DCVT ส่งมอบหัวลากฟูโซ่  40 คัน เสริมทัพขนส่งให้กับราชสีมาเดคส์ฯ

0
571

หลังค่ายรถใหญ่ฟูโซ่ได้ฤกษ์ปรากฏโฉมใหม่ภายใต้อ้อมอกบริษัท เดมเลอร์ คอมเมอร์เชียล วีฮีเคิลส์ (ประเทศไทย) จํากัด หรือ DCVT หนึ่งในบริษัทลูกเดมเลอร์ยักษ์ใหญ่ยนตรกรรมระดับโลกจากเยอรมัน ภายใต้การกุมบังเหียนของ “มร.ซาช่า ริคาเน็ค”  ประธานกรรมการบริหารของดีซีวีทีเป็นคนแรก ที่ประกาศชัดถึงความมุ่งมั่นเพื่อสร้างความแข็งแกร่งสู่ตลาดประเทศไทยอย่างกึกก้องภายในงานมหกรรมรถบรรทุกนานาชาติเมื่อปี 2017

นัยสำคัญต่อการขยับครั้งนั้นถูกจับจ้องเป็นพิเศษจากผู้ประกอบการตัวพ่อในแวดวงรถใหญ่เมืองไทยว่ายี่ห้อฟูโซ่ภายใต้ชายคาหลังใหม่จะไฉไลและมียอดขายพุ่งกระฉูดอย่างที่คาดหวังหรือไม่?หรือจะพลิกโฉมไปจากครรลองบ้านหลังเก่าหรือไม่?

แม้ภาพรวมทั้งปี 2017 ดูเหมือนจะไม่สดใสอย่างที่คาดการณ์กับยอดขาย 300 คัน เหตุถูกรุมเร้าด้วยอุปสรรคนานาประการ และเป็นโจทย์ที่ MCVT ต้องกลับไปคิดทบทวนและทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิม แต่ปี 2018 กับเป้าหมายยอดขายถึง 1 พันคัน ถือเป็นยอดขายที่ท้าทายและรอการพิสูจน์

ล่าสุด ดูเหมือนปี 2018 จะเป็นการเริ่มต้นที่ดีเมื่อ DCVT ได้ทำการส่งมอบรถบรรทุกหัวลากฟูโซ่รุ่น FZ 4928TT จำนวน 40 คัน เสริมทัพรถใหญ่ของ บริษัท ราชสีมา เดคส์ จำกัด บริษัทในเครือ บริษัท ศิลาบริการขนส่ง จำกัด ผู้นำด้านการขนส่งผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภค ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยบริษัท ไทยยนต์ทรัค แอนด์ เทลเลอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายของ DCVT จะทำการส่งรถเป็น 2 ล็อตใหญ่ ครั้งแรกกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและจะมีการส่งมอบรถที่เหลือในเดือนมีนาคม

ทั้งนี้ มร.ซาช่า ริคาเน็ค ประธานกรรมการบริหาร DCVT เปิดเผยว่าMCVTมีความภูมิใจที่ได้สนับสนุนการเติบโตของภาคการขนส่งในประเทศไทยด้วยรถฟูโซ่ที่หลากหลายสำหรับการใช้งานขนส่งที่ต่างกัน และตัวแทนจำหน่ายมีความพร้อมด้านบริการหลังการขาย ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศอย่างต่อเนื่อง

“ความสำเร็จอย่างวันนี้ เกิดจากการทำงานอย่างหนักของตัวแทนจำหน่ายของเรารวมถึงลูกค้าทุกๆท่าน ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่ท้าทายในภูมิภาค  DCVT พยายามเลือกรุ่นรถและบริการเสริมต่างๆเพื่อสร้างคุณค่าและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในทุกภาคอุตสาหกรรม รถหัวลากรุ่น FZ เป็นโมเดลที่น่าสนใจ และมีต้นทุนค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งาน(TCO) เหมาะสมคุ้มค่าต่อการใช้งานส่วนใหญ่ของลูกค้าในประเทศไทย”

กับยอดขาย 1 พันคันในปีนี้ดูเหมือนจะไกลเกินเอื้อม แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ กาลเวลาเท่านั้นจะเปฺ็นเครื่องพิสูจน์