รพ.พญาไท 3 รุกตลาดการแพทย์ เน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน

0
623

หากพูดถึงเรื่องของการแพทย์ในยุคปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าวิวัฒนาการทางด้านต่างๆ มีการพัฒนาไปอย่างก้าวไกล โดยเฉพาะเทคโนโลยีในการรักษา ที่ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องอยู่โรงพยาบาลนานเหมือนแต่ก่อน และแผลจากรักษาก็ยังมีขนาดที่เล็กลง ยิ่งมาในยุค 4.0 ที่เน้นหนักในเรื่องของการนำเทคโนโลยีด้านต่างมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น ก็ยิ่งทำให้โรงพยาบาลต่างๆ ต้องมีการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

เช่นเดียวกับ โรงพยาบาลพญาไท 3 ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาผนวกใช้กับการรักษาอาการเจ็บป่วยของคนไข้ รวมไปถึงเทรนด์การดูแลสุขภาพของผู้คนในปัจจุบัน จึงได้ดำเนินการเปิดศูนย์ PWA LIFE CENTER ขึ้นมา ซึ่งเป็นศูนย์ที่เน้นการดูแลสุขภาพโดยองค์รวมแบบป้องกัน และเทคโนโลยีทางด้านการรักษา ในส่วนของเทคนิคการลดปวดหลังการผ่าตัด เพื่อรองรับกลุ่มผู้เข้ามาใช้บริการภายในโรงพยาบาล สนองตอบนโยบายรัฐ ไทยแลนด์ 4.0

นายศุภกร พะวันนา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโรงพยาบาลพญาไท 3 เปิดเผยถึงแนวทางของการบริหารงานในปี 2560 ว่า โรงพยาบาลพญาไท 3 ในปีนี้เราเน้นบริหารงานทางด้านสุขภาพในแง่ของการรับรู้ของประชาชน ซึ่งสาเหตุที่เราเน้นไปในเรื่องของการรับรู้ในเรื่องของสุขภาพ นั่นเป็นเพราะว่า ทางโรงพยาบาลอยากให้ประชาชนได้ตระหนักถึงเรื่องของการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการดูแลสุขภาพของคนในยุคปัจจุบัน ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลได้เริ่มจัดตั้งศูนย์วัคซีนเซ็นเตอร์ขึ้นเป็นแห่งแรกของพื้นที่ฝั่งธนบุรี ศูนย์แห่งนี้จะดูแลในเรื่องของวัคซีนแบบครบวงจร ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี

ศุภกร พะวันนา ผอ.ฝ่ายการตลาด รพ.พญาไท 3 (ด้านซ้าย) นพ. สุรพล โล่ห์สิริวัฒน์ ผอ. รพ.พญาไท 3 (ด้านขวา)

“หลังจากที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของศูนย์วัคซีนแล้ว จึงทำให้ในปีนี้เรามองว่าคงจะไม่หยุดที่จะพัฒนาเพียงเท่านี้ เราจึงมองไปในเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการสร้างการรับรู้ให้ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพในเชิงป้องกัน การสร้างสมดุลให้กับชีวิตก็ดี รวมไปถึงการดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรค เราก็เลยจัดตั้งศูนย์ PWA LIFE CENTER ขึ้นมา ซึ่งเป็นศูนย์ที่เน้นการดูแลสุขภาพโดยองค์รวมแบบป้องกัน ซึ่งจะทำให้เรามีสมดุลของร่างกายทั้งจากภายในและภายนอกด้วย และที่สำคัญคือมันจะเป็นลักษณะของการดูแลสุขภาพเป็นรายบุคคล

โดยแนวคิดของการจัดตั้งศูนย์ PWA LIFE CENTER เรามองว่าการดูแลสุขภาพของแต่ละบุคคลมันไม่เหมือนกัน แต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องไลฟ์สไตล์ เรื่องของอาหารการกิน ชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั้งเรื่องของช่วยเจนเนอเรชั่น X หรือ Y ก็มีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็เป็นการนำมาสู่การทำโมเดลการรักษาที่เน้นไปที่การดูแลรักษาและให้การแนะนำเป็นรายบุคคลที่มันสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของบุคคลนั้นๆ มากที่สุด ซึ่งศูนย์แห่งนี้จะมีการดูแลแบบรายบุคคล ตั้งแต่การวินิจฉัย การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ต่างๆ เข้ามาช่วย การใช้แล็ปที่มันทันสมัยมากขึ้นที่สามารถตรวจได้ถึงขั้น ดีเอ็นเอ ของแต่ละคน ตรวจเลือดให้มันลึกขึ้น ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้มันจะทำให้แพทย์มีข้อมูลต่างๆ ที่สามารถจะนำเสนอเรื่องของการดูแลสุขภาพ”

ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ สนองนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0

ที่จริงแล้วทุกคนรู้ว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีกับสุขภาพ แต่หากดูกันให้ดีจะเห็นว่าปัจจุบันคนไม่ค่อยออกกำลังกาย หรือคนไม่ค่อยหันมาให้ความสนใจในเรื่องเหล่านี้ นั่นเป็นเพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป เทคโนโลยีและวิวัฒนาการทางการแพทย์และข้อมูลสุขภาพมีให้ได้ค้นหามากมาย ทำให้หลายๆ คนจึงหันไปให้ความสำคัญกับข้อมูลเหล่านั้นมากขึ้นกว่าการดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย

“สำหรับในยุคปัจจุบัน ที่เรารู้กันว่ามันเป็นยุค 4.0 ผู้คนให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ก็สามารถหาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นั่นเป็นเพราะว่าเทคโนโลยีดิจิตอลก้าวเข้ามาเร็วมาก ข้อมูลต่างๆ ก็เข้ามามาก ดังนั้นในเมื่อไลฟ์สไตล์ของผู้คนเปลี่ยนไป เราในฐานะโรงพยาบาลที่ในปีนี้เน้นในเรื่องของการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน จึงต้องทำให้รูปแบบการรักษามีความทันสมัยเพิ่มขึ้น ซึ่งศูนย์ PWA LIFE CENTER ก็สามารถตอบโจทย์ในเรื่องเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี โดยเรามีการใช้ข้อมูล ใช้ผลจากแล็ป ใช้งานวิจัยต่างๆ มาช่วยในเรื่องของการประมวลผลข้อมูล ซึ่งคนไข้หรือผู้ที่เข้ามารับคำแนะนำให้เกิดความเชื่อว่าสุขภาพของเขาสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ของเขาได้ ซึ่งสุดท้ายมันก็มีผลให้เห็นได้ว่าหลังจากนั้น มันมีผลกระทบในแง่ของคอเลสเตอรอลก็ดี ในแง่ของฮอร์โมนต่างๆ ก็ดี สมดุลในร่างกาย ผลเลือด ว่ามันดีขึ้นอย่างไรบ้าง

นอกจากนั้นในแง่ของภาครัฐกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ต้องบอกว่าประเทศไทยเป็นฮับทางด้านสุขภาพ ซึ่งตรงนี้มันไม่ใช่แค่การรักษาเพียงอย่างเดียว ตอนนี้การเป็นฮับสุขภาพมันไปไกลเกินกว่านั้น มันเป็นเรื่องของการป้องกัน ซึ่งตรงนี้เราสามารถที่จะเป็นศูนย์กลางได้ เพราะว่าเมื่อเราพูดถึงเรื่องของสุขภาพเชิงรักษาก็จะมีความเกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์อื่นๆ ซึ่งประเทศไทยเรามีพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยว หรือผู้ที่จะเข้ามาทำการรักษาในเมืองไทยก็คงไม่ได้มาแค่เพียงเรื่องของสุขภาพเพียงอย่างเดียว ก็จะเชื่อมโยงไปถึงเรื่องของการท่องเที่ยวและอะไรต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งตรงนี้มันก็จะช่วยให้การดูแลกลุ่มนักท่องเที่ยวมันสอดประสานกันในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกันได้ โดยที่โรงพยาบาลก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีการผนึกกำลังกับกลุ่มด้านท่องเที่ยวและเครือข่ายต่างๆ เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศไทย”

ศูนย์ PWA LIFE CENTER เน้นให้ความสำคัญการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน

ผอ.ฝ่ายการตลาดฯ อธิบายต่อไปอีกว่า นอกจากศูนย์ PWA LIFE CENTER ที่เปิดขึ้นมาในปีนี้ โรงพยาบาลยังให้ความสำคัญกับเรื่องของการลดอาการปวด ซึ่งเกิดขึ้นกับคนไข้ที่รับการผ่าตัด ซึ่งจะช่วยให้คนไข้รู้สึกเจ็บปวดน้อยลงนั่นเอง

“สำหรับในปีนี้นอกจาก ศูนย์ PWA LIFE CENTER  ทางโรงพยาบาลจะเน้นไปที่เรื่องของเทคนิคการลดปวด หรือ Pain management จะนำมาเสริมในกลุ่มหัตถการ ซึ่งทุกคนก็จะพูดว่าแต่เดิมแผลเล็กเจ็บน้อย นอนโรงพยาบาลไม่นาน ซึ่งเรื่องนี้โรงพยาบาลทุกที่ก็สามารถทำได้ ซึ้งทางโรงพยาบาลเราก็ได้ไปดูข้อคิดเห็นจากลูกค้า ผลปรากฏว่าคนไข้บางทีเขากังวลในเรื่องของความเจ็บปวดหลังการผ่าตัด ด้วยปัจจัยตรงนี้เราก็เลยทำในเรื่องของเทคนิคการลดปวดขึ้นมา โดยจัดตั้งเป็นศูนย์ขึ้นมา โดยในศูนย์แห่งนี้จะมีแพทย์หลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ศัลยกรรม แพทย์ดมยาต่างๆ เข้ามาแล้วก็ช่วยกันใช้เทคนิคตรงนี้ในแง่ของการลดปวดให้กับคนไข้ ซึ่งคนไข้แต่ละคนก็จะมีระดับความปวดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแพทย์จะเข้ามาช่วยในเรื่องนี้หลังจากการผ่าตัดให้ลดอาการปวดกับคนไข้ให้น้อยที่สุด

ในส่วนของศูนย์ PWA LIFE CENTER ที่หลายๆ คน มองว่าจะมีลักษณะเหมือนกับศูนย์เสริมความงามหรือไม่ ต้องบอกเลยว่าศูนย์ของเราแห่งนี้มันไม่ใช่ศูนย์เสริมความงามอย่างที่หลายๆ ท่านเข้าใจ ตรงนี้มันเป็นเรื่องของการป้องกันให้ห่างไกลจากโลกมากกว่า ซึ่งจุดประสงค์ก็เพื่อให้เป็นศูนย์รวมสังคมสุขภาพดี หรือ Wellness Society ที่ผู้เข้ามาใช้บริการไม่จำเป็นต้องเจ็บป่วยก็สามารถเข้ามาที่โรงพยาบาลได้ สำหรับจุดเด่นของศูนย์แห่งนี้ คือ การรักษา การให้คำแนะนำ การพูดคุยกับผู้ที่เข้ามาใช้บริการเกี่ยวกับเรื่องราวความรู้ในเรื่องการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพที่ดี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน นอกจากนั้นก็ยังมีการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในการตรวจเพื่อสามารถแสดงผลชี้วัดที่ชัดเจนได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ พร้อมกันนั้นก็ยังมีโปรแกรมการตรวจสุขภาพที่ลงตัวเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย และทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล ตรงนี้มันไม่ได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความงามแต่อย่างใด แต่มันเป็นผลพลอยได้มากกว่า เพราะเมื่อเรามีสุขภาพที่ดี ผิวพรรณก็จะเปล่งปลั่งสดใสตามไปด้วยนั่นเอง”