รัฐปรับภาษีน้ำเมาใหม่ ดีเดย์ 16 ก.ย. ยันไม่กระทบผู้บริโภค

0
227

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.กระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่จ.นครราชสีมา(ครม.สัญจร) ถึงความคืบหน้าการจัดเก็บอัตราภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใหม่ตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ภาษีสรรพสามิตที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ว่า จะนำเข้าที่ประชุมครม.ในช่วงต้นเดือน ก.ย.นี้ เนื่องจากมีผลต่อการกักตุนสินค้าจึงไม่ได้นำมาให้ ครม.พิจารณาพร้อมกับภาษีตัวอื่นและหลีกเลี่ยงการกำหนดภาษีล่วงหน้านานเกินไป ซึ่งเชื่อว่าอัตราภาษีที่จะออกมาจะไม่กระทบผู้บริโภคอย่างแน่นอน
“ส่วนกรณีมีกระแสข่าวการวิ่งเต้นจากบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ ในการกำหนดเพดานภาษีของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิดนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง บริษัทไหนจะเข้ามาให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบไม่ได้ การกำหนดอัตราภาษีจะต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเอาไว้”

ส่วนนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ เรื่องโครงสร้างอัตราภาษีสินค้าและบริการ ซึ่งนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ขอแถลงในรายละเอียดภายใน 1-2 วันหลังครม.เห็นชอบ

“สาระสำคัญของการปรับปรุงกฎหมาย คือ การปรับปรุงหลักการจัดเก็บ ซึ่งจะปรับเปลี่ยนวิธีการคำนวณจากราคาหน้าโรงงานสำหรับสินค้าทั่วไป และราคาซีไอเเอฟสำหรับสินค้านำเข้าเป็นราคาขายปลีกแนะนำสำหรับทุกรายการสินค้าเพื่อให้การจัดเก็บภาษีมีความเป็นธรรมโปร่งใสและเป็นสากลมากขึ้น

ทั้งนี้ อัตราการจัดเก็บที่ปรากฏใน พ.ร.บ.ฉบับใหม่ เป็นอัตราเพดานที่จะใช้การจัดเก็บ แต่อัตราการจัดเก็บจริงนั้น ทางกรมฯจะมีการประกาศเป็นระเบียบและเป็นกฎกระทรวงอีกครั้ง ซึ่งอัตราการจัดเก็บจริงจะต้องต่ำกว่าอัตราเพดาน โดยเมื่อนำมาคำนวณกับวิธีการจัดเก็บบนฐานอัตราการขายปลีกแนะนำแล้ว จะไม่แตกต่างจากอัตราการจัดเก็บในปัจจุบันมากนัก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ไม่ต้องการให้วิธีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตแบบใหม่สร้างภาระให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภค”

ทั้งนี้ ภายใต้ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ที่ใช้ราคาขายปลีกแนะนำเป็นฐานในการคำนวณภาษีสรรพสามิตนั้น ราคาขายรถยนต์ของผู้นำเข้าอิสระ (grey market) จะต้องมีราคาไม่ต่ำกว่า 85% ของราคารถยนต์นั้นๆ ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการขายให้แก่ผู้บริโภค หมายความว่า ราคารถยนต์ของผู้นำเข้าอิสระจะต่ำกว่ารถยนต์ของผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการไม่เกิน 15% เท่านั้น

“สาเหตุที่กรมฯยอมให้ราคารถยนต์ของเกรย์ มาร์เก็ตต่ำกว่าผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการในสัดส่วนดังกล่าวเนื่องจากผู้นำเข้าอิสระ จะมีค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจต่ำกว่าผู้นำเข้าที่เป็นทางการ เช่น ต้นทุนค่าแรงต่ำกว่าบางรายเป็นการขายขาด ไม่มีบริการหลังการขาย เป็นต้น สำหรับรถยนต์ที่ขายโดยดีลเลอร์อย่างเป็นทางการ จะใช้ราคาที่ปรากฏในโบรชัวร์ หรือ eco sticker เป็นฐานในการคำนวณภาษีสรรพสามิต”

ในกรณีสินค้าประเภทอื่นที่ไม่ใช่รถยนต์ เช่น เครื่องดื่ม ทั้งที่เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น น้ำอัดลม หรือบุหรี่ ซึ่งมีภาระที่ต้องจ่ายภาษีสรรพสามิตนั้น กรมฯ จะทำการสำรวจราคาสินค้าในแต่ละประเภทจากแหล่งจำหน่ายรูปแบบต่างๆ เช่น ราคาในร้านโชห่วย ร้านค้าปลีกเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นต้น ส่วนใหญ่สินค้าชนิดนั้นๆขายในราคาเท่าไรแล้วกำหนดเป็นฐานนิยม(Mode)ของสินค้าตัวนั้น  หากผู้ประกอบการที่ใช้ราคาขายปลีกต่ำกว่าราคาที่เป็นฐานนิยมของกรมสรรพสามิต กรมฯมีอำนาจสั่งให้เพิ่มราคาขายปลีกให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 95% ของราคาฐานนิยม แต่ทั้งนี้จะต้องพิจารณาข้อเท็จจริงก่อนว่าราคาขายปลีกของสินค้าตัวนั้นในตลาดขายในราคาเท่าไร

ขณะที่นายธนากร คุปตจิตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อรัฐประกาศอัตราภาษีสรรพสามิตออกมาแล้ว ผู้ประกอบการจะนำไปใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษี จากการปรับเกณฑ์การคำนวณจากราคาขายส่งช่วงสุดท้าย เป็นราคาขายปลีกแนะนำ ซึ่งเป็นราคาที่ผู้ประกอบการประสงค์จะจำหน่ายแก่ผู้บริโภคทั่วไป เป็นราคาแนะนำจริงในตลาด โดยไม่ใช่ราคาที่ใช้ในการส่งเสริมการขายหรือโปรโมชั่น ตลอดจนราคาที่มีเงื่อนไขการขาย เป็นต้นโดยการเสนอราคาขายปลีกแนะนำจะพิจารณาจากต้นทุนการผลิต รวมกับการบริหารจัดการ การทำตลาดและประชาสัมพันธ์ ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลยืนยันคือ จะประกาศโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ให้กับกลุ่มรถยนต์ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรม มีสุราและยาสูบที่จะไม่ประกาศก่อน 16 ก.ย.นี้แน่นอน เพื่อป้องกันการกักตุน