๙ รอยพระบาท… “อัครมหาราชันนักพัฒนา” ด้านคมนาคมขนส่ง

0
517

     

     ทันทีที่สำนักพระราชวังประกาศแถลงการณ์ว่าพระบาทสมเด็จพระมหาปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯเสด็จสวรรคตแล้ว เมื่อเวลา 15.52 น.ของวันที่ 13 ต.ค. 2559 ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 และทรงครองราชย์สมบัติได้ 70 ปี นำมาซึ่งห้วงเวลาแห่งมหาวิปโยคอาดูรของพสกนิกรชาวไทยทั้งแผ่นดินอย่างถึงที่สุดธารน้ำตาแห่งความเศร้าโศกอาลัยได้ไหลนองแทรกทุกอณูแผ่นดินไทย ที่ได้สูญเสียพ่อแห่งแผ่นดินผู้เปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย

ตลอดระยะเวลาการเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ 70 ปี ที่นับได้ว่ายิ่งยืนนานที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งราชวงศ์ไทยและโลก และถือเป็น“70 ปี และ 25,500กว่าวัน”แห่งการทรงงานหนักเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงแก่อาณาประชาราษฎร์ที่ยากจะมีพระมหากษัตริย์องค์ใดในโลกเสมอเหมือนพระองค์ได้

ทั้งนี้ ด้วยพระราชปณิธานอันแรงเกล้าที่ได้ทรงเสียสละประโยชน์ส่วนพระองค์เพื่อพสกนิกรชาวไทยทั้งมวล โดยไม่ทรงแบ่งแยก“สถานะศาสนา ชาติพันธุ์ หรือหมู่เหล่า”ทรงถือว่า“ทุกข์ของพสกนิกร คือทุกข์ของพระองค์”จึงได้ทรงอุทิศพระวรกาย ทุ่มเทพระสติปัญญาและพระราชทรัพย์ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจหลากหลายนานัปการด้วยพระวิริยะอุตสาหะ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยของพระองค์ให้ดีขึ้นในทุกๆด้าน

ทุกพระราชกรณียกิจ พระบรมราโชวาท พระราชดำรัส รวมถึงหลายพันโครงการตามแนวพระราชดำริตลอดระยะเวลา 7 ทศวรรษในรัชสมัยของพระองค์ ล้วนแล้วแต่เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงอุทิศพระวรกายทรงงานหนักเพื่อความอยู่ดีกินดีของอาณาประชาราษฎร์ สมดังที่ได้ทรงเปล่งพระปฐมบรมราชโองการเป็นพระราชสัตยาธิษฐาน เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 ที่ว่า“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”

     ถือเป็นพระธัมมิกราชวาจาช่วยปกแผ่ธรรมแห่งผู้ปกครองแผ่นดิน คุ้มเกล้าประคองไทยให้เกิดสรรพศาสตร์ในการพัฒนาอันสอดคล้องและสมดุลอย่างแท้จริง!

     Logistics Time ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และน้อมถวายความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ โดยขอน้อมเกล้าฯประมวลพระราชกรณียกิจตามรอยพระบาทด้านการคมนาคมขนส่ง(บางส่วน)ที่สะท้อนถึงพระอัจฉริยภาพและสายพระเนตนอันยาวไกลในฐานะ“พระมหากษัตริย์นักพัฒนา” ก่อให้เกิดคุณูปการด้านโครงข่ายคมนาคมขนส่งและยกระดับความคล่องตัวในการสัญจรไปมาของประชาชน และเกื้อหนุนให้เกิดห่วงโซ่คุณค่าด้านเศรษฐกิจ และสังคมอย่างหาที่สุดมิได้ ดังนี้

cover145-12 cover145-13 mega_bridge_2

ปฐมบท “การคมนาคม” คือรากฐานการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

ด้วยพระปรีชาสามารถและสายพระเนตรอันยาวไกล ทรงเล็งเห็นว่ากิจการด้านการคมนาคม รวมถึงการสาธารณูปโภคและการสื่อสาร ล้วนเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม กอปรกับ ณ ช่วงเวลานั้นโลกเพิ่งผ่านพ้นจากภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 และก้าวเข้าสู่ยุคของสงครามเย็น ทำให้ประเทศไทยต้องมุ่งพัฒนาชาติให้มีความทัดเทียมกับอารยประเทศ พระองค์จึงทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจสนับสนุนการสร้างเส้นทางคมนาคมแก่ราษฎรในชนบทห่างไกล ที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยม

“เพราะเส้นทางคมนาคมไม่เอื้ออำนวยต่อราษฎร ทำให้ความยากไร้สยายปีกปกคลุมพสกนิกรในถิ่นทุรกันดาร พระองค์จึงทรงนำร่องการให้ความช่วยเหลือราษฎรในส่วนที่รัฐบาลยังยื่นมือเข้าไปไม่ถึง ไม่ว่าถิ่นนั้นจะทุรกันดารเพียงใดก็ตาม ด้วยพระมหากรุณาธิคุณนี้ทำให้ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีรากฐานอันเข้มแข็งมั่นคงและพร้อมต่อการพัฒนาก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้นำในภูมิภาคนี้”

นอกจากนี้ การสร้างเส้นทางคมนาคมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ดังจะเห็นได้จากการที่ทรงได้รับพระราชทานของฝาก เป็นรถเด็กเล่นจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดการเล่นรถไฟ และเมื่อทรงเจริญพระชนมายุขึ้น ทรงสามารถประกอบเรือเดินสมุทร เรือรบ และเครื่องบินจำลองด้วยพระองค์เอง

     “เมื่อเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ พระราชกรณียกิจที่สำคัญประการหนึ่งเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรทั่วประเทศ คือ การก่อสร้างเส้นทางคมนาคม เพื่อเปิดประตูสู่พื้นที่ชนบท และแก้ปัญหาจราจรในเขตเมืองมากมายหลายโครงการด้วยกัน เพื่อสร้าง “ความมั่นคง ผาสุก และความร่มเย็นอย่างยั่งยืน” ตอบสนองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ”

1_display1 3

พระราชา..ที่ไม่เคยละทิ้งประชาชน

ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในภูมิภาคต่างๆ พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างพระตำหนักประจำภูมิภาคเพื่อเป็นฐานการทรงงาน ส่งผลให้มีการก่อสร้างเส้นทางสัญจรสายใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น “ตามรอยพระยุคลบาท” และทรงใช้เส้นทางเหล่านั้นในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรและพระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,400 โครงการ ที่กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งล้วนเอื้อประโยชน์ต่อพสกนิกรทั้งในชนบทและชุมชนเมืองของไทยให้สามารถพึ่งตนเองได้อย่างพอเพียงและยั่งยืน

     “ทรงพระราชดำริให้ดำเนินการปรับปรุงถนนในพื้นที่ทุรกันดารเพื่ออำนวยประโยชน์ให้พสกนิกรที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านต่างๆ สามารถเดินทางติดต่อถึงกันด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ตลอดเส้นทาง โครงการปรับปรุงเส้นทางดังกล่าวมีจำนวนมากถึง 45 สาย ได้สร้างคุณูปการต่างๆ มากมายทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม เป็นการเปิดเส้นทางเพื่อรับการพัฒนาในด้านต่างๆให้เข้าสู่พื้นที่ ช่วยให้การเดินทางสัญจรระหว่างชุมชนคล่องตัว แล ะช่วยลดต้นทุนในการขนส่งผลผลิตไปสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว ราษฎรมีงานทำ สามารถประกอบอาชีพ ภายในภูมิลำเนา ลดการเดินทางเข้าไปหางานทำในเมืองใหญ่ มีรายได้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้นและสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ทำให้สถาบันครอบครัวมีความมั่นคงเข้มแข็งอย่างยั่งยืน”

cover145-11 cover145-9 maxresdefault

ธ สถิตในดวงใจไทยตราบนิรันดร์

นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่การแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของราษฎรในพื้นที่ชนบทห่างไกลเท่านั้น ปัญหาความทุกข์ยากในเมืองหลวงที่เกิดจากปัญหาการจราจรที่ติดขัด เป็นอีกปัญหาที่พระองค์ได้มีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานแนวพระราชดำริในการแก้ไขตลอดมา ซึ่งล้วนเป็นแนวพระราชดำริทั้งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นโครงข่าย และการแก้ไขปัญหาโดยการสร้างจิตสำนึกอย่างยั่งยืน

     “พระองค์ทรงมีพระราชดำริแก้ปัญหาจราจรเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการสัญจรในจุดที่วิกฤตหนัก ประกอบด้วยการสร้างทางในที่ที่ยังไม่มีทาง เช่น โครงการก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟสายใต้(สาย บางกอกน้อย) โครงการปรับปรุงขยายผิวการจราจรหน้ากรมประชาสัมพันธ์ (เดิม) โครงการถนนหยดน้ำ และการปรับปรุงขยายผิวการจราจรโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย การขยายช่องทางจราจรโดยไม่ทำลายภูมิทัศน์เดิม ได้แก่ โครงการขยายสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานสะพานมัฆวานรังสรรค์ การสร้างเส้นทางใหม่ เช่น โครงการทางคู่ขนานลอยฟ้าถนนบรมราชชนนี โครงการสะพานพระราม 8 และการสร้างเส้นทางลัดในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริบริเวณถนนพระราม 8”

นอกจากการแก้ปัญหาในจุดที่วิกฤตหนักแล้ว ยังพระราชทานพระราชดำริการแก้ไขปัญหาการจราจรอย่างเป็นระบบโครงข่ายอีกด้วย นั้นก็คือ การสร้างถนนวงแหวน หรือ Ring Road จนต่อมา คือ ถนนวงแหวนรัชดาภิเษกอันเนื่องมาจากพระราชดำริถวายในโอกาสที่ทรงครองราชย์ครบ 25 ปีตามพระราช ประสงค์ที่จะให้เป็นของขวัญสำหรับอาณาประชาราษฎร์ ซึ่งถนนรัชดาภิเษกนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือกรมทางหลวง ได้นำมาต่อยอดเป็น “ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก” ในระยะต่อมาที่สร้างถวายในโอกาสที่ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี

     “โครงข่ายจตุรทิศ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้พระราชทานพระราชดำริในปี 2538 ให้ก่อสร้างโครงข่ายจราจร ที่สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างสมบูรณ์ทั่วทั้งกรุงเทพฯ โดยเชื่อมต่อถนนและสะพานย่อยๆ หลายโครงการที่มีอยู่เดิม เข้าด้วยกัน ประกอบด้วย โครงการจตุรทิศเหนือ – ใต้ และตะวันตก – ตะวันออก เพื่อรองรับปริมาณการจราจร และอำนวยความสะดวกในการข้ามกรุงเทพฯ โดยไม่ต้องผ่านเข้าไปย่านใจกลางเมือง” 

และพระวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาระบบโครงข่ายอันเนื่องมาจากพระราชดำริโครงการล่าสุด คือ ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม เป็นเส้นทางต่อเชื่อมเพื่อรองรับรถบรรทุกขนส่งสินค้า ที่วิ่งมาจากโรงงานอุตสาหกรรมที่มีอยู่มากในพื้นที่ปู่เจ้าสมิงพราย จังหวัดสมุทรปราการ และที่มาจากรอบนอกเมืองเชื่อมต่อกับบริเวณท่าเรือคลองเตย มิให้แล่นเข้าไปในตัวเมืองหรือทิศทางอื่นๆ อันเป็นสาเหตุของปัญหาการจราจรติดขัด และที่โดดเด่น คือ สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม หรือสะพานภูมิพล 1,2  สะพานขนาดใหญ่ที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายถนนวงแหวนอุตสาหกรรมให้ต่อเนื่องกันอย่างสมบูรณ์

     ทั้งหมดทั้งมวลคือพระมหากรุณาธิคุณและพระเมตตาคุณอันเปี่ยมล้น ที่ทรงทุ่มเทกำลังพระวรกายปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านคมนาคมขนส่งจนสัมฤทธิผลเห็นเป็นรูปธรรม ทำให้พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้รับประโยชน์ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

     นับเป็นความโชคดีของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ที่แม้ปัญหาทุกข์ยากใดๆ ที่ถาโถมคุกคามและเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตจะอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์เสมอมา พร้อมทั้งมีพระมหากรุณาธิคุณได้ทรงวางรากฐานการพัฒนาด้านคมนาคมอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคที่สามารถต่อยอดการพัฒนาจนสามารถก้าวเข้าสู่การแข็งขันในเวทีโลกได้อย่างเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืน

     แม้ ณ วันนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พระผู้เสด็จสู้ฟากฟ้าสุราลัยแล้วก็ตามแต่ทว่าปวงชนชาวไทยทั้งแผ่นดินจักน้อมรำลึกในพระมหากรุณธิคุณหาที่สุดมิได้ พ่อของแผ่นดินจักยังคง ธ สถิตย์ในทุกดวงใจลูกไทยทั่วหล้าตราบกาลนิรันดร์ และจักขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป