‘พนัส’ คืนกำไรสู่สังคม! ส่งมอบเครื่องเล่นเด็กให้กับ รร.บ้านฮวก จ.พะเยา

0
919

 

ท่ามกลางสังคมที่นับวันยิ่งถูกเทคโนโลยีสุดล้ำครองโลก ส่งผลให้สังคมอุดมด้วยความเห็นแก่ตัวและแพร่เชื้อกระจายไปทั่วทุกซอกหลืบของสังคมโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นเหตุสังคมโลกโหยหา “ความรับผิดชอบที่ดีต่อสังคม” และก่อให้เกิดบริบท “CSR” หรือ Corporate Social Responsibility ที่มีความหมายถึง“ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร”ให้บริษัทน้อยใหญ่ทั่วโลกได้ยึดถือปฏิบัติตาม เพื่อองค์กรและสังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและยั่งยืน

เช่นเดียวกับบริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด บริษัทผู้ผลิตรถพ่วง รถเทรลเลอร์ รถดัมพ์ และรถที่เกี่ยวข้องกับการบริการด้านขนส่งที่มีคุณภาพระดับแถวหน้าของเมืองไทย นำโดย CEO “พนัส วัฒนชัย รุกกิจกรรมเพื่อคืนกำไรให้สังคมจากการร่วมมือกับสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือ เนด้า(NEDA) เข้าร่วมทริป “CSR & Press Tour 2017”เดินทางไปส่งมอบเครื่องเล่นเด็กให้กับโรงเรียนบ้านฮวก จ.พะเยา ปลื้มได้ตอบแทนสังคม ย้ำพนัสจัดกิจกรรม CSR นาน 7 ปีต่อเนื่อง ยันครั้งต่อไปส่งมอบเครื่องเล่นให้กับโรงเรียนบ้านบ่อ แขวงไซยะบุลี สปป.ลาว ภายในปลายปีนี้

พนัส จัดกิจกรรม CSR ต่อเนื่องทุกปี

ทั้งนี้ คุณพนัส วัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด กล่าวในโอกาสส่งมอบเครื่องเล่นให้กับโรงเรียนบ้านฮวก จ.พะเยาว่าก่อนอื่นต้องเล่าถึงที่มาที่ไปของกิจกรรมในครั้งนี้ เบื้องต้นนั้นทางพนัสเองได้รับการประสานจากคณะสื่อมวลชนและเนด้าว่ามีกิจกรรมนี้สนใจที่จะเข้าร่วมหรือไม่ ประกอบกับทางพนัสเองก็มีกิจกรรม CSR อย่างเช่นการส่งมอบเครื่องเล่นของเด็กเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว โดยที่เราทำมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6-7 ปีแล้ว เราจึงตอบรับและยินดีอย่างยิ่งที่เข้าร่วมกับกิจกรรมดังกล่าว

“จุดเริ่มต้นของทางพนัสสำหรับกิจกรรมส่งมอบเครื่องเล่นเด็กนี้ พนัสฯ เป็นบริษัทที่ผลิตรถพ่วง รถเทรลเลอร์ รถดัมพ์ ซึ่งในกระบวนการผลิตก็ย่อมมีเศษเหล็กเหลือเป็นจำนวนมาก ก็มาคิดกันว่าทำอะไรกันดีกับเศษเหล็กเหล่านี้ สุดท้ายก็มาลงเอยกันที่เครื่องเล่นของเด็กๆ เพื่อส่งมอบให้กับทางโรงเรียนและสถานศึกษาต่างๆทั่วประเทศที่ยื่นขอความอนุเคราะห์เข้ามา เรามองว่ากิจกรรมนี้เป็นการคืนกำไรให้กับสังคม ก่อนหน้านี้เราจัดทำและส่งมอบปีหนึ่งประมาณ 3-4 ครั้ง แต่ถึงตอนนี้ปีหนึ่งเราส่งมอบกว่า 10 ครั้ง จนกระทั่งปัจจุบันเศษเหล็กไม่เพียงพอด้วยซ้ำไป ซึ่งเราก็ไปซื้อเเหล็กมาทำ แต่กระนั้นเราก็ยินดีที่จะเสียสละอยู่แล้ว”

เสพ&ดื่มด่ำความสุขอันเกิดจากคำว่า “ให้”

นอกจากนี้ คุณพนัส กล่าวอีกว่ากิจกรรมนี้เป็นการบ่งบอกว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมีประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม และหากจะมองลึกลงไปก็ไม่ใช่แค่เพื่อสังคมอย่างเดียว เป็นการสะท้อนถึงตัวเราเองและพนักงานของเรา ที่ได้รู้จักการให้และเมื่อให้ไปแล้วก็มีใจที่ยินดีกับการให้นั้นๆ

“หากจะเปรียบเปรยกับงานด้านศิลปะก็ไม่ต่างกัน หลังรังสรรค์งานศิลปะเสร็จแล้วก็ได้ดื่มด่ำความสุขและสุนทรียภาพจากผลงานศิลปะที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับการประกอบเครื่องเล่นหลังการลงมือลงแรงสร้างเครื่องเล่นแล้วเสร็จ และถูกส่งมอบให้เป็นสาธารณะประโยชน์กับเด็กๆได้ใช้ประโยชน์แล้ว ผู้สร้างและผู้ให้ก็ย่อมเกิดปีติสุขจากการได้ให้ ถือว่าเป็นการเสพสุนทรียภาพและดื่มด่ำความสุขที่เกิดจากการเสียสละอีกอย่างหนึ่ง”

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการ “เสริมสร้างสังคมที่ดี”

คุณพนัส กล่าวย้ำในตอนท้ายว่าเมื่อเราเห็นเด็กๆได้เล่นเครื่องเล่นแล้วเขามีความสุขและมีรอยยิ้ม ผู้ให้เองก็อดไม่ได้ที่จะปลื้มใจ เพราะทุกคนรู้ดีว่าเด็กๆในวันนี้จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในวันข้างหน้า ทางเราเองมองว่าวิชาการอย่างเดียวคงไม่อาจเสริมสร้างให้เด็กๆเป็นคนดีได้ คงต้องพึ่งสังคมและสภาพแวดล้อมที่อุดมด้วยความสุขอย่างสมดุลด้วย จึงน่าจะเป็นส่วนสำคัญต่อการเสริมสร้างให้เด็กๆเป็นคนดีในอนาคตได้

“การส่งมอบเครื่องเล่นในวันนี้จะเป็นการเติมเต็มให้เด็กๆมีรอยยิ้ม ได้เล่นเครื่องเล่นพร้อมกับการได้อยู่กับเพื่อนๆของเขาด้วยความสุขและสนุกสนานตามวัยของเขา พร้อมกับเกิดความสุขในสภาพแวดล้อมที่ดี สุดท้ายนี้ผมเองในนามบริษัทพนัสฯขอให้กำลังใจครูบาอาจารย์ของโรงเรียนแห่งนี้ ได้มีแรงใจที่จะบ่มเพาะนักเรียนให้เป็นคนดีของสังคมต่อไปในอนาคต และขอขอบคุณทางโรงเรียน เนด้า และพี่น้องสื่อมวลชน ที่มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ และหวังว่าในอนาคตหากมีกิจกรรมเพื่อสังคมดีๆแบบนี้ เราเองก็ยินดีที่เข้าร่วมในโอกาสต่อไป

ยันคิวต่อไปส่งมอบเครื่องเล่นให้รร.บ้านบ่อ สปป.ลาว ปลายปีนี้

ขณะที่คุณณัชชา วงศ์คำภู ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด กล่าวเสริมว่าผลพวงจากกิจกรรมครั้งนี้ ซึ่งหลังจากได้ส่งมอบเครื่องเล่นของพนัสให้กับโรงเรียนบ้านฮวก ซึ่งอยู่ในฝั่งไทย จากนั้นเราก็ได้ร่วมทริปกับคณะของเนด้าเข้าไปฝั่งสปป.ลาวเพื่อร่วมส่งมอบอุปกรณ์การเรียนให้กับโรงเรียนบ้านบ่อ แขวงไซยะบุลี ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้อย่างที่ผู้ร่วมทริปทุกคนได้เห็นเป็นประจักษ์ต่อสายตาของตัวเองถึงสภาพของโรงเรียน ความพร้อมของครู อุปกรณ์การเรียน รวมถึงคุณภาพชีวิตของน้องๆนักเรียนว่าเขาขาดแคลนและมีวิถีชีวิตที่ยากลำบากขนาดไหน เราเองจึงอยากสานต่อผลสำเร็จจากการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมครั้งนี้ ด้วยความตั้งใจจริงจะกลับมาที่โรงเรียนบ้านบ่อนี้อีกครั้ง ซึ่งนั่นจะเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมครั้งต่อไปที่พนัสจะนำเครื่องเล่นต่างๆมาส่งมอบให้ภายในปีนี้

เห็นเจตนาและความตั้งใจจริงของพนัสแล้ว ก็น่ายินดีและยกย่องพร้อมกับกดไลท์กดแชร์ในฐานะองค์กรที่แม้จะมีผลประกอบการมากมายเพียงใด
….
แต่ก็ไม่ลืมที่จะ “คืนกำไรให้สังคม!”