หากเอ่ยชื่อถึง“เมกาทรานซ์”ในยุทธจักรธุรกิจขนส่งเครื่องจักรหนัก-บรรทุกหนักเมืองไทย(Oversize-Heavy Haulage) เชื่อขนมกินได้ว่าน้อยนักจะไม่รู้จักกิตติศัพท์ เพราะนี้คืออีกหนึ่งสำนักวิทยายุทธล้ำเลิศเป็นที่ยอมรับของวงการ ล่าสุด(1ก.ย.66)โชว์กระบวนท่าเหยียบเมฆาไร้ร่องรอยด้วยการช้อปบิ๊กล็อตฝูงกริฟฟิน 9 คันหวังเสริมเขี้ยวเล็บงานขนส่งให้แข็งแกร่ง จับตาจ่าฝูงหัวใหญ่สเปกสูง S560 V8 6×6 จำนวน 2 คัน ทะลุความโหดด้วยหัว R560 V8 6×6 อีก 2 คัน ที่เหลือ 5 คันเป็นหัว P410 6×4
ควันหลงในวันส่งมอบได้มีโอกาสร่วมเป็นสักขีพยานและล้อมวงสืบสวนเชิงข่าวเปลือยบทสัมภาษณ์บิ๊กบอสเจ้าสำนักเมกาทราน์ซ์ฯอย่าง“คุณเมธาพัฒน์ ธนวัฒนชัยบูรณ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมกาทรานซ์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ที่เปิดฟลอร์ร่ายหลักคิดวิสัยทัศน์กับการขับเคลื่อนธุรกิจท่ามกลางคลื่นการแข่งขันที่รุนแรงพอที่จะขมวดมาเล่าสู่กันฟัง
คุณเมธาพัฒน์ ได้ฉายภาพฉากทัศน์ที่มาของเมกาทรานซ์ฯว่าเมกาทรานซ์ฯเราเป็นผู้ให้บริการขนส่งทางบกรับขนส่งสินค้าตั้งแต่ขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่ทั้งในไทยและต่างประเทศ เรามีฟลีทรถทั้งหมดประมาณ 60 คันโดยมีรถหลากหลายยี่ห้อ แต่ตอนนี้เรากำลังจัดกลุ่มรถให้เหลือเพียง 2-3ยี่ห้อ โดยสแกนเนียเป็นยี่ห้อหลักที่เรามองเห็นศักยภาพไม่ว่าจากตัวรถและการบริการ เราก็เลยเปลี่ยนฝูงรถในฟลีทมาเป็นยี่ห้อสแกนเนียส่วนหนึ่ง หากนับเฉพาะสแกนเนียรวมกับฟลีทที่รับมอบในครั้งล่าสุดนี้ 9 คันรวมเป็น 24 คันแล้ว ซึ่ง ณ ตอนนี้เราใช้สแกนเนียทั้งหัว P, R และ S
“ถามว่าทำไมต้องเลือกสแกนเนีย หากวัดกันด้วยคุณภาพเราค่อนข้างมั่นในตัวโปรดักส์ ประกอบกับทีมฝ่ายขาย บริการหลังการขาย รวมถึงทีมเทรนนิ่งของสแกนเนียซึ่งล้วนให้การสนับสนุนเมกาทรานซ์ฯเป็นอย่างดี และเชื่อว่าน่าจะสนับสนุนทุกบริษัทในมาตรฐานเดียวกัน”
จากรุ่นเจ้าคูณปู่สู่พี่โย่ง S560 V8
เมกาทรานซ์ฯก่อตั้งเมื่อปี 2015 แต่เรามีรถสแกนเนียในฟลีทมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ 3 ตัว 450 รวมถึงตัว 124 ซึ่งเป็นการใช้ขับเคลื่อนธุรกิจให้เช่ารถเครน ต่อมาเมื่อแตกไลน์ธุรกิจมาเป็นเมกาทรานซ์ฯเราก็เริ่มซื้อเพิ่มเป็นหัว R580 และตัว S560 6×6 เมื่อ3ปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้วเราก็ซื้อเพิ่มเป็น P410 อีก 5 คัน และฟลีทล่าสุดนี้ 9 คัน โดยเป็นตัวใหญ่ S560 V8 6×6 จำนวน 2 คัน รุ่น R560 V8 6×6 2 คัน ที่เหลืออีก 5 คันเป็น P410 6×4 ซึ่งทั้งหมดก็จะเข้าไปเสริมศักยภาพงานขนส่งทั่วไปและงานบรรทุกหนัก(Heavy Haulage)
ความปลอดภัยต้องมาก่อน!
ธุรกิจขนส่งบรรทุกหนักในไทยในมุมมองส่วนตัวแล้วแม้ในตลาดจะมีผู้เล่นนับจำนวนได้ แต่ทว่าความจริงปัจจัยเรื่องสงครามราคาค่อนข้างรุนแรง หมายความว่าทุกอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่าปริมาณงานอยู่ที่เท่าไหร่แต่สุดท้ายแล้วปัจจัยเรื่องสงครามราคาคือการแข่งขันที่แท้จริง ซึ่งธุรกิจประเภทนี้เมกาทรานซ์ฯเราให้ความสำคัญความปลอดภัยต้องมาก่อน “คนขับ-ทีมงาน”ของเราต้องปลอดภัยเป็นอันดับแรก ซึ่งการเลือกรถที่ให้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงก็เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจประเภทนี้
หากเป็นแบรนด์ยุโรปเลือก“สแกนเนีย”
มุมมองส่วนตัวแล้วหากว่ากันตามความเป็นจริงรถหลายๆยี่ห้อในตลาดก็มีระบบความปลอดภัยและศักยภาพไม่ได้แตกต่างกัน แต่ถามว่าเรามองเห็นอะไรในสแกนเนียที่เกี่ยวข้องความปลอดภัยเป็นองค์ประกอบทำให้ตัดสินใจเลือกซื้อ อาจตอบได้เลยว่าเป็นเรื่องสมรรถภาพ พละกำลังและความทนทานของเครื่องยนต์ ทำให้คนขับและทีมงานของเรามั่นใจได้ว่าการขนส่งจะสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นในทุกสภาพการขนส่ง
“แบรนด์อื่นๆในตลาดที่ผมไม่ได้เลือกไม่ได้ซื้อไม่ได้แปลว่าแบรนด์นั้นๆไม่ดี ที่สำคัญขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน และผมก็ไม่สามารถตอบแทนผู้ประกอบการท่านอื่นได้ เพียงแต่ว่า ณ วันนี้ผมสบายใจ และหากเป็นแบรนด์ยุโรปผมเลือกสแกนเนีย เป็นใบเบิกทางให้เมกาทรานซ์ฯได้ไปต่อกับสแกนเนีย”
บริหารจัดการ“คน”คือสิ่งที่ท้าทาย
ก้าวสำคัญที่ถือว่าท้าทายในธุรกิจนี้สำหรับเมกาทรานซ์ฯแล้ว ส่วนตัวมองว่า“คน”เป็นสิ่งท้าทายอย่างมาก เครื่องจักรทุกคนมีสิทธิจะซื้อเหมือนๆกัน ไม่ว่าราคาจะถูกหรือแพงก็แล้วแต่ งานทุกงานก็มีเท่ากันหมดสุดแล้วแต่ใครจะคว้ามาได้ เวลาก็มีเท่ากันหมดสุดแล้วแต่ใครจะบริหารจัดการให้ได้ประโยชน์มากกว่ากัน ซึ่งนั่นก็ล้วนแล้วแต่เกิดจากตัว“คน”ที่ผมมองว่าท้าทายที่สุดท้ายใครจะบริหารจัดการอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้มากกว่ากันในฐานะทีมเวิร์ค
เมกาทรานซ์ฯไม่ได้เป็นองค์กรที่ใหญ่มาก ดังนั้น การบริหารจัดการ“คน-ทีมงาน”ก็จะให้อำนาจแต่ละแผนกตัดสินใจกันเองในเชิงที่เป็นกลาง ส่วนตัวผมจะช่วยดูและตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องที่สำคัญ อีกอย่างผมค่อนข้างโชคดีที่มีประสบการณ์จากงานธุรกิจที่ใกล้เคียงกันในสายงานของรถเครนมาก่อน ประกอบกับทีมงานที่เข้ามาใหม่มีศักยภาพช่วยกันสร้างสรรค์ เป็นแรงส่งการทำงานร่วมกันระหว่างผมกับทีมงานมีความยืดหยุ่นง่ายต่อการเติมเต็มและเอื้อศักยภาพกันและกันได้
“บริษัทเล็กๆที่สามารถซัพพอร์ตลูกค้าได้ในงานที่ยาก ก้าวต่อไปของเมกาทรานซ์ฯต้องพัฒนาและปรับตัวในทุกมิติรองรับทุกสถานการณ์ และที่สำคัญต้องพยายามขยับไปแข่งในระดับต่างประเทศให้ได้ เพราะถ้าในประเทศต่อให้เป็นบริษัทต่างชาติเรามั่นใจว่าเราแข่งขันได้”คือถ้อยวาจาที่ดูถ่อมตนบนวิสัยทัศน์แหลมคมที่เจ้าสำนักเมกาทรานซ์ฯ“เมธาพัฒน์ ธนวัฒนชัยบูรณ์”ได้ฝากทิ้งท้าย
ภายหลังจบกระบวนท่าสืบสวนเชิงข่าว กับหลักคิดเชิงปรัชญาที่คุ้นหูว่า“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”ของซุนวู ปราชญ์แห่งพิชัยยุทธ์ ยังใช้ได้เสมอและดูเหมือนจะเหมาะกับการสำทับการเปลือยบทสัมภาษณ์นี้ได้ชนิดดูจะไม่เขอะเขิน หรืออวยจนเกินงาม!
:จิ้งเหลนไฟ
