จัดการยานพาหนะของธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เปิดโอกาสสู่โมเดลธุรกิจใหม่ ด้วย Car Telematics for Business จาก AIS Business

0
114

ในโลกยุค New Normal นี้ที่การเดินทางขนส่งด้วยยานพาหนะในภาคธุรกิจนั้นเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยหลายปัจจัย การบริหารจัดการยานพาหนะของธุรกิจให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นสำหรับธุรกิจที่ครอบครองยานพาหนะเป็นจำนวนมากนั้นได้กลายเป็นโจทย์สำคัญของหลายองค์กร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ Logistics, Delivery, ธุรกิจรถเช่า และอื่นๆ

AIS Business ในฐานะของผู้นำทางด้านเทคโนโลยี 5G และโซลูชัน Internet of Things (IoT) สำหรับการใช้งานในเชิงธุรกิจ จึงได้ทำการพัฒนาโซลูชัน Car Telematics for Business ร่วมกับบริษัท V2X ผู้เชี่ยวชาญด้านแพลตฟอร์ม Vehicle-to-Everything เพื่อให้ธุรกิจสามารถเปลี่ยนให้ยานพาหนะที่ตนเองมีอยู่นั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบ IoT และติดตามทุกข้อมูลการใช้งานยานพาหนะเหล่านั้นได้จากทุกที่ทุกเวลา ด้วยการเชื่อมต่อรับส่งข้อมูลผ่านโครงข่าย 3G/4G ทั่วประเทศไทยนั่นเอง

Car Telematics for Business จาก AIS Business

สำหรับธุรกิจองค์กรที่ยานพาหนะนั้นถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ การทราบถึงข้อมูลการทำงาน สถานที่ เส้นทาง พฤติกรรมการขับขี่ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะนั้นจะสามารถช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดค่าใช้จ่าย และเสริมความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ได้หลากหลายแนวทาง เช่น

  • การทราบถึงเส้นทาง, ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง, ปริมาณน้ำมันที่ใช้ในการเดินทาง เพื่อใช้ในการวางแผนเกี่ยวกับเส้นทางรถใหม่ หรือทำความเข้าใจในพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานได้ดีขึ้น
  • ตรวจพบความผิดปกติของรถยนต์ได้ก่อนที่รถยนต์จะเสียหายหนักหรือเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดทั้งโอกาสที่จะเกิดอันตรายกับพนักงานขับขี่ หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับรถยนต์ได้
  • ตรวจสอบควบคุมคุณภาพและมารยาทในการขับขี่ยานยนต์ของพนักงานได้ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของธุรกิจองค์กร
  • ตรวจสอบพื้นที่ขับขี่ของพนักงานได้ เพื่อควบคุมไม่ให้มีการนำยานพาหนะไปใช้ในงานที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่พึงประสงค์ หรือผิดไปจากข้อตกลงการใช้งาน เพื่อรักษาสภาพรถให้ดี และรักษาวินัยในการทำงาน
  • สำหรับรถเช่า ก็สามารถตรวจสอบพฤติกรรมการใช้งานยานพาหนะและพื้นที่ที่ผู้เช่านำไปใช้ได้ เพื่อให้สามารถให้บริการได้อย่างทันท่วงทีในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น หรือตรวจสอบให้การใช้งานยานพาหนะเป็นไปตามสัญญา ไม่นำไปขับขี่นอกอาณาเขตที่ตกลงกันไว้
  • แจ้งเตือนเมื่อพบการเคลื่อนย้ายหรือสั่นสะเทือนของรถจากการถูกทุบหรือลาก ทำให้สามารถรับมือกับเหตุเหล่านี้ได้ทันการ
  • มีข้อมูล Inventory กลางที่อัปเดตอยู่ตลอดสำหรับยานพาหนะขององค์กร สามารถวางแผนการบำรุงรักษารถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยข้อมูลระยะทาง, ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง และข้อมูลสภาพรถอื่นๆ จากกล่อง ECU หรือที่เรียกว่า Electronic Control Unit โดย ECU จะมีหน้าที่คล้ายกับสมองของรถยนต์ โดยทำหน้าที่รับข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อนำมาประมวลผล

นอกเหนือไปจากการใช้ในการรวบรวมข้อมูล, ควบคุมการใช้งาน และควบคุมคุณภาพในการขับขี่ยานยนต์แล้ว Car Telematics เองก็ยังสามารถถูกนำไปใช้เพื่อสร้างโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ดังนี้

  • ธุรกิจประกันรถยนต์ สามารถติดตามพฤติกรรมการขับขี่ของลูกค้า และนำข้อมูลมาใช้เพื่อลดหย่อนค่าเบี้ยสำหรับลูกค้าที่มีพฤติกรรมการขับขี่ที่ดีได้ในแบบ User-based Insurance (UBI)
  • ธุรกิจ Ride Sharing หรือ Delivery สามารถติดตามตำแหน่งของยานยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถให้รางวัลกับผู้ที่ขับขี่อย่างสุภาพได้ และแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อยานพาหนะมีความผิดปกติ
  • สถาบันการเงิน สามารถติดตามข้อมูลการใช้ยานพาหนะของธุรกิจที่มีการใช้ยานพาหนะจำนวนมากได้ เพื่อเป็นอีกข้อมูลประกอบในการปล่อยเงินกู้สำหรับธุรกิจเหล่านี้ให้นำไปลงทุนเพิ่มเติม
  • ธุรกิจองค์กร สามารถเชื่อมต่อข้อมูลจากยานพาหนะเข้าไปยังระบบอื่นๆ เช่น ERP, CRM, HRM เพื่อให้ธุรกิจมีข้อมูลการเดินทางของพนักงานควบคู่ไปกับข้อมูลธุรกิจในส่วนอื่นๆ และนำไปประยุกต์ใช้งานได้ เช่น การติดตามฝ่ายขายว่ามีการเดินทางไปหาลูกค้ามากน้อยเพียงใด เพื่อให้วางแผนการเบิกค่าน้ำมันและค่าบำรุงรักษายานยนต์, การติดตามฝ่ายบริการหลังการขายว่าเดินทางไปให้บริการลูกค้าได้ตาม Service Level Agreement (SLA) ที่กำหนดหรือไม่ หรือการติดตามฝ่ายจัดส่งว่าสินค้ากำลังเดินทางไปถึงที่ใดแล้ว เป็นต้น
  • โรงเรียน ใช้ติดตามรถรับส่งนักเรียนและแบ่งปันข้อมูลนี้ให้กับครูประจำชั้นและผู้ปกครอง เพิ่มความสบายใจในการดูแลบุตรหลานได้อย่างปลอดภัย

เรียกได้ว่า Car Telematics นี้คือก้าวแรกในการที่จะทำให้ธุรกิจซึ่งมียานพาหนะเป็นหัวใจนั้น สามารถก้าวสู่โลกของ Data-Driven ได้อย่างเต็มตัวเลยก็ว่าได้

AIS Business ได้ทำการพัฒนาโซลูชัน Car Telematics for Business ด้วยการใช้ V2X มาเป็นอุปกรณ์หลักในการเชื่อมต่อข้อมูลจากยานพาหนะเพื่อส่งผ่านเครือข่าย 3G/4G ขึ้นไปยังระบบ Cloud Platform เพื่อรวบรวมข้อมูลยานพาหนะของธุรกิจต่างๆ และจัดการแสดงผลรวมกัน เป็นศูนย์กลางสำหรับนำข้อมูลยานพาหนะไปใช้ต่อยอดในอนาคตได้

ติดตั้งใช้งานได้ง่าย ด้วยการเชื่อมต่อกับพอร์ต OBD II

อุปกรณ์ V2X นี้เชื่อมต่อกับยานพาหนะผ่านพอร์ต OBD II ซึ่งเป็นพอร์ตมาตรฐานของยานยนตร์ในการนำข้อมูลจาก ECU ออกมาใช้งาน โดยตัวอย่างของข้อมูลที่จะได้รับผ่านพอร์ต OBD II ก็มีดังเช่น

