ย้อนรอย!เคล็ดลับความสำเร็จ MAN จากรุ่นสู่รุ่นคว้ารางวัล Truck of the Year

0
108

เป็นเวลากว่า 100 ปีตั้งแต่แบรนด์ MAN(เอ็ม เอ เอ็น) เริ่มต้นผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขึ้นครั้งแรกในโรงงานประกอบขนาดเล็กๆในประเทศเยอรมนี เดินหน้าคิดค้น พัฒนา เครื่องยนต์ และนวัตกรรมใหม่ๆ และด้วยมาตรฐานความแข็งแกร่งรอบด้าน สมรรถนะที่ทนทาน ผสานการขับเคลื่อนทรงพลัง ที่แบรนด์ เอ็ม เอ เอ็น ได้คงไว้ในรถบรรทุกหลายต่อหลายรุ่น นับเป็นเอกลักษณ์สะท้อนถึงความเป็นผู้นำในวงการรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ระดับโลก ส่งผลให้ รถบรรทุก เอ็ม เอ เอ็น หลายต่อหลายรุ่นได้รับรางวัลการันตี ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านสมรรถนะที่โดดเด่น การขับขี่ที่สะดวกสบาย ปลอดภัย ความสวยงาม รวมถึงการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า

จุดพลุความสำเร็จปี 1978 ด้วยพญาราชสีห์น้อย 19.280

โดยความสำเร็จอันน่าจดจำของเอ็ม เอ เอ็น เริ่มต้นขึ้นในปี 1978 เมื่อ รถบรรทุก เอ็ม เอ เอ็นขนาดเล็ก รุ่น 19.280 ได้รับคัดเลือกให้เป็น Truck of the Year ด้วยความทรงพลังของเครื่องยนต์ที่แรงกว่า 280 แรงม้า ผสานกับสมรรถนะที่ประหยัดน้ำมัน ทำให้รถบรรทุก เอ็ม เอ เอ็น รุ่นนี้ แม้จะเป็นรุ่นขนาดเล็ก แต่ก็ทรงพลังและมีประสิทธิภาพเหมือนกับรถบรรทุกขนาดทั่วไป

ปี 1987 คำรามก้องยุโรปด้วยเครื่องยนต์ทรงพลังกว่า 500 แรงม้า

หลังจากที่ เอ็ม เอ เอ็น ประกาศศักดาด้วยความแข็งแกร่งและทรงพลังที่ไม่แพ้ใคร เอ็ม เอ เอ็น ยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อที่จะออกแบบและพัฒนารถบรรทุกรุ่นใหม่ๆ ที่ยังคงความแข็งแกร่ง ทนทาน เอกลักษณ์ของเอ็ม เอ เอ็น ทำให้ในปี 1987 รถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็น รุ่น F90 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น Truck of the Year ด้วยความแข็งแกร่งของเครื่องยนต์ที่พัฒนามาจาก รถบรรทุกรุ่น F8 series สู่เครื่องยนต์อันทรงพลังสูงสุดกว่า 500 แรงม้า นับว่าทรงพลังที่สุดในยุโรปในช่วงเวลานั้น

ตอกย้ำผู้นำในปี 2001 ด้วย MAN รุ่น TGA

และเมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคปี 2000 เอ็ม เอ เอ็นได้รับความไว้วางใจในฐานะผู้นำด้านการผลิตยานยนต์เพื่อการพาณิชย์และให้บริการขนส่งทั่วยุโรป และได้สร้างปรากฎการณ์ที่น่าตื่นเต้นอีกครั้งให้กับวงการรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ เมื่อรถบรรทุกรุ่น TGA ซึ่งเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่รุ่นใหม่ล่าสุดที่เอ็ม เอ เอ็น เปิดตัวในช่วงเวลานั้น ได้รับรางวัล Truck of the Year และ iF Product design award ในปี 2001 ซึ่ง รถบรรทุก เอ็ม เอ เอ็น รุ่น TGA เป็นรุ่นที่ยกระดับมาตรฐานของรถบรรทุกแบรนด์ เอ็ม เอ เอ็น ด้วยการออกแบบพื้นที่หัวรถให้มีขนาดที่กว้างขึ้น โดยมีทั้งหมด 5 ขนาด ตั้งแต่ขนาด M – XXL เพิ่มความสะดวกสบายและพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง และยังผสานเทคโนโลยีและระบบไฟภายในห้องโดยสารให้มีความทันสมัย รวมถึงระบบต่างๆที่เพิ่มความปลอดภัยให้แก่คนขับอีกด้วย

