“ยูดี ทรัคส์” เผยโฉม 2 รุ่นใหม่ ขานรับ Smart Logistics 

0
769

หลังเปิดตัวพี่ใหญ่ “ยูดี เควสเตอร์” กระหึ่มเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในปี 2556 พร้อมยึดไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกไปยังกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ถัดมาอีก 4 ปีก็ได้ฤกษ์เปิดตัวน้องชายสุดหล่อเจ้าของฉายานาม “เทพเจ้าแห่งการเวลา”อย่างเจ้ายูดี โครเนอร์ เขย่าสมรภูมิรถบรรทุกขนาดกลางเมืองไทย

ล่าสุด (30 มิ.ย.2561)ยูดี ทรัคส์ (ประเทศไทย) ค่ายรถบรรทุกพันธุ์แกร่งจากแดนซามูไร ได้แนะนำรถบรรทุกใหม่พร้อมกัน 2 รุ่นรวด ได้แก่ ยูดี เควสเตอร์ 2018 และ ยูดี โครเนอร์ The new extension 6X2 ในงาน ‘Smart Trucks Smart Logistics’ พร้อมกับเปิดให้ลูกค้าและพี่น้องสื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบสมรรถนะการขับขี่ทั้ง 2 รุ่น ณ สนามแข่งรถแก่งกระจานเซอร์กิต จ.เพชรบุรี

โดย 2 ผู้บริหารระดับสูง ได้ถือโอกาสนี้เผยภาพรวมตลาดรถใหญ่หลังผ่าน 5 เดือนแรกของปี ตลอดถึงแจงรายละเอียดการเปิดตัว 2 รุ่นใหม่ให้กับลูกค้า พันธมิตรธุรกิจ และพี่น้องสื่อมวลชนได้รับทราบ

 

ตอบโจทย์ Smart Logistics 

คุณกําลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ ยูดี ทรัคส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่าภายหลังยูดี ทรัคส์ ได้เปิดตัวรถบรรทุกขนาดใหญ่ ยูดี เควสเตอร์ ครั้งแรกในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2556  พร้อมใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกไปทั่วโลก ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวเป็นอย่างดียิ่ง ถัดมาอีก 4 ปีคือปีที่แล้ว เราก็ได้ทำการเปิดตัวน้องใหม่ ยูดี โครเนอร์ รถบรรทุกขนาดกลางปี ถือเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องของยูดี ทรัคส์ ทำให้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายทุกอุตสาหกรรมตั้งแต่กิจการขนส่งระยะไกล ไปจนถึงการขนส่งในเมือง หรือระหว่างเมือง และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบธุรกิจงานขนส่ง ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในท้องตลาด

“เพื่อตอบโจทย์ Smart Logistics หรืองานขนส่งยุคใหม่ที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน วันนี้เราจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ ยูดี ทรัคส์ให้คุ้มค่ายิ่งขึ้น โดยในรุ่นเควสเตอร์ 2018 เรามีการปรับปรุงโครงสร้างแชสซีส์ให้มีน้ำหนักรวมเบาลงเพื่อให้บรรทุกสินค้าได้มากขึ้น ขณะที่โครเนอร์ The new extension 6×2 ซึ่งนอกจากจะเป็นรถบรรทุกที่มีโครงสร้างแชสซีส์น้ำหนักเบาแล้ว เราได้เพิ่มฟีเจอร์เด่นๆเพื่อสนับสนุนงานขนส่งสินค้าให้สะดวกสบาย ประหยัดต้นทุน และปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยมีการเพิ่มถุงลมยกเพลาพร้อมเซ็นเซอร์จับน้ำหนักอัตโนมัติ ช่วยลดภาระพนักงานขับรถ ในช่วงจังหวะที่จำเป็นต้องขับขี่แบบไร้น้ำหนัก ทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ลดการสึกหรอของยาง และยังมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลม ช่วยให้สินค้าได้รับการขนส่งอย่างทะนุถนอม และไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย”

นอกจากนี้ คุณกำลาภ กล่าวต่อว่าการแนะนำรถรุ่นใหม่เพิ่มเติมทั้งสองรุ่นนี้ จะทำให้รถบรรทุก ยูดี ทรัคส์ สามารถเจาะเข้ากลุ่มลูกค้าที่หลากหลายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโครเนอร์ The new extension 6X2 จะเน้นกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ต้องขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมากและต้องการความคล่องตัวมากกว่ารถบรรทุกสิบล้อทั่วไป ขนส่งได้ทั้งในรูปแบบตู้ขนส่งสินค้าทั่วไป และแทงค์น้ำมันหรือสินค้าปิโตรเคมี

ทางด้าน มร.ฟิลลิป แวนเดอฮีท รองประธานฝ่ายขายและการตลาด หน่วยงาน Group Trucks Asia & JVs ได้กล่าวถึงการสนับสนุนในงานเปิดตัวครั้งนี้ว่า ประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดหลักสำหรับรถบรรทุกยูดี         เควสเตอร์ และโครเนอร์ และยังเป็นฐานการผลิตขนาดใหญ่ของรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ เพื่อส่งออกไปยังกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยมีกำลังการผลิตสูงถึง 20,000 คันต่อปี

“เรายังเห็นความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆของตลาดอื่นๆทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นตลาดในประเทศทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลาดตะวันออกกลาง ตลาดแอฟริกา และตลาดลาตินอเมริกา การที่เราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนสำคัญมาจากความตระหนักถึงความสำเร็จของลูกค้าคือความสำเร็จของเรา การก้าวไปได้ไกลกว่าคู่แข่ง คือความภาคภูมิใจและดีเอ็นเอที่มีอยู่ในความเป็นตัวตนของยูดี ทรัคส์ และการมีส่วนสำคัญช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าไปได้ไกล ถือเป็นจิตวิญญาณการทำงาน ยูดี เกมบะ ของพนักงานยูดี ทรัคส์ทุกคน”

คาดสิ้นปีรถใหญ่คาดการณ์โต 8%

อย่างไรก็ดี คุณกำลาภ ปิดท้ายถึงภาพรวมตลาดใหญ่หลังผ่าน 5 เดือนแรกว่ากล่าวการเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ดี เนื่องจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่มีการคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตในไตรมาสแรกสูงถึง 4.8% ทำให้มีการปรับเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้เพิ่มจากเป้าหมายเดิม 4% มาเป็น 4.5% และตลาดรถใหญ่ปีนี้ส่งสัญญาณที่ดีใน 5เดือนแรก คาดว่าหากตลาดยังดำเนินไปด้วยดีเช่นนี้ ณ สิ้นปี รถบรรทุกขนาดใหญ่น่าจะเติบโตถึง 8% และรถบรรทุกขนาดกลางน่าจะเติบโตถึง 12% มากกว่าที่ได้เคยคาดการณ์ไว้ที่ 5% เมื่อช่วงต้นปีในภาพรวมของ ยูดี ทรัคส์

“ตัวเลขจดทะเบียนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วสำหรับตลาดรถบรรทุกขนาดใหญ่ มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 13% และมีส่วนแบ่งตลาด 5% และรถบรรทุกขนาดกลางมีส่วนแบ่งตลาด 1% ภายหลังจากการเปิดตัวรถยูดี ทรัคส์ ทั้งสองรุ่นใหม่นี้แล้ว จำนวนยอดขายของยูดี ทรัคส์ น่าจะเติบโตมากขึ้นอย่างแน่นอน”