ท่าอากาศยานเสียงแข็ง ย้ำไม่ได้กลั่นแกล้งสั่งย้ายผอ.เบตง

0
69

ตามที่ปรากฏเป็นข่าวถึงกรณีที่กรมท่าอากาศยาน (ทย.) มีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการท่าอากาศยานนราธิวาส รักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานเบตง โดยมีการสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องและพาดพิงกล่าวหาถึงที่มาของคำสั่งในเชิงการกลั่นแกล้งจากฝ่ายการเมือง ทำให้ข้าราชการตกเป็นแพะรับบาป ไม่เป็นความจริง นั้น

ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในคำสั่งดังกล่าว เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดระเบียบท่าอากาศยานเบตงว่าด้วยการควบคุมยานพาหนะในเขตการบิน พ.ศ. 2563ตามมาตรฐานความปลอดภัยอากาศยาน ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 3 ประเด็น คือ

  1. การนำยานพาหนะที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปในลานจอดอากาศยาน โดยผู้ขับขี่ที่มิใช่ผู้ให้บริการภาคพื้นภายในลานจอดอากาศยานซึ่งผ่านการฝึกอบรมการขับขี่และการควบคุมยานพาหนะภายในลานจอดอากาศยานจากบริษัทผู้ดำเนินการเดินอากาศ หรือบริษัทผู้ให้บริการภาคพื้น เข้าไปรับผู้โดยสารและ/หรือสิ่งของที่มากับอากาศยานภายในลานจอดอากาศยานและอยู่ในระยะใกล้ชิดกับอากาศยานโดยไม่มีเหตุอันควรที่จำเป็นหรือเหตุฉุกเฉิน จึงถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับอากาศยานและ/หรือ ผู้ปฏิบัติงานภาคพื้นภายในบริเวณลานจอดอากาศยานซึ่งตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย และการรักษาความปลอดภัยภายในลานจอดอากาศยาน
  2. การอ้างว่ามีผู้โดยสารที่เจ็บป่วยหรือเดินเท้าด้วยตนเองไม่ได้ จึงนำรถไปรับในลานจอด ซึ่งข้อเท็จจริงสามารถประสานขอใช้รถเข็น (WHEELCHAIR ) จากผู้ให้บริการภาคพื้นเป็นผู้ดำเนินการ การปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการท่าอากาศยานเบตงโดยมีการละเลยหรือไม่มีการควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปเพื่อความปลอดภัย ซึ่งการที่ผู้พิการหรือผู้สูงอายุไม่สามารถเดินได้ด้วยตัวเองเจ้าของอากาศต้องแจ้งให้สนามบินทราบเพื่อทำการเตรียมรถเข็นที่ผ่านขบวนการตรวจสอบทางด้านการรักษาความปลอดภัยแล้วเท่านั้นที่ไปรับผู้โดยสารได้ หากไม่มีการร้องขอแล้วพบว่ามีพาหนะหรืออุปกรณ์ใดๆที่นำเข้าไปรับผู้พิการหรือผู้สูงอายุแล้วยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยสนามบินต้องทำการยับยั้งและหยุดการกระทำของพาหนะหรืออุปกรณ์นั้นๆโดยทันทีเพื่อเข้าขบวนการตรวจสอบหรือขบวนการอนุญาตต่อไป
  3. การขนสัมภาระจำนวนมากที่มากับอากาศยานเช่าเหมาลำ ไม่มีการประสานให้ได้รับการตรวจสอบจากท่าอากาศยานเบตงก่อน อนึ่งการขนบุคคลหรือสิ่งของที่มากับอากาศยานจะต้องดำเนินการโดยผู้ที่มีหน้าที่ให้บริการภาคพื้นและได้รับอนุญาตจากสนามบินให้เข้าทำการได้ภายในเขตลานจอดอากาศยานเท่านั้น ในกรณีสัมภาระที่มากับอากาศยานเช่าเหมาลำแล้วจะนำหรือขนสัมภาระนั้นออกจากสนามบินเจ้าของอากาศยานต้องแสดงหลักฐานรายการสัมภาระพร้อมการรับรองการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยจากสนามบินต้นทางก่อน หากไม่มีการกระทำดังกล่าว สนามบินปลายทางต้องทำการตรวจสอบสัมภาระนั้นตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยสนามบิน

ทั้งนี้ การกำกับมาตรการดูแลบุคคลและยานพาหนะภายในเขตพื้นที่การบินจึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้จัดการสนามบินเบตง ซึ่งในกรณีหมายถึงผู้อำนวยการท่าอากาศยานเบตง ที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในการควบคุมดูแลมิให้บุคคลหรือยานพาหนะฝ่าฝืนข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย

ดังนั้น การออกคำสั่งดังกล่าวจึงไม่มีเจตนากลั่นแกล้งผู้ใด หากแต่เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนของการตรวจสอบอย่างถูกต้องเหมาะสม และท่าอากาศยานเบตงยังคงสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ ทย. อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ยืนยันพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย