พิสูจน์ศรัทธาและแรงใจกับบันได 1,250 ขั้น @ วัดพระขาว

0
910

กลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง สำหรับ “On Trips” ในฉบับนี้ น้องสุขใจ ขอพาพี่ๆ เข้าวัดเข้าวากันสักหน่อย อย่าเพิ่งแปลกใจหรือสงสัยกันไปนะครับ ว่า น้องสุขใจ จะให้พี่ๆ เข้าวัดฟังธรรมกันหรือเปล่า เอาเป็นว่า วัดแห่งนี้ต้องมีอะไรดีอย่างแน่นอน เพราะไม่อย่างนั้นน้องสุขใจคงไม่พาพี่ๆ มาทำความรู้จักกับสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน…ไม่ให้เป็นการเสียเวลา พี่ๆ ตามน้องสุขใจไปดูกันเลยดีกว่าครับว่า วัดแห่งนี้มีอะไรที่น่าสนใจ….ตามมาเลยครับ..!!!    

สำหรับสถานที่แห่งนี้ หากใครเป็นนักเดินทาง หรือต้องเดินทางผ่านเส้นทางสายอีสานเป็นประจำ ต้องสะดุดตากับองค์พระสีขาวองค์ใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่เชิงเขาอย่างแน่นอน เอ่ยมาแบบนี้หลายคนคงจะนึกออกและได้เห็นผ่านตากันมาบ้างนะครับ ในฉบับนี้เราจะไปทำความรู้จักกันว่าวัดแห่งนี้มีอะไรที่น่าสนใจและความเป็นมาของพระพุทธรูปองค์ใหญ่นั้นมีที่มาอย่างไรกัน….

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม หรือ วัดพระขาว ที่ชาวบ้านเรียกติดปาก ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ตามประวัติการสร้างเป็นวัดที่เกิดขึ้นมาจากดำริของ พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีร์เมธาจารย์ หรือ ท่านพ่อลี ที่จะสร้างวัดขึ้น ณ เชิงเขาสีเสียดอ้า ไปพร้อมๆ กับการสร้างพระพุทธรูปไว้บนเนินเขา แต่ท่านพ่อลี ยังมิได้สร้างพระพุทธรูปก็ได้มรณภาพไปเสียก่อน จึงทำให้ความตั้งใจที่จะสร้างพระพุทธรูปต้องหยุดชะงักไป จนกระทั่งบรรดาสานุศิษย์ ซึ่งนำโดย พลเอกพงษ์ ปุณณกันต์ ได้ร่วมกันสร้างพระพุทธรูปองค์ที่เห็นกันในปัจจุบันขึ้นมา โดยพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวได้ทำการขยายส่วนมาจากพระพุทธรูป ภปร. ภปร. หล่อด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด มีน้ำหนักถึง 3,000 ตัน หน้าตักกว้าง 27 เมตร โดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงจากระดับพื้นดิน 112 เมตรหรือ 56 วา ซึ่งหมายถึง พระพุทธคุณ 56 ประการ ส่วนความสูงขององค์พระ 45 เมตร หมายถึง พระพุทธองค์โปรดเวไนยสัตว์อยู่ 45 พรรษา หรือเรียกว่าทรงทำพุทธกิจอยู่ 45 พรรษา หลังจากที่ตรัสรู้แล้วทางขึ้นไปนมัสการองค์พระเป็นบันไดแยกออกสองข้าง เป็นรูปโค้งเว้าเหมือนขอบใบโพธิ์ นับรวมทั้งด้านซ้ายและขวาทั้งหมด 1,250 ขั้น ซึ่งหมายถึง จำนวนพระอรหันต์สาวกที่เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ในสมัยพุทธกาล

 

ทั้งนี้การสร้างพระพุทธรูปองค์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการน้อมเกล้าฯ ถวายโดยพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เป็นพระบรมราชานุสรณ์พิเศษ โดยได้มีการบังคมทูลขอพระราชทานนามพระพุทธรูป และพระราชทานพระปรมาภิไธยย่อ ของทั้งสองพระองค์อันเชิญประดิษฐานที่พระพุทธรูปด้วย และทรงพระราชทานนามพระพุทธรูปว่า “พระพุทธสกลสีมามงคล” นับเป็นพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยชาวบ้านทั่วไปมักจะเรียกว่าพระพุทธรูปองค์นี้ว่า หลวงพ่อขาว หรือ หลวงพ่อใหญ่ โดยเป็นพระพุทธรูปในพระอิริยาบทนั่งปางประทานพรสีขาวขนาดใหญ่

นอกจาก หลวงพ่อขาว ที่เด่นเป็นสง่า และเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไปและผู้ที่ต้องเดินทางผ่านบนถนนมิตรภาพแล้ว ภายในวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ยังสถานที่สำคัญต่างๆ อีกมากมาย เช่น ถ้ำต่างๆ พระตำหนักสมเด็จ พระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ และสวนป่าเจ้าแม่กวนอิม ให้ได้เข้ามาเยี่ยมชมกัน และที่จะลืมไม่ได้ก็คือการมากราบสักการะหลวงพ่อขาว โดยทางเดินที่จะขึ้นไปนมัสการพระพุทธสกลสีมามงคล จะเป็นบันไดทางขึ้น 2 ด้าน โดยมีบันไดรวมกันทั้งสิ้น 1,250 ขั้น งานนี้เห็นทีใครแรงขาไม่ดี มีได้นั่งพักตลอดทางอย่างแน่นอน

 

สำหรับการเดินบันไดเพื่อขึ้นไปกราบสักการะหลวงใหญ่ทางด้านบนนั้น ต้องยอมรับว่าเล่นเอาน้องสุขใจหอบเหนื่อยกันตลอดทางเลยทีเดียว เนื่องจากการเดินแม้จะไม่ได้ยากลำบากมากสักเท่าไหร่ เพราะทางวัดทำบันไดปูนอย่างดีให้ได้เดินขึ้นไปข้างบน แต่ด้วยระยะทางที่ไกลพอสมควร ใครไม่แข็งแรงพออาจถอดใจก็เป็นได้ แต่หากเรามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จก็ไม่มีอะไรที่ยากเกินใจเราอย่างแน่แท้ โดยตลอดทางเดินจะผ่านต้นไม้ที่ค่อยให้ร่มเงาบังแสงแดดและความร้อนที่ส่องลงมาแผดเผาตัวเรา นอกจากนั้นยังมีศาลาตั้งเป็นจุดๆ ตลอดระยะทางไว้ให้นั่งพักให้หายเหนื่อย ที่สำคัญยังได้นั่งพักมองวิวทิวทัศน์ ที่ถอดยาวสุดลูกหูลูกตา

 

และเมื่อถึงจุดบนสุดอันเป็นที่ตั้งของหลวงพ่อใหญ่ เรียกได้ว่าความเหน็ดเหนื่อยทั้งหลายทั้งปวงจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง นั่นเพราะว่าวิวด้านบนที่ได้เห็นด้วยสองตานั้นมองได้รอบในระยะ 180 องศากันเลยทีเดียว  งานนี้ใครยังไม่เคยมา หรือเห็นแต่ในรูปอยากมาเห็นของจริง ขอเชิญพี่ๆ นะครับ ครั้งหนึ่งที่ได้มากราบสักการะหลวงพ่อใหญ่ เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต ที่สำคัญวัดแห่งนี้เงียบสงบเป็นอย่างมาก ใครอยากปลีกวิเวกขอแนะนำวัดแห่งนี้กันเลยครับผม…..มาแล้วจะติดใจไม่รู้ลืมนะขอรับ..!!!