กรมทางหลวง(ทล.)ก่อสร้างทางแยกต่างระดับเขาไม้แก้ว จังหวัดชลบุรี แล้วเสร็จเปิดให้บริการแก่ประชาชนสัญจรได้ด้วยความสะดวก รวดเร็ว รองรับปริมาณจราจรที่หนาแน่น เชื่อมโยงคมนาคมขนส่งภาคตะวันออกสู่จังหวัด-ภูมิภาคใกล้เคียง รวมวงเงินก่อสร้าง 601,601,396 บาท
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมทางหลวง (ทล.)โดยสำนักก่อสร้างสะพาน ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างปรับปรุงทางแยกต่างระดับเขาไม้แก้ว จังหวัดชลบุรี เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ประชาชน รองรับปริมาณการจราจรและการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ทางแยกจุดตัดเขาไม้แก้วหรือทางแยกจุดตัดระหว่าง ทล.36 และ ทล.331 ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นเส้นทางที่มีความสำคัญในการเชื่อมโยงการคมนาคมและการขนส่งระหว่างพื้นที่ภาคตะวันออกไปสู่จังหวัดและภูมิภาคใกล้เคียง รองรับปริมาณการจราจรจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมของประเทศ ส่งผลให้บริเวณทางแยกดังกล่าวมีปริมาณการจราจรหนาแน่น ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง ด้วยความสำคัญของทางแยกนี้ โครงการฯ ตั้งอยู่ระหว่าง ทล.36 ที่ กม. 14+500 – 15+900 และ ทล.331 ที่ กม.25+300 – 26+533 รวมระยะทาง 2.633 กิโลเมตร มีรูปแบบที่สอดคล้องกับลักษณะภูมิประเทศและเขตทางที่มีอยู่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ประกอบด้วย
– ก่อสร้างสะพานต่างระดับบน ทล.331 แบบ Directional Ramp ในทิศทางเลี้ยวขวาเข้า ทล.36 เพื่อเดินทางจากจังหวัดฉะเชิงเทรา ไปเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และจากอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ไปสู่จังหวัดระยอง
– ก่อสร้างสะพานต่างระดับแบบ Loop Ramp ในทิศทางเลี้ยวขวาเข้า ทล.331 เพื่อเดินทางจากเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ไปสู่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และจากจังหวัดระยอง ไปจังหวัดฉะเชิงเทรา
– งานก่อสร้างทางหลวงบริเวณทางแยกจุดตัดเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษ ขนาด 10 ช่องจราจร (ไป – กลับ) ผิวทางคอนกรีต บน ทล.331 สำหรับประชาชนที่มีความประสงค์เดินทางไปจังหวัดฉะเชิงเทรา และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และ ทล.36 สำหรับเส้นทางการเดินทางระหว่างเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง นอกจากนี้ ได้รวมงานก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำ งานติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง งานติดตั้งป้ายจราจร และงานสีตีเส้นจราจร รวมงบประมาณ 601,601,396 บาท
ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ เปิดให้บริการแก่ประชาชนสัญจรได้ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณการจราจรในอนาคต เป็นการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การลงทุน รวมทั้งการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก เพื่อสนับสนุนในการมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลาง การคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