  • ข้อมูลการเดินทาง เช่น ระยะทางที่ขับขี่, เวลาที่ใช้, เวลาที่สตาร์ทรถและดับเครื่อง, อัตราการใช้น้ำมัน, ความเร็วในการขับขี่เฉลี่ยและสูงสุด, พฤติกรรมการขับขี่ที่อันตราย
  • ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องยนต์ เช่น ระดับแบตเตอรี่, กำลังของเครื่อง, อุณหภูมิของเครื่อง, รอบ, อุณหภูมิของอากาศภายนอก

ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อเพื่อไปประมวลผลบน V2X Cloud Platform เพื่อให้ทราบถึงข้อมูลแวดล้อมเพิ่มเติม และนำไปแสดงผลบน Mobile Application หรือ Business Dashboard ที่ระบบมีให้ต่อไป

ติดตามได้ทุกข้อมูล มี Mobile Application สำหรับผู้ขับขี่ และ Dashboard กลางให้ตอบโจทย์ต่อการใช้งานของผู้ดูแลบริหารส่วนกลาง ได้

ในการตรวจสอบติดตามข้อมูลจาก V2X นี้ จะสามารถทำได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ Mobile Application สำหรับให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะสามารถตรวจสอบข้อมูลของยานพาหนะที่ตนเองใช้งานอยู่ได้ และ Dashboard กลางที่สรุปข้อมูลของยานพาหนะทั้งหมดในองค์กร

Mobile Application นี้ จะสามารถตรวจสอบได้ทั้งข้อมูลจาก Sensor ภายใน V2X และข้อมูลด้านความปลอดภัยในการขับขี่, การขับยานพาหนะออกนอกพื้นที่ที่กำหนด, สรุปข้อมูลการเดินทางแต่ละครั้ง และพฤติกรรมอันตรายที่ถูกตรวจพบในระหว่างขับขี่

ส่วน Dashboard นั้นจะเป็นระบบ Web Application ที่เบื้องต้นจะมีข้อมูลสรุปภาพรวม, การตรวจสอบสภาพของยานพาหนะ, สรุปการเดินทางแต่ละรอบของรถแต่ละคัน, การแจ้งเตือนต่างๆ, การขับขี่ยานพาหนะออกนอกพื้นที่ที่กำหนด, ข้อมูลเชิงลึกจาก ECU สำหรับใช้ตรวจสอบความผิดปกติและเป็นข้อมูลประกอบการซ่อมบำรุง และการจัดการกับผู้ใช้งานในระบบ

เชื่อมต่อข้อมูลไปยังระบบอื่นได้ผ่าน API บูรณาการข้อมูลยานพาหนะเข้ากับข้อมูลธุรกิจ

นอกเหนือจากระบบ Mobile Application  และ Dashboard ที่มีอยู่แล้ว สำหรับธุรกิจองค์กรที่มีความต้องการเฉพาะทาง AIS Business สามารถให้คำปรึกษาเพื่อทำการปรับแต่งระบบ Dashboard นี้ให้สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจได้ หรือ หากภาคธุรกิจนั้นมีการใช้งานระบบ Application หรือ Database ใดๆ และต้องการนำข้อมูลจากระบบ Car Telematics นี้ไปใช้งาน ก็สามารถทำการเชื่อมต่อนำข้อมูลไปใช้งานได้ผ่าน API ทำให้การ Integrate ระบบระหว่างกันนั้นเป็นไปได้อย่างสะดวก ง่ายดาย และปลอดภัย

คิดค่าใช้จ่ายแบบเช่าซื้อรายเดือนเพียงเดือนละ 200 บาท เมื่อครบ 3 ปีแล้วก็ไม่ต้องจ่ายค่าอุปกรณ์อีกต่อไป เหลือเพียงค่า Platform รายเดือน

โซลูชัน Car Telematics ด้วย V2X นี้ มีการคิดค่าใช้จ่ายด้วยกัน 2 แบบ

  1. Standard Package พร้อมใช้ คิดค่าใช้จ่ายรายเดือน 200 บาทต่อยานพาหนะ 1 คัน โดยค่าใช้จ่ายนี้รวมอุปกรณ์ V2X, การเชื่อมต่อเครือข่าย 3G/4G และสิทธิ์การใช้งาน Mobile Application และ Dashboard เอาไว้หมดแล้ว โดยเมื่อครบ 36 เดือน อุปกรณ์ V2X จะกลายเป็นของธุรกิจไป และสามารถใช้งานการเชื่อมต่อเครือข่าย, Mobile Application และ Dashboard ได้ในราคาพิเศษ
  2. Customization for B2B สำหรับธุรกิจที่มีโจทย์ความต้องการเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นการดึงข้อมูลจาก ECU ในรูปแบบที่ต้องการ, การปรับแต่งเงื่อนไขการแจ้งเตือนต่างๆ, การกำหนดเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลด้วยตนเอง หรือการปรับแต่งแก้ไขการแสดงผลหรือคำนวณค่าใดๆ ทาง AIS Business ก็พร้อมปรับแต่งการทำงานเหล่านี้ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

ปรับสู่อนาคตแห่งการบริหารจัดการยานยนต์ด้วย IoT กับโซลูชันหลากหลายจาก AIS Business

นอกเหนือจากโซลูชัน Car Telematics แล้ว AIS Business เองก็ยังมีอีกหลายโซลูชันสำหรับตอบโจทย์ด้านการติดตามให้งานยานพาหนะ ได้แก่

  • Mobile Digital Video Recording (MDVR) สำหรับติดตั้งบนยานพาหนะเช่นรถบรรทุก รถบัส รถขนส่ง ที่ต้องทำการข้อบังคับของกรมขนส่งทางบกในการติดตั้ง GPS, มีอุปกรณ์อ่านใบขับขี่ และมีกล้องวงจรปิดบนรถ พร้อมส่งข้อมูลไปยังกรมขนส่งทางบกได้
  • Smart Tracking Plus สำหรับติดตั้งเฉพาะในส่วนของ GPS และการอ่านใบขับขี่ โดยไม่มีกล้องวงจรปิด สำหรับการทำตามข้อบังคับของกรมขนส่งทางบกเช่นกัน
  • Mobile Tracker อุปกรณ์ติดตามตำแหน่งรถยนต์ที่ติดตั้งใช้งานได้ง่ายดายโดยเชื่อมต่อผ่านช่อง USB หรือสายแบตเตอรี่ โดยมีการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเช่นการสตาร์ทเครื่องหรือดับเครื่อง และตำแหน่งของยานพาหนะ ส่งข้อมูลผ่านทาง NB-IoT เหมาะสำหรับกรณีที่ต้องการข้อมูลตำแหน่งและเส้นทางการเดินทางเป็นหลัก
  • Car Telematics ด้วย V2X โซลูชันข้างต้นที่เชื่อมต่อผ่านทาง OBD II และสามารถนำข้อมูลเชิงลึกจาก ECU ส่งผ่าน 3G/4G ไปวิเคราะห์แสดงผลบน Mobile Application และ Dashboard หรือส่งข้อมูลต่อผ่าน API เพื่อนำไปใช้สำหรับธุรกิจองค์กร

จะเห็นได้ว่าแต่ละธุรกิจนั้นก็มีความต้องการในระดับที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการศึกษาและเลือกใช้งานโซลูชันที่เหมาะสมนั้นก็จะช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้งานเทคโนโลยีได้อย่างคุ้มค่าสูงสุด

ติดต่อ AIS Business ได้ทันที

ลูกค้าองค์กรที่สนใจสมัครใช้บริการ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ Car Telematics สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ AIS Business ที่ดูแลองค์กรของท่าน หรือแจ้งความต้องการผ่านอีเมล์ businessiot@ais.co.th หรือศึกษารายละเอียดของบริการต่างๆ ได้ที่ https://business.ais.co.th/iot/