การท่าเรือฯจรดหมึกสัญญาจ้างผอ.กทท.คนใหม่!“เกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข”

0
94

การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.)จัดพิธีลงนามในสัญญาจ้าง นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ในโอกาสดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ กทท.คนที่ 19 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564  ที่ผ่านมา สำหรับพิธีลงนามฯในวันนี้ได้รับเกียรติจาก พลเรือเอก โสภณ วัฒนมงคล ประธานกรรมการ กทท.เป็นประธานในพิธีฯโดยมีผู้บริหาร พนักงาน กทท.ตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กทท.และสื่อมวลชนเข้าร่วมพิธีฯ ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคารที่ทำการ กทท.

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า และปริญญาโทบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์การทำงานในองค์กรที่สำคัญ ๆ   มากว่า 25 ปี ได้แก่ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IFCT) มหาวิทยาลัยโยนก ธนาคารทหารไทย (TMB) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับรองผู้บริหารสูงสุดของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ก่อนได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ กทท.

นายเกรียงไกรฯ มีหน้าที่รับผิดชอบงานที่เป็นประโยชน์ต่อการเป็นผู้นำองค์กรเพื่อให้ กทท.มุ่งสู่มาตรฐานท่าเรือชั้นนำระดับโลก พร้อมการให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่เป็นเลิศเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2573 ด้วยประสบการณ์การบริหารจัดการกำหนดนโยบายการวางแผนกลยุทธ์องค์กรเกี่ยวกับการบริหารหน่วยงาน อาทิ ฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ฝ่ายกฎหมาย สำนักกรรมการและผู้จัดการทั่วไป และสำนักพัฒนาองค์กร รวมถึงการควบคุมกำกับหน่วยงานสายงานสารสนเทศและดิจิทัล วางแนวทางการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

สำหรับผลงานและรางวัลในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมที่สำคัญๆนายเกรียงไกรฯได้รับรางวัลบุคคลที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)ในปีพ.ศ.2559 รางวัลคนดีศรีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)ประเภท Talent ในปี พ.ศ. 2556 และมีงานด้านวิชาการ เป็นผู้วิจารณ์บทความงานสัมมนาวิชาการธนาคารแห่งประเทศไทยประจำปี 2557(BOT Symposium 2014) เรื่องกลไกการค้ำประกันสินเชื่อของภาครัฐและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SME

ในฐานะผู้บริหารสูงสุดขององค์กร นายเกรียงไกรฯ มีความมุ่งมั่นที่จะนำประสบการณ์ และองค์ความรู้ ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมดิจิทัล (Digital Innovation) และเทคโนโลยีด้านการเงิน (FinTech) มาพัฒนา กทท.ให้เป็นท่าเรืออัตโนมัติในโครงการ Smart Port และเป็นท่าเรือที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในด้านการบริการทั้งภาคธุรกิจและภาคประชาชน ช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศและส่งผลดีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะร่วมมือกับทุกภาคส่วนพัฒนา กทท. เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงานของพนักงาน และคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับชุมชนโดยรอบ กทท.ให้มีสาธารณสุขที่เหมาะสม