและเกือบทุกภูมิภาคทั่วโลก

img_9654

สยายปีกโตทั่วอาเซียนและ 7 ภูมิภาคทั่วโลก

ทั้งนี้ คุณบุรณิน รัตนสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ระบบการขนส่งและโลจิสติกส์ถือเป็นภาคธุรกิจที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ จำนวนมาก ปตท. จึงเล็งเห็นความสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการในภาคธุรกิจดังกล่าว ผ่านผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่มีคุณภาพจาก ปตท. ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หล่อลื่นสำหรับกลุ่มเครื่องยนต์ดีเซลงานหนัก เช่น ผลิตภัณฑ์ PTT DYNAMIC ULTRA PLUS ที่ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานจากค่าย OEM ชั้นนำ ช่วยยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายได้ถึง 30,000 กิโลเมตร รวมไปถึงการให้บริการเชิงเทคนิคทั้งก่อนและหลังการขายจากทีมผู้เชี่ยวชาญ PTT LUBE SOLUTIONS เพื่อให้ผู้ประกอบการในภาคการขนส่งและรถเพื่อการพาณิชย์ไทย สามารถพัฒนาประสิทธิภาพรูปแบบการดำเนินงาน และเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าและการแข่งขันที่มีมากยิ่งขึ้น

“ปีที่ผ่านมา ปตท. มียอดจ้าหน่ายน้ำมันหล่อลื่น 170 ล้านลิตร แบ่งเป็นในประเทศกว่า 150 ล้าน และต่างประเทศ 20 ล้านลิตร ส่วนปีนี้เราเป้ายังตั้งเป้าคงความเป็นอันดับหนึ่งด้าน Market Share ตั้งแต่ปี 2552 (ปัจจุบัน Market Share ม.ค.-ส.ค. 59 อยู่ที่ 38.61%) ส่วนตลาดในต่างประเทศ ตั้งแต่ ปี 2558-2559 ที่ผ่านมาเราเริ่มเปิดตลาด อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บรูไน อินโดนีเซีย และบาห์เรนได้สำเร็จ และทำให้ปัจจุบันมีการส่งออกครบทั้ง 10 ประเทศอาเซียนครบคลุม 36 ประเทศ ใน 7 ภูมิภาคทั่วโลกจนได้รับรางวัล Prime Minister’s Award การเติบโตของตลาดหล่อลื่นในปัจจุบันอยู่ที่ 11% ซึ่งเราก็เติบโตใกล้เคียงกับตลาด (10.88% หรือ ประมาณ 10.31 ล้านลิตร) และคาดว่ายังคงเติบโตได้อีกในปีหน้า”

dscf2264 544981cc-copy

กลยุทธ์ The Moving Innovation ก้าวสู่ Global Brand

นอกจากนี้ คุณบุรณิน ระบุเพิ่มเติมว่าในอนาคต ปตท. มุ่งหวังจะเพิ่มยอดการจำหน่ายรวมเป็น 300 ล้านลิตรในปี 2020 โดยมุ่งหวังให้ ปตท. ยังคงสัดส่วนการเป็น Market Share อันดับ 1 ในประเทศต่อไป และเพิ่มสัดส่วนยอดขายต่างประเทศขึ้นเป็น 30% ของยอดขายรวมเพื่อก้าวสู่การเป็น Global Brand มากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในการขยายตลาดประมาณ 320 ล้านบาท/ปี และวางแผนขยายสาขา FIT Auto ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เราพัฒนาขึ้นตลอด 2 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งมีคอนเซ็ปต์จะต้องเป็นศูนย์บริการยานยนต์ที่ทันสมัยมีเป็นมาตรฐานครบวงจร เน้นการซ่อมเบา และการบำรุงรักษายานยนต์ ตั้งแต่การบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่น การเปลี่ยนยาง ซ่อมแซมทั่วไป และ จำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์

“น้ำมันหล่อลื่น PTT จะเป็นเพียงรายการเดียวที่มีจำหน่ายใน Fit Auto ในปลายปีนี้ จะมีทั้งสิ้น 24 สาขา และภายในอีก 5 ปี เราวางแผนจะเปิดให้ได้รวมอีก 100 สาขา โดยพื้นที่ส่วนใหญ่จะให้บริการจะอยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ส่วนในต่างจังหวัดก็จะมีตามจังหวัดใหญ่ๆ อย่าง เชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา ชลบุรี หาดใหญ่ ภูเก็ต”

ส่วนกลยุทธ์และนโยบายการพัฒนาสินค้านั้น คุณบุรณิน ให้ข้อมูลว่าธุรกิจหล่อลื่นมีเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์เข้าสูระดับสากล หรือ Global Brand โดยผลักดันการสร้างแบรนด์จากนวัตกรรมแห่งการขับเคลื่อน หรือ The Moving Innovation และยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ดีที่สุดสำหรับยานพาหนะและ เครื่องยนต์ทุกประเภท ซึ่งนวัตกรรมของ ปตท. ซึ่งนวัตกรรมของ ปตท. ต้องเป็นนวัตกรรมที่มีความหมายที่ทุกคนสัมผัสได้และเป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภคจริง

 “ส่วน AEC เรามีกลยุทธ์ทั้งขายผ่านตัวแทนจำหน่ายของแต่ละประเทศเป็นหลัก เช่น พม่า เวียดนาม และมาเลเซีย รวมไปถึงการจำหน่ายผ่านบริษัทลูกของ ปตท. เอง เช่น ลาว กัมพูชา และฟิลิปปินส์ เป็นต้น สำหรับนอกภูมิภาค AEC  ปตท. มีการเปิดตลาดไปสู่เกือบทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยเน้นประเทศที่เป็น Emerging market โดยเฉพาะในประเทศจีน และประเทศในภูมิภาคตะวันออก”

dynamic-ultra-plus-package 60f17039ad4d28e10b212b2152774890a4eff8e5c2f244de5810c425394ddbbe

ย้ำ ยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายได้ถึง 30,000 กม.

อย่างไรก็ดี คุณบุรณิน สรุปปิดท้ายว่าปตท.มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกอย่างหลากหลาย ครอบคลุมทุกการใช้งานทั้งในกลุ่มรถใหม่ที่ยังมีระยะวิ่งน้อย หรือรถเก่าที่ผ่านการใช้งานมานาน โดยเราผลิตภัณฑ์ PTT DYNAMIC ULTRA PLUS นำเสนอให้แก่ผู้ประกอบการทุกท่าน โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีจุดเด่นของการได้รับมาตรฐานสำหรับรถญี่ปุ่น (API CI-4 และ JASO SH-1) และรถยุโรป (ACEA E7) รวมถึงผ่านมาตรฐานการทดสอบจากค่าย OEM  เช่น Mercedes Benz, Volvo เป็นต้น โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายได้ถึง 30,000 กิโลเมตร แลยังมีผลิตภัณฑ์ทั้งกลุ่มสังเคราะห์ 100% (DYNAMIC EXTRA LONG DRAIN) และกึ่งสังเคราะห์ (DYNAMIC SEMI-SYNTHETIC) ให้กับผู้ประกอบการทุกท่านได้เลือกใช้งานอีกด้วย

“การเข้าให้บริการลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการทุกรายได้สูงยิ่งขึ้น เนื่องจากต้นทุนค่าขนส่งสินค้าถือเป็นค่าใช้จ่ายหลัก (ประมาณ 50%) สำหรับอุตสาหกรรมการขนส่ง การเลือกใช้งานผลิตภัณฑ์หล่อลื่นสำหรับแต่ละ Fleet ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารต้นทุนจากการ จัดเก็บ Stock และยืดระยะการเปลี่ยนถ่าย ทาง ปตท. จึงมีทีมงานวิศวกรที่ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและ ทีมงานทุกท่านถึงหน้างาน ซึ่งจะช่วยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมกับแต่ละ Fleet โดยเฉพาะ รวมไป ถึงการเข้าร่วมแก้ปัญหาที่เกิดกับเครื่องยนต์อีกด้วย  และเรายังให้บริการในผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับกลุ่มรถผ่านบัตร Fleet Card ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมและติดตามค่าใช้จ่ายได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย”