“มนพร” ลงพื้นที่สนามบินตรัง ขีดเส้นเมษานี้เปิดให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศ และพร้อมให้บริการทั้งหมดภายในปี 2568 ย้ำเร่งขอใบรับรองสาธารณะเตรียมพร้อมเป็นสนามบินนานาชาติ รับขยายตัวเที่ยวบิน – นักท่องเที่ยวโตต่อเนื่อง

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ท่าอากาศยานตรัง เร่งรัดให้ กรมท่าอากาศยาน(ทย.) ดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานตรัง ซึ่งประกอบด้วย
1.โครงการก่อสร้างเสริมความแข็งแรงทางวิ่ง สร้างทางขับและลานจอดอากาศยานพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน ให้สามารถรองรับอากาศยานขนาด 180 ที่นั่งได้ 12 ลำในเวลาเดียวกัน หรือรองรับอากาศยานขนาด 350 ที่นั่ง จำนวน 4 ลำ และอากาศยานขนาด 180 ที่นั่ง จำนวน 4 ลำ ในเวลาเดียวกัน และมีทางขับอากาศยานใหม่เพิ่มขึ้น 3 เส้น ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอเปิดใช้ลานจอดอากาศยาน
2.งานก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1,200 คน/ชั่วโมง หรือ 3.4 ล้านคน/ปี จากปัจจุบันที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 600 คน/ชั่วโมง หรือ 1.7 ล้านคน/ปี ผลการดำเนินงาน 98.34%
3.งานก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่ง พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน และองค์ประกอบอื่น ๆ โดยต่อเติมความยาวทางวิ่ง ให้มีขนาด 45 x 2,990 เมตร จากเดิม 45 x 2,100 เมตร ผลการดำเนินงาน 37.01%
สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ให้ ทย.เร่งประกาศคัดเลือกหาผู้รับจ้างรายใหม่ภายในไตรมาสที่ 2 พร้อมกับเปิดใช้งานผู้โดยสารภายในประเทศภายในเดือนเมษายน 2568 และให้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 นอกจากนี้ยังเร่งรัดให้ ทย. ดำเนินการตามกระบวนการขอใบรับรองสนามบินสาธารณะให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 ด้วยเช่นกัน
นางมนพรฯ กล่าวต่ออีกว่า โครงการพัฒนาท่าอากาศยานตรัง เกิดขึ้นเพื่อเตรียมการรองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยว โดยจากสถิติพบว่าในปี 2567 ท่าอากาศยานตรัง มีเที่ยวบินทั้งหมด 3,626 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ร้อยละ 17.5 มีจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด 559,752 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 18.7 ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหลังจากที่ได้ใบรับรองสนามบินสาธารณะแล้ว จะผลักดันให้เป็นสนามบินนานาชาติในระยะต่อไป ด้วยท่าอากาศยานตรังเป็นท่าอากาศยานที่มีศักยภาพสูงที่จะเปิดเที่ยวบินข้ามภูมิภาค หรือดึงสายการบินระหว่างประเทศเข้ามาเปิดเส้นทางบินได้ เนื่องจากจังหวัดตรังมีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่ดี มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย อีกทั้งท่าอากาศยานตรังยังเป็นท่าอากาศยานศุลกากร สามารถขนส่งผู้โดยสาร สินค้า สิ่งของที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกชนิดได้ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในจังหวัดตรังรวมถึงจังหวัดใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี
นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินงานว่า ในส่วนของการก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่ง พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน และองค์ประกอบอื่น ๆ มีการเวนคืนที่ดิน 674 ไร่ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการจัดทำสัญญาและจ่ายเงินค่าทดแทนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ไปแล้ว 5 สัญญา เป็นเงินทั้งสิ้น 867,242,602.77 บาท และสำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานตรัง ปัจจุบันสำรวจตรวจสอบค่าเสียหายของงานจ้างแล้วเสร็จ มีค่าความเสียหาย คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 34,204,606.33 บาท และได้ประเมินรายการปริมาณและราคาของสิ่งก่อสร้างคงเหลือจัดทำแบบก่อสร้างส่วนที่เหลือเพื่อคำนวณงบประมาณสำหรับการจัดจ้างผู้รับจ้างรายใหม่ โดยได้จัดทำบัญชีประมาณค่าก่อสร้าง เป็นเงินทั้งสิ้น 39,567,464.11 บาท ไม่รวมค่าใช้จ่ายคงค้างที่เกิดจากค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ ค่าไฟ) ทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอขอความเห็นชอบก่อนจ้างรายใหม่ ในส่วนการเรียกร้องจากหลักประกัน ทย. ได้แจ้งธนาคารเพื่อริบหลักประกันแล้ว ธนาคารรับทราบและจะจ่ายเงินตามที่ ทย. แจ้ง ทั้งนี้ ทย. จะดำเนินการตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานตรังตามข้อสั่งการอย่างเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการให้มีความพึงพอใจสูงสุด