อีก 7 ปีถัดมาประกาศศักดาด้วยพี่เบิ้ม 2 รุ่นใหม่ TGX ,TGS

MAN สร้างความสำเร็จครั้งใหม่กับระบบขนส่งระหว่างประเทศอัตโนมัติด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ 2 รุ่นใหม่ TGX และ TGS ในฐานะรุ่นที่สืบทอดมาจากรุ่น TGA รถรุ่นใหม่นี้ได้รับรางวัล “Truck of the Year ในปี 2008 และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล German Design Award รถบรรทุกรุ่น V8 มีกำลัง 680 แรงม้าเป็นรถบรรทุกรุ่นที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป

ปี 2021เฉิดฉายด้วยพี่ใหญ่ TGX รุ่นใหม่“ทันสมัย-ใช้งานง่าย”

และล่าสุดเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา รถบรรทุกแบรนด์เอ็ม เอ เอ็น รุ่น TGX รุ่นใหม่ ได้คว้ารางวัล International Truck of The Year 2021 พร้อมได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล German Design Award อีกด้วย ถือเป็นอีกรุ่นไฮไลท์ที่ได้รับการยอมรับในด้านสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและใช้งานง่าย รวมถึงผ่านการทดสอบและได้รับการรับรองในด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่มอบความคุ้มค่าเพิ่มขึ้นกว่า 8.2% เมื่อเทียบกับรุ่นส่งออกอื่นๆ

บนเส้นทางความสำเร็จเน้น 3 เรื่องหลัก

โดยตลอดเส้นทางความสำเร็จที่ผ่านมา เอ็ม เอ เอ็น ให้ความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับมาตรฐานรถบรรทุกของเอ็ม เอ เอ็น ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ชั้นนำ เหนือชั้นด้วยการเป็นหนึ่งในด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์ การประหยัดน้ำมัน และความทนทาน โดยเอ็ม เอ เอ็น ให้ความสำคัญกับการค้นคว้าและวิจัยใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ การขับขี่อัตโนมัติ (automated driving) การเชื่อมต่อสื่อสาร (connectivity) รวมถึงการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยให้รถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็น สามารถออกตัวได้แรง วิ่งได้เร็ว แต่ลดการใช้พลังงานน้ำมันและลดปริมาณไอเสีย ควบคู่ไปกับการรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย ดีไซน์ที่โดดเด่นและสมรรถนะเครื่องยนต์ที่แรงเหนือใคร

ใส่ใจบริการหลังการขายสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า  

นอกจากนี้ เอ็ม เอ เอ็น ยังใส่ใจกับบริกาหลังการขายที่มุ่งตอบโจทย์ความคุ้มค่าและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าผู้ประกอบการและคนขับ โดยปัจจุบัน เอ็ม เอ เอ็น มีบริการ Onsite Service ซ่อมบำรุงรักษาให้บริการถึงที่ทั่วประเทศไทย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าซ่อมบำรุงแต่ละครั้ง ฟรีสัญญาบริการบำรุงรักษา COMFORT เป็นระยะเวลา 3 ปี หรือ 300,000 กิโลเมตร และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 24 เดือนไม่จำกัดระยะทาง นอกจากนี้ เอ็ม เอ เอ็น ยังมีการรับประกันคุณภาพของอะไหล่ 24 เดือน โดยไม่จำกัดระยะทาง ให้ลูกค้ามั่นใจและได้ใช้อะไหล่ที่มีคุณภาพ คุ้มค่าคุ้มราคา ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาจุกจิกหรือการใช้งานในระยะยาว